irpg Community
เอาTRPGแนวหุ่นยนต์ของฝรั่งมาแนะนำนิดหน่อย (ภาค2) CthulhuTech - Printable Version

+- irpg Community (https://irpg.in.th)
+-- Forum: Other Discussion (https://irpg.in.th/forum-16.html)
+--- Forum: Video Games, Anime and Media (https://irpg.in.th/forum-21.html)
+--- Thread: เอาTRPGแนวหุ่นยนต์ของฝรั่งมาแนะนำนิดหน่อย (ภาค2) CthulhuTech (/thread-603.html)



เอาTRPGแนวหุ่นยนต์ของฝรั่งมาแนะนำนิดหน่อย (ภาค2) CthulhuTech - Kuruni - 10-03-2012

คราวนี้เป็นไซไฟเต็มตัวล่ะนะ

ฟังจากชื่อก็คงรู้ว่าเป็นงานที่รวมตำนานคธูลูกับหุ่นยนต์เข้าด้วยกัน (ใครไม่รู้จักอันแรก ไปดูที่นี่ได้) ซึ่งในเล่มนั้นทีมงานระบุว่าได้ไอเดียหลักๆจากเอวาฯ, ราเซฟอน, โรโบเทค แล้วก็กายเวอร์ (ตัวไหนมีต้นแบบมาจากตัวไหน ใครตามการ์ตูนแนวหุ่นคงรู้)


[Image: corebookcover.jpg]
ในอนาคตอันใกล้ มนุษย์เริ่มเรียนรู้เทคโนโลยีเหนือมิติหลังจากศจ.เทเรซา แอชครอฟท์ได้ศึกษาตำรา The Mysteries Within การศึกษาตำรานี้ทำให้ศจ.แอชครอฟท์นั้นเสียสติไปตามธรรมเนียมตำราอาถรรพ์ แต่ก็ทิ้งโน้ตที่ใช้การได้ให้นักวิจัยรุ่นหลังเอาไปต่อยอด (การวิจัยเทคโนโลยีพวกนี้ ในเวลาต่อมได้ใช้วิธีให้ทีมวิจัยแบ่งงานกันศึกษา แต่ก็ต้องทำใจว่าทีมงานจะสติดีจนจบโครงการไม่ถึงครึ่งอยู่ดี) จนได้เครื่องกำเนิดพลังงานมิติ Dเอนจิน ซึ่งเทคโนโลยีพวกนี้ ถ้าใช้สำนึกของเราแล้ว เรียกมันว่าเวทมนตร์น่าจะถูกกว่า

Dเอนจินทำให้ปัญหาพลังงานขาดแคลนของโลกได้ เทคโนโลยีที่เคยมีปัญหาเพราะพลังงานไม่พออย่างระบบต้านแรงโน้มถ่วงนั้นก็ใช้งานได้ด้วยDเอนจิน เมื่อไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงแบบเดิมๆอีก การพัฒนาทางอวกาศก็ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันก็มาพร้อมกับความตึงเครียดของการเมืองระดับโลก เพราะ Dเอนจินอยู่ในการครอบครองของสหประชาชาติใหม่ซึ่งเป็นเหมือนรัฐบาลสูงสุดของชาติสมาชิก (ไม่ใช่เป็นแค่เสือกระดาษที่ไม่มีอำนาจแบบทุกวันนี้) นำโดยอเมริกาและยุโรป (...ก็คนเขียนเป็นอเมริกันนี่) กลุ่มที่ยังต่อต้านสหประชาชาติใหม่นั้นนำโดยตะวันออกกลางซึ่งเสียประโยชน์จากการพัฒนาDเอนจิน และจีน ซึ่งยังไม่ยอมให้ใครมามีอำนาจเหนือรัฐบาลของตน

ในการทดลองใช้Dเอนจินเป็นเครื่องยนต์ของยานพาหนะนั้น นักบินทดสอบรายงานว่ามีผลข้างเคียงแปลกๆ นั่นก็คือรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองถูกเชื่อมโยงกับพาหนะ บริษัทแอชครอฟท์(ตั้งตามศจ.แอชครอฟท์)สนใจเรื่องนี้และได้เริ่มพัฒนาหุ่นยนต์รูปแบบมนุษย์เพื่อใช้ประโยชน์จากคุณสมบัตินี้เต็มที่ ผลก็คือรูปร่างที่คุ้นเคยของหุ่นยนต์นั้นทำให้ปฏิกิริยาตอบสนองดีขึ้นมาก หุ่นยนต์ของแอชครอฟท์ทำให้ความก้าวหน้าทางอวกาศยิ่งรุดหน้าขึ้นอีก มนุษย์เริ่มตั้งอาณานิคมในอวกาศไปถึงดวงจันทร์ของดาวพฤหัส และแน่นอนว่า บ.แอชครอฟท์ก็ได้เริ่มพัฒนาหุ่นยนต์สงครามด้วยเช่นกัน แต่ยังไม่ทันได้ทำสงครามใหญ่กันก็เกิดเรื่องเสียก่อน

มนุษย์ต่างดาว มิโก แห่งยุกกอธ (ดาวพลูโต) ชักจะรู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อพวกมนุษย์โลกทำท่าจะเป็นภัยคุกคาม สำหรับมิโกนั้น ที่ผ่านมาก็เห็นมนุษย์เหมือนมนุษย์เห็นลิง (เป็นแค่พวกงี่เง่าที่ใช้เครื่องมือเป็น ควรจะอยู่ในกรงให้ใช้ทดลองอะไรๆ) เมื่อเห็นมนุษย์เรียนรู้เทคโนโลยีเวทมนตร์ได้ก็เริ่มรู้สึกว่าเจ้าพวกนี้ชักจะก้าวหน้าเกินไปแล้ว และคิดจะจัดการมนุษย์ก่อนจะเป็นภัยจริงๆ แต่มิโกนั้นยังไม่อยากเปิดเผยตัวกับมนุษย์ จึงใช้แผน ขโมยเทคโนโลยีเวทมนตร์ของมนุษย์มาดัดแปลง แล้วก็สร้างเผ่าพันธุ์ใหม่โดยดัดแปลงDNAของมนุษย์เอง กลายเป็นมนุษย์ที่มีผิวกายสีดำและดวงตาเรืองแสงสีแดง นัซซาดิ
[Image: p163.jpg]
มิโกเริ่มสร้างนัซซาดิให้เป็นเผ่าพันธุ์ขนาดใหญ่ พร้อมกับสร้างอดีตหลอกๆทั้งวัฒนธรรมและตำนานให้นัซซาดิเชื่อว่าพวกตนเป็นผู้มาจากกาแล็กซีอื่นเพื่อกำจัดมนุษย์ที่กำลังจะเป็นภัย (นัซซาดิส่วนใหญ่แล้วจำความได้ตั้งแต่ที่ตนตื่นจากโคลด์สลีป มีแต่ระดับผู้บังคับบัญชาที่รู้ความจริง แต่พวกนี้ก็ยอมทำงานให้มิโกเพื่อจะได้เป็นผู้นำของนัซซาดิ) อาณานิคมในอวกาศของมนุษย์ค่อยๆขาดการติดต่อไปทีละแห่งสองแห่ง ก่อนที่กองยานของนัซซาดิจะมาถึงโลกในที่สุด การโจมตีของนัซซาดิทำให้การเมืองของโลกที่กำลังเครียดจบไปโดยปริยาย ทุกชาติร่วมกันตั้งรัฐบาลโลกเพื่อต่อสู้กับนัซซาดิ

สู้กันอยู่หลายปี โลกเสียหายไปไม่ใช่น้อย แต่ก็ยังยันนัซซาดิไว้ได้ จนกระทั่งนายทหารของนัซซาดิกลุ่มหนึ่งเริ่มสงสัย เพราะพวกตัวเองดูเหมือนมนุษย์โลกมากกว่ามิโกที่อยู่เบื้องหลังเป็นไหนๆ ในที่สุดก็ได้สืบเรื่องราวจนทราบความจริงจากผู้บังคับบัญชารายหนึ่งที่เกิดอาการสติแตกหลังจากที่ทนดูนัซซาดิกับมนุษย์เข่นฆ่ากันมานาน พวกนัซซาดิที่รู้ความจริงแล้วตัดสินใจขอยอมแพ้มนุษย์โลก มีพวกที่ยังฝักใฝ่มิโกเพียงเล็กน้อยซึ่งถูกตามล่าอย่างหนัก นัซซาดิมอบข้อมูลทั้งหมดของมิโกที่ตัวเองรู้ให้มนุษย์โลก ส่วนมนุษย์โลกนั้นในที่สุดก็ตัดสินใจรับพวกนัซซาดิให้มาตั้งรกรากในแถบคิวบา

พวกนัซซาดิอยู่ในอาการหมดอาลัยตายอยากกันเป็นส่วนใหญ่เพราะเท่ากับว่าวัฒนธรรมและความเชื่อของเผ่าพันธุ์ตนนั้น ที่ยังเหลือเป็นของจริงก็มีแค่ภาษาเท่านั้นเอง แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจว่าจะสร้างอารยธรรมใหม่จะดีกว่า (พวกนัซซาดินั้นเดิมทีเป็นพวกนักรบแท้ๆ แต่หลังจากนี้จะเริ่มชมชอบศิลปะมากกว่า) ถึงมนุษย์บางกลุ่มจะยังเกลียดนัซซาดิอยู่ แต่ก็ไม่มีเวลามาทะเลาะกันนานนัก เพราะแน่นอนว่าเมื่อแผนการใช้นัซซาดิล้มเหลว มิโกก็ตัดสินใจบุกโลกด้วยตัวเองโดยยกทัพมาในยานแม่ขนาดยักษ์ที่ทำให้กองยานนัซซาดิที่เคยเจอนั้นเล็กไปถนัดใจ
[Image: migouscene.jpg]
พวกมิโกมีเทคโนโลยีที่ทำให้มนุษย์เชื่อฟังได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยที่ยังคงนิสัยและความจำเดิมไว้ (ยังดีที่ระบบแสกนสมองซึ่งสหพันธ์โลกใหม่ใช้เป็นระบบรักษาความปลอดภัยนั้นช่วยตรวจหาคนที่ถูกมิโกล้างสมองได้) ที่สำคัญคือพวกมิโกนั้นใช้งานหุ่นยนต์ชีวภาพซึ่งเหนือกว่าที่กองทัพโลกใช้และยังมีจำนวนมากกว่าอีกด้วย แม้ว่าจะได้คำแนะนำจากพวกนัซซาดิทำให้มีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้านานโขก็ยังต้านการบุกของมิโกไม่ได้ (พวกนัซซาดินั้นตัดสินใจว่าจะช่วยมนุษย์สู้จนตัวตาย และพวกมิโกก็จะฆ่านัซซาดิทิ้งหมดจริงๆ แต่ถ้าเป็นมนุษย์จะเอาไปล้างสมอง) และถูกมิโกค่อยๆยึดพื้นที่ไปเรื่อยๆ ซึ่งมิโกก็คงจะขยี้กองทัพโลกไปแล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าจู่ๆก็มีสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวมาร่วมแจม

ย้อนกลับไปก่อนที่สงครามจะปะทุสี่สิบปี บริษัทยักษ์ใหญ่อีกแห่ง คริสซาลิส ได้เริ่มหาตำราเวทมาพัฒนาเทคโนโลยีเวทมนตร์ของตัวเอง และได้"นีโครโนมิคอน ฉบับสมบูรณ์"กับ"ลมหายใจแห่งรุลูเยห์"มาศึกษา นั่นทำให้เทพ ไนอาลาโธเทป สนใจบริษัทคริสซาลิสขึ้นมา ไนอาลาโธเทปใช้ร่างอวตารมนุษย์นำเหล่าสาวก ชิลเดรนออฟเคออส เข้าร่วมกับคริสซาลิส สิ่งที่คริสซาลิสได้มาจากตำราทั้งสองไม่ใช่เทคโนโลยีแบบDเอนจิน แต่เป็นพิธีกรรมที่ทำให้เปลี่ยนมนุษย์ไปเป็นสิ่งมีชีวิตจากต่างมิติได้ ซึ่งผู้ที่ผ่านพิธีนี้แล้วจะเรียกว่า โดฮานอยด์ ถึงแม้ว่าพนักงานส่วนใหญ่ของคริสซาลิสจะยังไม่รู้ตัว แต่ความจริงนั้นผู้บริการของคริสซาลิสนั้น ถ้าไม่ใช่โดฮานอยด์ก็เป็นจอมเวทของชิลเดรนออฟเคออส โดยไนอาลาโธเทปนั้นเป็นผู้จัดการใหญ่ของบริษัท

ไนอาลาโธเทปใช้เครือข่ายของคริสซาลิสแทรกกำลังเข้าไปในรัฐบาลโลก ขณะเดียวกันก็ดำเนินการตามเจตจำนงค์เดิม นั่นก็คือการปลดปล่อยเหล่าเทพที่หลับใหลมาแต่ดึกดำบรรพ์ ด้วยเครือข่ายของคริสซาลิส ชิลเดรนออฟเคออสได้รวบรวมลัทธิของเทพที่เคยกระจัดกระจายให้มารวมกัน หนึ่งนั้นคือ ฮัสเทอร์ ผู้อวตารมาเป็น ราชาวิบัติ ในปราสาท ณ ที่ราบแห่งเลง พร้อมกับที่เหล่าสาวกของฮัสเทอร์ก็เริ่มเรียกสัตว์ประหลาดมาอาละวาด ขณะเดียวกัน ภาคีแห่งดากอน กองทัพของอมนุษย์ ดีพวัน ก็เริ่มตามหานครรุลูเยห์ที่สาบสูญ เพื่อหาทางปลุก คธูลูขึ้นมา

การที่สาวกของเทพทั้งสองเข้ามาร่วมในสงครามคราวนี้ ทำให้ชัยชนะของมิโกที่น่าจะได้มาโดยง่ายกลายเป็นเรื่องลำบากขึ้นทันตาเห็น มิโกนั้นรู้ว่าถ้าเหล่าเทพกลับมาแล้วตัวเองก็ต้องย่อยยับตามมนุษย์ไปแน่นอน แต่ก็ตัดสินใจว่าจะกำจัดทิ้งให้หมดทั้งสามพวกเลยและไม่ยอมสงบศึกกับรัฐบาลโลก ส่วนรัฐบาลโลกนั้น แค่มิโกพวกเดียวก็แย่อยู่แล้ว พอมีศัตรูมาเพิ่มก็เลยตัดสินใจพัฒนาอาวุธใหม่ขึ้นมาเพื่อให้เหนือกว่าหุ่นยนต์ชีวภาพของมิโก แล้วผลก็ออกมาเป็น เอนเกล สาธารณะชนทั่วไปนั้นคิดว่าเอนเกลเป็นหุ่นยนต์รุ่นใหม่ แต่จริงๆแล้วมันเป็นอสุรกายที่เกิดจากการดัดแปลงพันธุกรรมของมนุษย์ นัซซาดิ และสิ่งมีชีวิตที่ระบุไม่ได้ เกราะที่เอนเกลสวมนั้นก็มีไว้เพื่อให้ประชาชนรับมันได้มากกว่าใช้ป้องกันตัว
[Image: p158.jpg]
เอนเกลนั้นเหนือกว่าหุ่นยนต์ของมิโกก็จริง แต่ก็มีจุดอ่อนสำคัญหลายประการ ข้อแรกคือนักบินแต่ละคนจะต้องได้รับการจูนให้เข้ากับเอนเกลแต่ละตัว เอนเกลกับนักบินจึงเป็นคู่กันเฉพาะเท่านั้น นักบินไม่สามารถบังคับเอนเกลตัวอื่นได้ และเอนเกลก็ไม่ยอมตอบสนองการควบคุมของนักบินคนอื่นเหมือนกัน เมื่อรวมกับกระบวนการผลิตเอนเกลแล้ว เอนเกลจึงมีจำนวนน้อยมาก ข้อสองก็คือ ในกรณีที่นักบินตายหรือหมดสติระหว่างปฏิบัติการนั้น เอนเกลก็จะถูกสัญชาตญาณดิบของตนครอบงำและทำลายทุกอย่าง เอนเกลที่กำลังคลั่งจะไม่ยอมหยุดจนกว่าทุกอย่างที่เคลื่อนไหวได้ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ทั้งมิตรและศัตรู จะถูกทำลายหมด (แต่นักบินที่สลบไป หลังจากนั้นมักรู้สึกว่าตัวเองเข้าใจเอนเกลที่เป็นคู่หูมากขึ้น)

นั่นก็คือสงครามที่กำลังดำเนินไป ระหว่างรัฐบาลโลก มิโก ภาคีแห่งดากอน และสาวกของฮัสเทอร์ สิ่งประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ก็คือกองทัพโลกนั้นสูญเสียมากขึ้นทุกที ระดับผู้บังคับบัญชาของรัฐบาลโลกจำนวนไม่น้อยเลยที่เหลือความหวังแค่จะถ่วงเวลาให้พอหาทางพาประชากรบางส่วนหนีไปจากโลกได้ก็พอแล้ว ข่าวที่ทำให้ผู้บังคับบัญชายิงตัวตายไปหลายคนก็คือ ยานแม่ลำที่สองของมิโกนั้นกำลังเดินทางมาโลก แต่ที่ไม่มีใครรู้ก็คือ เรื่องนี้หมายความว่ามิโกเองก็จนตรอกในสงครามคราวนี้แล้ว ยานแม่ลำที่สองนี้เป็นกองทัพที่เหลือทั้งหมดของมิโก ซึ่งยอมทิ้งให้ยุกกอธไร้ซึ่งการป้องกันเพื่อหวังจบสงครามคราวนี้

แต่เบื้องหลังสงครามหน้าฉาก ก็มีพวกที่ต่อสู้อีกด้านกับโดฮานอยด์ที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง เมื่อบริษัทคริสซาลิสได้พบกับเมืองโบราณและตำรา "ข้อเขียนทาเก" ซึ่งเป็นอารยธรรมเดียวที่ค้นพบซึ่งเกี่ยวข้องกับ"เทพผู้ถูกลืม"ซึ่งเคยต่อสู้กับเทพโบราณอย่างคธูลู คริสซาลิสทำลายเมืองนั้นเพื่อไม่ให้คู่แข่งอย่างแอชครอฟท์มีโอกาสได้พบเจอ แล้วเอาข้อเขียนทาเกไปศึกษา ปรากฏว่า กลุ่มที่วิจัยข้อเขียนทาเกเริ่มรู้สึกว่าที่ตนเองกำลังจะพาเทพโบราณเหล่านั้นกลับมานั้น อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องก็ได้ ในที่สุดจึงได้รวมตัวกัน ขโมยข้อเขียนทาเกหนีไปจากคริสซาลิสพร้อมกับลบข้อมูลทั้งหมดของข้อเขียนทาเกไปจากฐานข้อมูลของคริสซาลิส

พวกที่หนีจากคริสซาลิส รวมตัวกันตั้ง"สมาคมเอลดริทช์" เพื่อต่อต้านคริสซาลิส โดยสิ่งที่อยู่ในข้อเขียนทาเกก็คือพิธีกรรมที่คล้ายกับพิธีแปลงร่างโดฮานอยด์ ผิดกันแต่ว่าสิ่งมีชีวิตจากต่างมิตินั้นเพียงแต่เป็นเหมือนกาฝากแบบพึ่งพาอาศัยเจ้าของร่าง "ทาเกอร์"ที่ยังไม่แปลงร่างจะเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ (โดฮานอยด์นั้นยังไงก็จะมีส่วนที่ผิดปกติให้เห็น ถึงจะซ่อนไว้ได้ แต่แค่การตรวจเลือดก็จะรู้แล้ว) ผู้ก่อตั้งสมาคมเอลดริทช์ นั้น เมื่อได้เห็นทาเกอร์รุ่นแรกแล้วก็สบายใจที่ภารกิจของตนลุล่วง และได้ฆ่าตัวตายกันหมดก่อนที่สัญชาตญาณโดฮานอยด์ของตัวเองจะหลุดจากการควบคุม โดยทั่วไปแล้ว ทาเกอร์จะแข็งแกร่งกว่าโดฮานอยด์มาก แต่ขณะที่ใครๆก็สามารถกลายเป็นโดฮานอยด์ได้ คนที่มีคุณสมบัติจะเป็นทาเกอร์นั้นหายากกว่ามากและยังต้องรับการฝึกฝนอย่างหนัก

สมาคมเอลดริทช์นั้นตัดสินใจปิดตัวเงียบเป็นองค์กรลับโดยไม่ช่วยรัฐบาลโลกอย่างเปิดเผย เพราะถือว่าพวกตนมีฐานะเป็นผู้สืบทอดของเทพผู้ถูกลืม (สมาคมฯนับถือเทพผู้ถูกลืมเหมือนชาวคริสต์นับถือนักบุญมากกว่าจะบูชาแบบพวกสาวกของเทพอื่นๆ เพราะรู้ว่าพวกตนก็เข้าใจเทพเหล่านี้น้อยนัก) พันธมิตรกลุ่มเดียวของสมาคมฯก็คือหน่วยข่าวกรองของรัฐบาลโลกซึ่งรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลของคริสซาลิสอยู่แล้ว ทั้งสองฝ่ายจึงมีการแลกข้อมูลกันโดยมีจุดประสงค์เดียว นั่นคือการหาทางเปิดโปงบริษัทคริสซาลิสให้ได้

ตัวอย่างหุ่นในเรื่อง

ส่วนตัวแล้วผมชอบDragonMechมากกว่านะครับ แต่CthulhuTechมันดังกว่าน่ะ

[Image: neg.jpg]
หุ่นยนต์(ปกติ)ของรัฐบาลโลก ซอร์ดซีรีส์ เป็นหุ่นแบบมาตรฐาน คุณสมบัติจะสมดุลย์กว่าของพวกอื่นๆ
[Image: nazzadi.jpg]
หุ่นยนต์ของนัซซาดิ เน้นการโจมตีด้วยความเร็วมากกว่าซอร์ดซีรีส์ของมนุษย์ (แต่มนุษย์ก็บังคับได้)
[Image: Engel.jpg]
เอนเกล บางตัวนั้นคนออกแบบก็ต้องทำใจ เพราะหุ้มเกราะยังไงก็ยังดูเป็นตัวประหลาด
[Image: migou.jpg]
หุ่นยนต์ของมิโก (แฟนๆมาครอสFอาจนักถึง Vajra แต่ต้นแบบจริงๆมันมาจาก Inbit ใน Robotech Part 3 (มอสปีด้า))
[Image: merrow.jpg]
เมอร์โรว์ "ชุดเกราะ"ของภาคีแห่งดากอน พวกนี้ไม่เน้นหุ่น ที่มีอยู่นั้นมีไว้ชนกับหุ่นรุ่นหนักที่เกราะเอาไม่อยู่เท่านั้น (สาวกของฮัสเทอร์ชอบใช้สัตว์ประหลาดมากกว่า ไม่มีหุ่น)
[Image: elib.jpg]
[Image: vrykol.jpg]
โดฮานอยด์
[Image: Phantasm_Tager.jpg]
[Image: Ctech_Revenant_Tager_sm.jpg]
ทาเกอร์


RE: เอาTRPGแนวหุ่นยนต์ของฝรั่งมาแนะนำนิดหน่อย (ภาค2) CthulhuTech - Nivas - 10-03-2012

ทำไมเนื้อหาของมันทำให้ผมนึกถึงถภภาพยนต์ฟอร์มยักษ์ อีปิคอลังกาลเรื่องนึงเลย แพนด้าจ๊าก
นับว่าสนใจมากเลยทีเดียวกับการเอาตำนานเทพมาผสมผสานกับความล้ำสมัย ให้ตายสิผมชอบแนวนี้ชมัด ;w;


RE: เอาTRPGแนวหุ่นยนต์ของฝรั่งมาแนะนำนิดหน่อย (ภาค2) CthulhuTech - Muge9thD - 10-03-2012

เจ๋ง!!! นี่มันจะเจ๋งเกินกว่าเกม TRPG ทั่วไปแล้ว!!!
น่าเล่นชมัด!!!