irpg Community
บางส่วนจากพลังพิเศษ A-Z ในหนังสือ Don't Lost Your Mind - Printable Version

+- irpg Community (https://irpg.in.th)
+-- Forum: Other Discussion (https://irpg.in.th/forum-16.html)
+--- Forum: Video Games, Anime and Media (https://irpg.in.th/forum-21.html)
+--- Thread: บางส่วนจากพลังพิเศษ A-Z ในหนังสือ Don't Lost Your Mind (/thread-687.html)



บางส่วนจากพลังพิเศษ A-Z ในหนังสือ Don't Lost Your Mind - Kuruni - 10-20-2012

Don't Rest Your Headเป็น TRPGของค่ายเล็กๆน่ะครับ (Evil Hat Production) เป็นสไตล์ดาร์คแฟนตาซีในโลกปัจจุบัน กระทู้นี้จะเอามาแค่พวกพลังพิเศษ ในหนังสือ Don't Lost Your Mind แต่ถ้าไม่แนะนำตัวเกมบ้างเลยจะงงเปล่าๆ (หรือแนะแล้วจะยิ่งงงกว่าเดิม?)

Don't Rest Your Headเป็นเรื่องราวในนครวิปลาส (Mad City) คล้ายกับมิติคู่ขนานของเรา (ซึ่งเรียกว่านครนิทรา - City of Slumbering) คนที่จะเดินทางไปนครวิปลาสได้นั้นต้องเป็นพวกไม่ยอมหลับยอมนอนมานานโข (เหตุผลไม่สำคัญ จะเป็นเครียดจัดจนนอนไม่หลับ หรือกำลังโต้รุ่งเพราะใกล้สอบ งานถึงเส้นตาย หรือแม้แต่ดื่มกาแฟมากไปก็ใช้ได้ทั้งนั้น) จนถึงจุดๆหนึ่ง คนที่ไม่ยอมนอนผู้นั้นก็จะเห็นประตูหรือหน้าต่างประหลาดที่คนอื่นมองไม่เห็นซึ่งเป็นทางไปนครวิปลาส มนุษย์ที่ไปยังนครวิปลาสได้นั้นเรียกว่า อเวค (Awake) อเวคนั้นมีความสามารถพิเศษแบบยอดมนุษย์สองแบบคือ Exhaustion ซึ่งเป็นความสามารถธรรมดาที่เกินระดับของมนุษย์ (อย่างวิ่งเร็วผิดมนุษย์ กระโดดสูงถึงยอดตึก เซียนพนันที่ดวงดีสุดๆ ฯลฯ) กับ Madness ซึ่งเป็นความสามารถผิดธรรมชาติ100% (พวกพื้นๆที่เรารู้จักกันก็อย่างบินได้ เทเลพอร์ท โทรจิต ส่วนที่เจ๋งกว่านั้นให้อ่านต่อไป...)

ถึงจะฟังเหมือนเรื่องแนวยอดมนุษย์ แต่ไม่งั้นหรอก ในนครวิปลาสนั้นนอกจากอเวคแล้วก็มีสิ่งมีชีวิตอีกสองแบบ หนึ่งคือโลคัล (Local) หรือสามัญชน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นNPCในเกมได้เต็มปาก โลคัลนั้นเป็นมนุษย์ที่ไม่มีมิติ โลคัลอาจเป็นเพื่อนที่ดี คุยสนุก ไปไหนมาไหนไม่ทิ้งกัน แต่นั่นก็เพราะโลคัลคนนั้นรับบทเป็น"เพื่อน" นอกจากการเป็น"เพื่อน"แล้ว โลคัลคนนั้นจะไม่มีตัวตนอะไรเลย ไม่เคยทำงาน ไม่ได้เป็นนักเรียน และในทางกลับกัน โลคัลที่เป็น "พ่อค้า" ก็ไม่มีบทบาทอื่นนอกจากการเป็น"พ่อค้า"เหมือนกัน พวกอเวคนั้นมักบรรยายถึงโลคัลว่าเป็นตัวละครหลากสีสัน แต่ข้างในว่างเปล่า พวกที่สองก็คือเหล่าสัตว์ประหลาดที่เรียกว่าไนท์แมร์ (Nightmare)ซึ่งคอยตามล่าอเวค

พลังพิเศษทั้งสองอย่างนั้นของอเวคนั้น สามารถเค้นระดับความสามารถที่สูงกว่าเดิมมาได้ (ไม่ต้องรอเลเวลสูงๆ) แต่ทุกครั้งที่ใช้พลังนั้นก็จะทิ้งผลกระทบไว้รุนแรงตามระดับความสามารถที่เค้นออกมา Exhaustionนั้นจะทำให้อเวคเหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็จะฟุบหลับไปเป็นวัน แต่เมื่อตื่นขึ้นมานั้นอเวคคนนั้นก็จะเสียพลังทั้งหมดไป ซึ่งคนธรรมดาในนครวิปลาสนั้นไม่ต่างอะไรจากอาหารอันโอชะเคี้ยวง่ายของไนท์แมร์ มีแต่การตาแข็งตื่นให้ชีวิตกลับสู่สภาพอดนอนอีกครั้งที่จะคืนความสามารถให้อเวคได้ ส่วน Madness นั้นจะทำให้จิตใจของอเวคค่อยๆหลุดการควบคุมไป ในขั้นแรกนั้นจะไม่ต่างจากการ"เผลอตัว"ใช้พลัง แต่ยิ่งนานเข้า สภาพจิตของอเวคก็จะยิ่งเปลี่ยนไปโดยค่อยๆสะท้อนธรรมชาติของความสามารถ Madnessออกมา จนกระทั่งในที่สุด สภาพจิตใจที่บ้าคลั่งของอเวคคนนั้นก็จะทำให้กลายเป็นไนท์แมร์ตัวใหม่ไป

(นอกเรื่องนิด นาฬิกาของนครวิปลาสนั้นมีสิบสามชั่วโมง ซึ่งชั่วโมงที่สิบสามนั้นไม่มีในโลก ตอนนั้นประตูที่เชื่อมต่อกับนครนิทราจะปิดตายหมด อันเป็นเวลาแสนสำราญของไนท์แมร์ที่ล่าอเวคได้สะดวกใจ)

ถ้าทำให้งงมากกว่าเดิมก็ขออภัยครับ (555) ต่อไปนี้เป็นบางส่วนที่ผมคัดมาจากพลังพิเศษสาย Madness 26ประการ ซึ่งคนเขียนเดิมเรียงตามตัวอักษรA-Z ผมแปลงสารไปพอสมควรเพื่อให้เข้าใจกันง่ายๆโดยไม่ต้องรู้ระบบของเกมเน้อ (ไอเดียคนเขียนเริ่ดมากมาย)

(อ่านดูตอนแรกอาจจะเหมือนพลังยอดมนุษย์ แต่ยังไงนี่ก็เป็นเกมสยองนะ)

A - Ants (มด)
ความสามารถ คุณน่ะเป็นรังมดมีชีวิตเราดีๆนี่เอง มีมดจริงๆคลานอยู่ใต้ผิวหนังของคุณ ถ้ามีใครฟันคุณขาดสองท่อนก็จะเห็นโพรงและห้องเล็กๆเต็มไปหมด ยามที่ความเป็นจริงละสายตาจากคุณผู้ที่กำลังจะเลือดออก ฝูงมดก็กรูกันออกมา แม้ตอนที่พวกมันออกมาจากตัวคุณแล้วพวกมันก็ยังเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของคุณอยู่ดี คุณรู้รสชาติที่พวกมันชิม ได้กลิ่นที่พวกมันดม และรู้ถึงสิ่งที่พวกมันรู้สึก ถ้าคุณพยายามมองผ่านสายตาของพวกมัน สมองของคุณก็หมุนติ้ว ภาพจากดวงตานับล้านคู่ที่ส่งผ่านสมองนั้นดูเหมือนกับเพิ่งกินเห็ดผิดชนิดเข้าไป

ถ้าคุณเลือดออกจนห้องโอนเอนไปมา ทุกๆอย่างรอบตัวคุณก็จะปกคลุมด้วยมด ให้คุณได้ชุ่มฉ่ำกับสัมผัสของพวกมัน หรือถ้าคุณสาดน้ำอัดลมใส่ใครสักคน คุณก็ส่งเจ้าพวกตัวจ้อยไปหาเขาแล้วก็นั่งสบายๆขณะที่พวกมันกัด เคี้ยว เจาะลงไปบนเนื้อและอาหาร ตอนที่พวกมันคลานกลับไปในตัว คุณก็จะรู้สึกอิ่มแปล้

ระดับ1 - เกาหนังคุณจนเป็นแผลแล้วปล่อยมดออกมาสักสองสามร้อยตัว พอจะใช้ทำร้ายใครได้ ลิ้มรสและสัมผัสสิ่งที่มีขนาดพอๆกับเก้าอี้มีพนัก หรือใช้เตือนภัยในพื้นที่ใกล้เคียง

ระดับ2 - กรีดแล้วฉีกหนังคุณให้มดออกมามากพอจะปกคลุมห้องนั่งเล่นที่มีรสนิยมหน่อยได้ กัดคนจนตายได้ในไม่กี่อึดใจ หรือกระจายพวกมันออกไปและสัมผัสทุกๆอย่างในบ้าน

ระดับ3 - กรีดข้อมือเหมือนคนฆ่าตัวตายแล้วปล่อยให้พวกมันพุ่งออกมา กัดกินทุกคนในห้องผู้น่าสงสารที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ปล่อยพวกมันออกไปสัมผัสทุกอย่างในละแวกเพื่อนบ้าน ไม่ก็คลุมบ้านทั้งหลัง ทั้งภายในและภายนอกด้วยเหล่ามดสีแดงเลือด

หลุด
สู้ - คัน กัด คลาน จั๊กจี้ ความรู้สึกพวกนี้มันทำให้คุณแทบบ้าแล้ว ทางเดียวที่มันจะสงบลงได้ก็คือการได้ระบายใส่อะไรสักอย่าง ยิ่งคุณพยายามทำตัวให้เย็นไว้ เหล่ามดก็ดูจะดูดซับความโกรธเข้าไป จนคุณทนไม่ได้ คุณอาเจียนออกมาเป็นก้อนสีแดงที่ขยับยุกยิก จะหลอกตัวเองก็ตามสบาย แต่คุณรู้สึกดีเป็นบ้าตอนที่พวกมดทำร้ายใครเข้า

หนี - พวกมดดันผิวหนังของคุณ พยายามวิ่งหนีโดยไม่มีคุณไปด้วย รู้สึกเหมือนผิวหนังจะฉีกขาดแล้วปล่อยให้คุณยืนตัวเปลือยเปล่าเลือดหยดติ๋งๆ วิ่งไปให้ทันท่าจะดีกว่า

ครอบงำ นานวันเข้า ความรู้สึกเหมือนมีอะไรคลานอยู่ใต้ผิวหนังก็ไม่ใช่แค่ความรู้สึกอีก คุณมีกล้ามเนื้อปูดที่ไม่เคยยุบตัว แต่เคลื่อนไปรอบๆเหมือนหนูที่อยู่ใต้พรม แผลตามแขนขาของคุณก็หยุดสมานตัวด้วย พวกมันเป็นรูอยู่อย่างนั้น รูมด

แตกสลาย เมื่อคุณข่วนและทึ้งตัวเองจนไม่มีอะไรเหลือนอกจากรังมดเดินได้ เป็นพาหนะให้พวกมดที่เจาะโพรงในตัวคุณ ถูกผลักดันด้วยความเจ็บปวดและเกลียดชังตนเองจนไม่อยากได้อะไรนอกจากกระจายพวกมันออกมา ผู้คนนั้นมีความลับที่เน่าเหม็นมากไป ความลับที่คุณอยากหยิบมาดูทีละชิ้น ถ้าคุณทำแบบนั้นทางความรู้สึกไม่ได้ ก็แค่ใช้มดคลุมพวกมันแล้วทำทางกายซะก็หมดเรื่อง ชื่อของคุณก็คือ Agony Ant

C- Cabbie (แท็กซี่) (อันนี้ล่ะผมชอบมากมาย)
ความสามารถ ยามเมื่อคุณโบกมือและผิวปากก็จะมีแท็กซี่มาจอดทุกครั้ง โดยมากแล้วมันก็เป็นรถ เว้นแต่คุณจะอยู่ในที่แปลกๆ แต่จะแปลกยังไงก็ไม่ใช่ปัญหาถ้าคุณมีปัญญาจ่ายค่าโดยสาร บางทีมันก็เป็นรถแท็กซี่โทรมๆ บางทีมันก็เป็นรถม้า บางทีมันก็เป็นเสลี่ยงที่มีคนยกจอมปากมาก

แต่ค่าโดยสารมันไม่เท่ากันหรอกนะ และคุณก็อาจจะต้องตะโกนให้เขามารับด้วย การเรียกแท็กซี่ข้างถนนที่กำลังยุ่งน่ะไม่แพงหรอก แล้วคุณก็ไม่ต้องออกเสียงมากกว่าการผิวปากด้วย การเรียกให้แท็กซี่พังกำแพงเข้าไปรับคุณในอาคารจะแพงขึ้น และคุณก็อาจจะต้องตะโกน เรียกแท็กซี่ให้ขับรถพาคุณลงใต้แม่น้ำไปส่งที่สถานทูตแอตแลนติสน่ะได้เสียของรักของหวงไปแน่ แล้วก็เตรียมลมในปอดให้พอตะโกนแข่งกับแตรเขาสัตว์ด้วย

ไม่ว่ามันจะมาในรูปลักษณ์ไหน หรืออยู่ที่ใด คนขับก็จะเป็นคนหน้าตาคุ้นๆที่พูดเกี่ยวกับเรื่องแถวๆนั้นไปเรื่อย ทีมกีฬาที่คุณอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อ หรือข่าวการเมืองที่บางครั้งก็ถูกเผง

ระดับ1 - เรียกแท็กซี่จากถนนที่คุณคิดว่าน่าจะมีมารับสักคัน ไปไหนก็ได้ที่แท็กซี่ธรรมดาไป แม้จะอยู่กันคนละเมืองเลยก็เถอะ อาจจะมีเลี้ยวมีกลับรถมากหน่อย แต่แม้ยามรถติดก็ไม่เคยใช้เวลาเกินครึ่งชั่วโมง ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าโดยสาร คุณไม่คิดถึงมันอีกแน่ คนขับก็เป็นมิตรและรู้เรื่องเล็กๆน้อยๆมากมาย ลองถามเขาดูว่าเมืองที่หมายมีร้านอาหารไหนอร่อยบ้าง ไม่ก็จะลองถามแหล่งซื้อปืน.45พร้อมเป้าเลเซอร์ดูก็ได้

ระดับ2 - เรียกแท็กซี่จากที่ไหนก็ได้ บนยอดตึก ในท่อระบายน้ำ กลางทะเลทราย ไปที่ไหนก็ได้ที่คุณบอกชื่อและทิศทางเขาได้ ระหว่างทาง คนขับก็จะบอก"ข่าวจากวงใน"ให้ ที่บางครั้งคุณหวังว่าไม่ได้ยินซะจะดีกว่า เขาเป็นมิตร แต่บางครั้งคุณก็อยากทำเป็นไม่ได้ยินคำถามที่เขาชวนคุย ส่วนเรื่องค่าโดยสาร คุณจะจำได้ดีเลยล่ะว่าจ่ายเป็นอะไรไป

ระดับ3 - เรียกแท็กซี่จากที่ไหนก็ได้ สร้างความวินาศสันตะโรหรือให้ขับนิ่มแค่ไหนก็ได้ ไปที่ไหนก็ได้ที่คุณนึกภาพออก ต่อให้สี่แยก666ในเมืองทาร์ทารัสจะรถติดคาที่ก็เถอะ คนขับช่างพูดมากจริงๆ แล้วเขาก็เผลอหลุดปากเรื่องความลับที่น่าสะพรึงออกมาบ่อยเสียด้วย แต่คุณไม่อยากจ่ายสิ่งที่เขาจะเอาไปเป็นค่าโดยสารหรอก

หลุด
สู้ - "ตามผู้หญิงคนนั้นไป! ฝ่าไฟแดงรวดไปเลย! ขึ้นไปบนทางเท้าก็ได้!" คนขับพร้อมจะไล่ตามใครก็ได้ถ้าคุณโบกค่าโดยสารให้เขาเห็น ถ้าในเมืองนี้ล่ะก็เงินก็ใช้ได้ ถ้าคุณไล่ตามใครในที่แปลกๆ โลกที่สร้างจากจินตนาการของเด็กพิเศษ หรือไล่ทับผีดิบที่โดไปมาในถนานเมืองเกาลูนยามค่ำคืน คุณก็ต้องโยนของดูต่างหน้าคนรักใส่ตักคนขับ แต่ในยามที่อดรีนาลีนพลุ่งพล่านด้วยความโกรธนั่น คุณไม่สน ยังไงก็คุ้ม จนกระทั่งคุณเอามันคืนมาไม่ได้ ตอนที่คุณสงบลงพร้อมความสยดสยองในสิ่งที่คุณทำลงไป

หนี - "ขับไป! เร็ว!" แท็กซี่นี่ล่ะคือสุดยอดยานช่วยชีวิต แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าคุณจะไปลงที่ไหน

ครอบงำ คุณมีความรู้สึกว่าคุณอยู่กับที่ได้น้อยลงทุกที ความรู้สึกเร่งรีบ ว่าคุณต้องไปที่ไหนสักที่โดยเร็วค่อยๆสะสมมากขึ้น คุณรู้สึกไม่ค่อยดีเวลาต้องอยู่ที่ไหนนนานๆ และรู้สึกตัวอีกทีก็กำลังยกมือเพื่อเรียกแท็กซี่ แน่นอนว่าคุณก็เรียกมันมาได้ง่ายขึ้นทุกที เวลาผ่านไป ที่คุณต้องทำก็แค่คิด บางที ไกลๆออกไปนั่น อาจจะแค่บังเอิญหรือเป็นภาพลวงตาก็ได้ คุณก็เห็นแท็กซี่สีเหลืองตามคุณมาห่างๆ รอให้คุณโบกมือเรียก

แตกสลาย และแล้ว คุณก็ต้องไปที่ไหนโดยด่วนที่สุดจนได้แต่ตะโกนว่า "ไป! ไปเถอะน่า!" แต่เมื่อถึงที่หมาย คุณก็ไม่มีอะไรจะจ่ายเป็นค่าโดยสาร คุณจ่ายหมดแล้วทุกอย่าง...นอกจากตัวคุณเอง คนขับส่ายหน้าอย่างระอา ล็อคประตู แล้วพาคุณกลับไปที่อู่

ที่นั่น พวกนั้นล่ามโซ่คุณไว้กับแท็กซี่ของคุณเอง พวกนั้นบอกคุณแค่ว่า "ชวนผู้โดยสารคุยไปเรื่อยๆ" คุณรับผู้โดยสาร โดยเฉพาะพวกอเวค ประตูปิดลงช้าๆ เบาะนั่งที่แสนจะไม่สบายนั้นก็กลายเป็นความทรมานแสนสาหัส คุณชวนพวกนั้นคุย ขับไป แล้วก็ทิ้งเจ้าก้อนเนื้อเต้นได้ไว้ที่ไหนสักแห่ง คุณกลายเป็นTaxi Cab Confessor

(เอามาสามอันก่อน ถ้ามีใครถูกใจค่อยแปลเพิ่ม)

K- Knife (มีด)
ความสามารถ เมื่อคุณเอื้อมมือไปมันก็อยู่ตรงนั้น มีด มีดทุกเล่มที่เคยคร่าชีวิต

มันไม่เคยเป็นมีดเล่มเดิม และมันอยู่ในมือคุณราวกับว่าคุณควรถือมันอยู่แล้ว บางครั้งทุกอย่างก็ปกติดี จนคุณเอามือล้วงกระเป๋า และรู้สึกถึงน้ำหนักอันเย็นชาของมีดพก ตอนที่นิ้วคุณแตะเหล็กนั้นคุณก็ขนลุกซู่ มีดรู้ว่าคุณต้องการมัน แม้ว่าคุณจะยังไม่รู้ตัว เห็นผู้ชายคนนั้นมั้ย? คิดว่ามีอะไรอยู่ในหนังสือพิมพ์ที่ม้วนไว้นั่น? ทำไมเขาถึงมองคุณแบบนั้นนะ? มีดรู้ว่ามันไม่ดีแน่

มีอะไรบางอย่างที่คุณควรจะรู้เกี่ยวกับมีดนะ มีดนั่นฆ่าอะไรก็ได้ การฆาตกรรมน่ะเป็นแค่เรื่องพื้นๆ และถึงมันจะทำได้ดีมันก็แค่ขั้นพื้นฐานเท่านั้น มีดฆ่าแนวคิดได้ มันออกจะคลุมเคลือ แต่ถ้าคุณได้ทำลงไปสักสองสามครั้งก็จะเข้าใจเอง ถ้าคุณใช้มีดเชือดคอหอยคาสโตรคุณก็ฆ่าระบอบคอมมิวนิสม์ในคิวบาได้ แนวคิดมันไม่หายไปหรอกนะ แต่มันจะเสียแรงขับดันต่อสังคมไป กลายเป็นเพียงเศษซากความคิดที่ไม่มีใครสนใจจริงจังอีก การหาทางทำลายแนวคิดนี่มันซับซ้อนหน่อย อาจจะต้องมีการลองผิดลองถูกกับคนถูกลูกหลงไปบ้าง แต่ก็ทำได้แน่นอน

ถึงจะไม่ใช้มันฆ่าอะไร มีดก็เป็นเครื่องมือตัดชั้นยอดที่ตัดการผูกมัดทุกอย่างได้ มันตัดข้อผูกมัดของเวทมนตร์ได้ มันตัดความผูกพันธ์ทางอารมณ์ได้ และสะบั้นความสัมพันธ์ ก็อาจจะเป็นเพราะแบบนั้น ผู้คนเลยเชื่อกันว่าการให้มีดเป็นของขวัญจะตัดขาดความเป็นเพื่อน ปกติแล้วคุณก็จะให้เศษเงินเป็นค่ามีดเหมือนซื้อมา ซึ่งคุณก็อดสงสัยไม่ได้ว่าคุณจ่ายอะไรไปเป็นค่ามีดพวกนี้

ระดับ1 - มีดอยู่ในมือ เดี๋ยวได้มีใครเลือดออกแน่ มันยากอยู่ที่จะไม่ให้มันฆ่าใคร แต่ถ้าคุณพยายามจริงๆไม่ให้มันเฉือนไปมามั่วๆ คุณก็แค่ทำให้บาดเจ็บหรือพิการได้

ระดับ2 - ไม่มีอะไรที่คุณฆ่าด้วยมีดในมือไม่ได้ และทุกอย่างจะเลือดออกเมื่อคุณเชือดมัน สัตว์ประหลาดที่เป็นตุ๊กตากลไกฉีดน้ำมันออกมา และแม้แต่ผีก็ปล่อยไอวิญญาณคล้ายน่้ำนมสีขาวจากแผล ถึงตรงนี้ ไม่มีอะไรที่จะห้ามไม่ให้มีดในมือคุณปลิดชีพแล้ว

ระดับ3 - มีดกระหายการฆ่าสิ่งที่ไม่มีตัวตน คุณสามารถฆ่าแนวคิด ความผูกพันธ์ ความสัมพันธ์ อะไรก็ได้ที่คุณต้องการ เวทมนตร์ที่ใช้ควบคุมปิศาจขาดกระจุยในมีดเดียว คู่รักที่ทนอยู่กันไปอย่างถูกข่มเหงขาดสะบั้นเพียงแทงเบาๆ

หลุด
สู้ - ให้ตายเถอะ มันช่างเลยเถิดไปได้ง่ายเสียจริงๆ มีดอยู่นั่น ในมือคุณ ราวกับถูกสร้างมาคู่กัน ถ้าคุณผ่อนคลาย มีดก็จะขยับมือให้เอง มันทำในสิ่งที่มันชอบ เฉือนเนื้อ หั่นกระดูก การจะปฏิเสธมันช่างยากเย็นจริงๆ รู้สึกผิดยังไงอยู่ คุณก็เลยเออออไปบ้าง

หนี - เลือดไหลมาตามมีด เปื้อนมือคุณ แล้วคุณก็ทิ้งมันลงพื้น ในตัวเต็มไปด้วยความรู้สึกสยองต่อสิ่งที่คุณทำลงไป และที่คุณสนุกกับมัน วิ่งไปจนเป็นลมเลยเถอะ แต่คุณหนีตัวเองไม่พ้นหรอก ตอนที่คุณหยุดพักหายใจนั้น คูณก็สงสัยว่ามีดที่ทิ้งไปนั่นตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง

ครอบงำ ทำไมเธอถอยกรูดไปอย่างนั้นล่ะ? ก็ใช่ว่าคุณกำลังโกรธ แต่เธอก็ตอบแทนคุณมากพอๆกับที่เอาไปไม่ใช่รึ? จนคุณก้มหน้าลง ฉิบหาย! คุณถือปังตอเปื้อนเลือดเล่มใหญ่อยู่นี่หว่า เอาอีกแล้ว มีดมันมาตอนที่คุณไม่ต้องการ จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเอื้อมมือไปตอนไหน แย่กว่านั้น ความโกรธที่ทำให้ฆ่าคนได้ ความโกรธที่คนทั่วๆไปเขาอดกลั้นไว้กัน มันรุนแรงขึ้นทุกที คุณรู้สึกว่าวลี"โชคดีชะมัดที่ตอนนั้นไม่ได้ถือมีดไว้ ไม่งั้นได้แทงมันแน่"นั้นพูดได้ยากขึ้นทุกที ในที่สุดแล้ว คุณก็จะได้ฆ่าคนที่คุณไม่ต้องการทำร้าย และนั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้น

แตกสลาย ใครๆก็มีส่วนของตนที่ตัวเองไม่ชอบทั้งนั้น สิ่งที่ตัวเองเกลียด สิ่งที่อยากตัดทิ้งไป คนอื่นๆก็ได้แต่รับมือกับมัน แต่ไม่ใช่คุณ คุณเกลาตัวเองใหม่ได้ เฉือนส่วนที่คุณไม่ชอบออกไป นิสัยผัดวันประกันพรุ่ง...ตัดออก ความกลัวการเข้าสังคม...ตัดออก โรคสุราเรื้อรัง...ตัดออก ความสงสาร...ตัดออก ความใส่ใจ...ตัดออก ความรัก...ตัดออก

เมื่อคุณเริ่มตัดส่วนที่ไม่ดีของตน มุมมองของคุณก็เปลี่ยนไปด้วย จู่ๆทุกอย่างก็ดูแย่ลงไปหมด คุณก็เลยเฉือนตัวเองไปเรื่อยๆ ทีละนิด ทีละนิด จนคุณเหลือตัวเองเพียงนิดเดียว คุณก็เลยต้องมองหาสิ่งที่คุณไม่ชอบข้างนอก ดูสิ! โลกนี้เต็มได้วยผู้คนมากมายที่เต็มไปด้วยสิ่งน่าสะอิดสะเอียน

สิ่งเดียวที่คุณได้ยินในหัวคือเสียงกระซิบของมีด เมื่อคุณได้เล่มใหม่มาคุณก็ไม่ทิ้งมันไปอีก ตอนแรกมันก็แค่ครึ่งโหล แล้วก็เป็นหลายๆโหล ก่อนจะถึงหลักร้อย คุณนี่เป็นร้านขายมีดเดินได้เราดีๆนี่เอง ทั่วตัวปกคลุมด้วยใบมีดที่ส่องประกายและซ้อนกันเหมือนเกล็ดโลหะ ด้วยแรงขับดันที่จะเฉือนที่อย่างที่เรียบง่ายน่าเบื่อออกไปให้หมด คุณต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงสมองว่างๆกับก้อนเนื้อที่กรีดร้อง มนุษย์นี่พอเฉือนสิ่งที่น่าเกลียดออกไปหมดแล้วก็ช่างว่างเปล่าเสียจริง คุณกลายเป็นKnifeman


RE: บางส่วนจากพลังพิเศษ A-Z ในหนังสือ Don't Lost Your Mind - LuZi - 10-20-2012

สุดยอด...พลังพิเศษแต่ละอย่างนี่แนวคิดเจ๋งหลายๆเลย


RE: บางส่วนจากพลังพิเศษ A-Z ในหนังสือ Don't Lost Your Mind - Muge9thD - 10-20-2012

อ่านจบแล้ว... อยากอ่านอันอื่นบ้างล่ะ >w<b+


RE: บางส่วนจากพลังพิเศษ A-Z ในหนังสือ Don't Lost Your Mind - oRaMeNo - 10-20-2012

สุดยอด....ออกแนวมืดๆ แต่ก็เป็นแนวคิดที่เจ๋งไปเลย =w=b*
อยากอ่านทั้ง26แบบเลยครับ แมวน้ำเต้น


RE: บางส่วนจากพลังพิเศษ A-Z ในหนังสือ Don't Lost Your Mind - Kuruni - 10-22-2012

แหะๆ แปลหมดคงยากครับ บางอันมันฮาร์ดคอร์ไปหน่อย

เอาเพิ่มมาอีกสอง

J-Jungle (ป่าดงดิบ)
ความสามารถ ในใจของคุณมีป่าอยู่ ป่าดงดิบ

ปิดตาลง มองเข้าไปขางใน แล้วต้นไม้ดึกดำบรรพ์ก็จะผุดขึ้นมารอบๆตัวคุณ กลืนเอาสิ่งแวดล้อมอันน่าเบื่อไปเสียสิ้น มันอบอ้าว ชื้น แล้วก็โบราณ มีวิหารโบราณขนาดยักษ์ที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์อยู่ในป่านี้ สัตว์เทพเจ้าที่ล่วงรู้ความลับแปลกๆ น้ำพุลึกลับที่ช่วยชำระจิตใจของคุณได้ ความกังวล ความเครียด บาป ถ้าคุณกล้าเสี่ยงต่อภัยในป่าดงดิบ คุณก็จะได้พบสิ่งอันทรงอำนาจมากมาย ด้วยความพยายามอีกหน่อย คุณก็สามารถใส่ป่าเข้าไปในจิตของคนอื่นได้ ทำให้พวกมันหลงอยู่ในนั้น ตอนที่พวกมันอยู่ในนั้นกับคุณ พวกมันก็ต้องทำตามกฏของป่าและการถูกไล่ล่า บางคนบอกว่าป่านั้นเหมือนนครวิปลาส บางทีมันอาจจะเคยเป็นอย่างนั้นก็ได้

ระดับ1 - ใช้นิมิตของป่าดงดิบชักนำคุณในโลกภายนอก สู้กับลิงบาบูนดุร้ายในป่า แล้วคุณก็จะซัดเจ้าอันธพาลที่หาเรื่องคุณบนถนนได้ง่ายๆ หลังจากที่วิ่งหนีเผ่าล่าหัวมนุษย์ในป่ามาแล้ว การวิ่งหนีตำรวจในสวนสาธารณะก็เป็นเรื่องขี้ผง

ระดับ2 - ผจญภัยในป่าดงดิบเพื่อแสวงหาพลัง แล้วกลับมาภายนอกด้วยพลังนั้นในไม่กี่อึดใจ รับพลังและความดุร้ายของเสือภูเขา แปลงร่างเป็นนกแก้วหลากสีในตอนที่ไม่มีใครเห็น

ระดับ3 - ส่งป่าดงดิบเข้าไปในจิตของคนอื่น พาพวกเขาไปผจญภัยด้วย ไม่ก็ทิ้งไว้ให้หลงอยู่ในนั้นท่ามกลางเหล่าสัตว์ร้ายและเทพเจ้าโบราณ

หลุด
สู้ - แรงสะเทือนของป่าดงดิบ กลิ่นสาบสางของสัตว์เทพเจ้า เสียงกลองที่ดังอยู่ไกลๆเข้ากับจังหวะหัวใจของคุณ เร็วขึ้น เร็วขึ้น แดนป่าเถื่อนไร้กฏเกณฑ์นั้นยั่วยุคุณให้ปลดปล่อยความบ้าคลั่งไร้ระเบียบของตนออกมาบ้าง

หนี - มีอะไรบางอย่างที่ใหญ่กว่าตัวคุณหลบซ่อนอยู่ใต้ใบไม้ คุณรู้ตัวเสมอว่าความตายนั้นกำลังหาจังหวะเหมาะๆมาเยือนคุณ ทางรอดเดียวคือวิ่ง วิ่ง แล้วก็วิ่ง ก่อนที่ความตายอันป่าเถื่อนนั้นจะมาหา

ครอบงำ และแล้ว ป่าดงดิบมันก็คืบคลานเข้ามาทั้งที่คุณไม่ได้เรียกมัน คุณเห็นลิงเล่นอยู่นอกแม็คโดนัลด์ แล้วก็อนาคอนดาตัวใหญ่ขดตัวอบู่ที่เบาะหลังรถ คุณได้ยินเสียงกลองแว่วๆจากที่ไกลๆ โลกนี้ดูจะเต็มไปด้วยต้นไม้มากขึ้นทุกที จนในที่สุด ทุกแห่งก็กลายเป็นป่าดงดิบ

แตกสลาย เมื่อทุกหนทุกแห่งเป็นป่าดงดิบ ทั้งภายในและภายนอกของคุณ คุณเที่ยวไปในป่า พยายามเอาตัวรอดให้นานที่สุด แต่สุดท้ายแล้วอะไรบางอย่างก็จัดการคุณจนได้ คุณล้มลง คุณเน่า แล้วป่าดงดิบก็โตขึ้นอีกด้วยสารอาหารในตัวคุณ อะไรบางอย่างที่ดูคล้ายกับคุณออกมาจากกะเปาะของต้นกัญชา แต่มันเป็นไม้ ใบไม้ ดอกไม้ และตะไคร่ สัตว์ร้ายที่อิจฉาป่าดงดิบและทุกคนที่เข้าออกที่นั่นได้ คุณกลายเป็น Jungle Jim

L - Language (ภาษา) (ใครที่คิดว่าอันที่แล้วธรรมดา อันนี้ล่ะเจ๋งใช้ได้)
ความสามารถ คุณสามารถพูดถ้อยคำที่จำได้ครึ่งๆกลางๆจากภาษาที่พระเจ้าใช้สร้างโลกได้

ครั้งหนึ่งดวงจันทร์ได้กระซิบความลับบางอย่างกับคุณ เสียงนั้นดังขึ้นในคืนเดือนหงาย และเบาลงในคืนเดือนเสี้ยว แต่ละคืนนั้น มันบอกชื่อของสิ่งต่างๆเป็นภาษาที่ถูกลืมไปแล้ว คุณมองอะไรบางอย่าง แล้วมันก็บอกชื่อของสิ่งนั้นให้คุณฟัง ทุกๆคืน คุณได้รู้ศัพท์ของคำว่า "เก้าอี้" "สุนัข" "ตำรวจ" หรือ "คนรัก" บทเรียนคำศัพท์ดำเนินไป แล้วไม่นานนักคุณก็รู้ภาษาของดวงจันทร์ก่อนที่มันจะบอกคุณ

อย่างค่อยเป็นค่อยไป คุณก็รู้ว่าถ้าคุณพูดมันอย่างถูกต้องและตั้งใจอย่างนั้นแล้ว ตอนที่เสียงของคุณยังก้องอยู่ ทุกอย่างก็จะทำตามที่คุณพูด บอกให้รถโทรมๆของคุณสตาร์ทให้ติดนั้นเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ยิ่งคุณสั่งในสิ่งผิดปกติมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น ถ้าคุณสั่งให้หมาที่เลี้ยงไว้ยืนสองขาแล้วร้องโอเปรา มันก็ร้องคาร์เมนได้ดีเลยล่ะ แต่คุณก็ต้องเหงื่อท่วม เมื่อคุณเงียบเสียง สะโพกของเจ้าหมาก็บิดเบี้ยวและกระอักเลือด หมาไม่ได้ถูกสร้างมาให้เต้นระบำและร้องเพลง การที่คุณให้มันทำอย่างนั้นจึงเจ็บปวดนัก

ก็เหมือนกับว่าโลกนี้ดำเนินไปด้วยเสียงก้องของถ้อยคำที่พระเจ้าใช้สร้างโลก สิ่งที่คุณทำก็คือการพูดให้ดังกว่า ตะโกนกลบเสียงนั้น เมื่อคุณเงียบลง ถ้อยคำดั้งเดิมก็กลับมาดังอีก

ระดับ1 - คุณบังคับให้สิ่งที่เป็นไปได้และน่าจะเป็นอย่างนั้นเกิดขึ้นจริง สัตว์ที่ตื่นกลัววิ่งหนีหรือเข้าทำร้าย ชายที่กำลังมีอารมณ์เข้ามาคุยด้วย รถเก่าๆเครื่องดับ ปืนสกปรกขัดลำ ใครบางคนมองไปทางอื่นชั่วครู่

ระดับ2 - คุณบังคับให้เกิดสิ่งที่เป็นไปได้ยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว เก้าอี้ที่มีคนนั่งอยู่พังลงไป รถใหม่เสีย ปืนระเบิดคามือ ยามฟุบหลับ หมาที่เป็นมิตรทำร้ายเจ้าของ พายุก่อตัวท่ามกลางอากาศแจ่มใส

ระดับ3 - ตะโกนถ้อยคำแห่งปาฏิหาริย์และเหลวไหล คุณทำลายความเป็นจริงได้ชั่วครู่ มันคงอยู่ไม่นานนักหรอก สิ่งที่คุณสั่งขัดกับกฏเกณฑ์จนมันต้องหายไปเมื่อคุณหยุดพูด แต่ตอนที่คุณพูดภาษาของดวงจันทร์นั้น ไฟจะลุกจากไม้ที่เปียกชื้น รถวิ่งได้เอง คนตายลุกขึ้นมาทำร้ายคนเป็น เลือดของศํตรูที่คุณเกลียดชังกลายเป็นตะกั่วเหลว ถึงปาฏิหาริย์ของคุณจะหายไปพร้อมคำพูด แต่ผลของมันก็ยังคงอยู่

หลุด
สู้ - คำพูดและการกระทำดูจะแยกกันไม่ออก คุณรู้ว่าคำพูดนั้นเตะโลกให้ฟันร่วงได้ คุณก็เลยตะโกนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่หลังจากนั้น คุณก็ไม่อาจถอนคำพูดของคุณได้อีกไม่ว่าจะพยายามสักแค่ไหน ตอนที่เสียงตะโกนของคุณกระแทกผู้คนเหมือนกระสุนปืนต่อต้านรถถัง และท้องฟ้าก็หลั่งเลือดด้วยเสียงนั่น

หนี - คุณได้ยินอีกเสียงตอนที่คุณเงียบลง เสียงนั้นลึกจนก้องอยู่ในกะโหลก เสียงนั้นดังจากพื้นดิน ผ่านเท้าของคุณ ทำให้กระเพาะคุณสั่นสะเทือน เสียงนั้นโกรธ โกรธคุณ มันเหมือนเด็กห้าขวบที่โดนพ่อตวาด...ถ้าคุณพ่อสูงสักหมื่นฟิต แต่คุณจะหนีจากความพิโรธของพระเจ้าได้ยังไงกัน? ตอนที่จนตรอกนั้น คุณก็พูดสร้างที่หลบซ่อนขึ้นมา ที่ที่แปลกประหลาด ที่ที่น่าสะพรึงกลัวจนแม้แต่พระเจ้าก็ไม่มีทางนึกได้

ครอบงำ บางครั้งคนที่คุณคุยด้วยก็มองคุณแปลกๆแล้วขอให้พูดคำที่เพิ่งพูดไป คุณเผลอใช้ภาษาดวงจันทร์โดยไม่ได้คิดถึงมันด้วยซ้ำ ตอนที่พยายามขันน็อตเครื่องยนต์ คุณสบถเบาๆ แล้วน็อตมันก็หลุดออกมา แย่กว่านั้น คุณเริ่มคิดเป็นภาษาดวงจันทร์ และทำให้สิ่งต่างๆเป็นไปเพียงแค่คิด การห้ามไม่ให้คิดอะไรเลวร้ายกับเจ้าคนขับรถที่เพิ่งปาดหน้าคุณไปนี่มันยากใช่ไหมล่ะ?

แตกสลาย ตอนที่คุณเริ่มคิดเป็นภาษานั้น กำแพงที่กั้นระหว่างในใจคุณกับนอกตัวคุณก็พังทลาย ด้วยความคิดและคำพูดที่เป็นสิ่งเดียวกัน สำนึกของคุณไหลออกมานอกกะโหลก แตกพองออกเป็นจินตนาการและความเป็นจริง พร้อมกับความทุกข์ในใจ ความหวาดกลัว ความลับ และความเกลียดชังอันน่าอับอาย ทะลักออกมาปนเปื้อนโลกนี้

เมื่อเป็นอย่างนั้น คุณก็ไม่อาจแยกตัวคุณกับอย่างอื่นได้อีก เสียงความคิดของคุณสร้างความเป็นจริง ซึ่งถูกทำให้บิดเบี้ยวด้วยพิษจากจิตใต้สำนึกที่ถูกปลดปล่อย ทุกที่ที่เสียงของคุณดังไปถึงจะผุพัง ทุกอย่างบิดเบี้ยว ผิดที่นิด แตกหักหน่อย และยิ่งเข้าใกล้ ยิ่งเสียงดัง ความเหนือจริงและสยดสยองก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น คูณพูดให้อะไรเกิดขึ้นก็ได้ แต่ไม่มีตัวคุณเหลืออยู่อีก คุณกลายเป็นOmnipotent Third Person


P-Past (อดีต) - Kuruni - 12-28-2012

เห็นกระทู้พลังพิเศษเลยคึกหยิบมาแปลอีกอัน...

P-Past (อดีต)
ความสามารถ คุณสามารถเร่งหรือกรอชีวิตตัวเองกลับได้ แก่ขึ้น เด็กลง ชีวิตทั้งชีวิตของคุณ จากเตียงเด็กถึงหลุมศพ อยู่ตรงนี้

มันง่ายๆนะ คล้ายๆการแสดงกลในงานเลี้ยง ชายหนุ่มเข้าไปในตู้เสื้อผ้า แล้วก็ออกมาเป็นเด็กชาย มีประโยชน์เยอะด้วย การย่องไปรอบๆโดยดูต่างไปโดยสิ้นเชิงนั่นเป็นเรื่องที่เห็นๆกันอยู่ ตอนคุณเป็นชายหนุ่ม กล้ามเนื้อคุณล่ำสัน แผลหายเร็ว แล้วคุณก็อึดพอจะต่อยกสองกับสาวๆได้สบาย ตอนนั้นคุณไม่ได้ใช้เรื่องพวกนี้ให้เป็นประโยชน์ แต่ตอนนี้คุณมีโอกาสแล้ว เมื่อคุณอายุมากขึ้น คุณก็ควบคุมตัวเองได้ เข้าใจร่างกายตัวเองดี คุณใช้สมองมากขึ้น และฮอร์โมนก็ถูกอายุทำให้สงบลงแล้ว

ถ้าคุณพยายามมากขึ้น อะไรๆก็เริ่มจะพิลึกพิลั่น ตอนอายุ 45 คุณชวนเพื่อนในที่ทำงานไปยิงปืนกัน จ่ายเงินไปสองร้อยเหรียญเพื่อเอาปืนกลพร้อมกระสุนมายิงระบายอารมณ์สามสิบวินาที คุณสามารถเป็นคุณตอนอายุ 45 ในขณะนั้นได้ เดี๋ยวนี้เลย และถือปืนกลพร้อมกระสุนตอนนี้

การเป็นคุณในเวลาหนึ่งๆในอดีตมันง่าย เพราะคุณจำได้ การเป็นคุณที่คุณจะเป็นมันยากขึ้นแล้วก็ออกจะเสี่ยงดวง เลือกเวลามามั่วๆ ตัวคุณในอีกห้าปี สามวัน กับเจ็ดชั่วโมง จะสวมกะโปรงฮาวายและโชกเลือดของคนอื่น ส่วนตัวคุณในอีกสิบปี สี่วัน สามชั่วโมง จะไว้หนวดสุดดุ กับกระเป๋าหนังที่เต็มไปด้วยธนบัตรอบอวลไปด้วยกลิ่นของใหม่ (ถ้าคุณเอาเงินไปใช้ตอนนี้ ก็หวังว่าจะไม่มีใครดูวันตีพิมพ์ก็แล้วกัน)

ระดับ1 – ปรับร่างกายของคุณไปตามเวลา เมื่อสองนาทีก่อนคุณถูกยิง แต่อาทิตย์ที่แล้วคุณยังสบายดีอยู่ สุดท้ายแล้วคุณก็ต้องกลับเป็นคุณในตอนนี้แล้วก็รักษาแผล แต่นั่นรอไว้คุณออกไปจากนรกตรงนี้ก่อนก็ได้

ระดับ2 – ส่งจิตของคุณไปตามเวลาด้วย มีประโยชน์มากเลยล่ะถ้าคูณอยากรู้ว่าสิ่งที่คุณจะทำนั่นดีมั้ย เจ้าหมาตัวนั้นดุหรือเปล่านะ? คิดถึงตัวคุณในอีกสิบนาทีข้างหน้า แล้วนับนิ้วมือของคุณในอนาคตดู มันก็มีคำถามที่รบกวนจิตใจอยู่หน่อย จะเกิดอะไรกับตัวคุณที่หายไปเพราะคุณทำสิ่งที่แตกต่างไปล่ะ? อา...อย่าคิดมากดีกว่านะ! อย่าคิดเลยว่าพวกนั้นจะอารมณ์เสียแค่ไหน

ระดับ3 – บิดเส้นชีวิตของคุณเป็นวงกลม เหมือนอุโรโบรอสที่กินหางตัวเอง เลื่อนตัวเองไปหนึ่งรอบของชีวิตแล้วกลับมา เป็นวงกลมที่ไม่มีขาดตอน รู้ทุกอย่างที่คุณจะได้รู้ในตอนนี้ เป็นทุกอย่างที่คุณจะได้และเคยเป็น เคลื่อนสำนึกของตนไปตามความน่าจะเป็นจนกว่าคุณจะตัดสินใจหรือกระทำอะไร (ซึ่งจะต้องเป็นสิ่งที่ถูกต้องแน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะพลาด) เข้าไปในบ่อน วางเงินทั้งหมดที่ช่อง 33 แดง แล้วปล่อยให้วงล้อหมุนไป คุณคือตัวคุณจากความเป็นไปได้ทั้งหมดของตัวคุณ ผู้แทงถูกสิบตารวด แล้วไม่ถูกฝูงคนรุมกระทืบหลังจากนั้น

หลุด
สู้ – คุณไม่มีทางรู้ว่าคุณจะเป็นยังไง มันยากจะจำได้ว่าคุณรู้สึกยังไงในชั่วขณะหนึ่ง และไม่มีอะไรบอกได้ว่าคุณรู้สึกยังไงในอนาคต แย่กว่านั้น คุณไม่มีทางรู้ว่าสภาพจิตในขณะนั้นของคุณจะรับมือกับสภาพเลวร้ายตอนนี้ยังไง มีตัวคุณอยู่เยอะแยะที่จะโผล่มา แล้วหลายๆตัวในนั้นก็กำลังบ่มความแค้นหรือความเจ็บปวดที่คุณยังไม่รู้สึกด้วยซ้ำ ตอนที่คุณดึงมันมาจากชีวิตตอนนั้นมาที่คุณตอนนี้ สิ่งแรกที่พวกนั้นอยากทำก็คือระเบิดมันออกมา มิตรในวันนี้อาจเป็นศัตรูของพรุ่งนี้ และนั่นก็เป็นเป้าอันเหมาะเจาะสำหรับความโกรธของคุณในอนาคตด้วย

หนี – บางครั้ง ตัวคุณที่คุณเปลี่ยนไปก็กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่คุณยังเก็บมาเป็นฝันร้าย หรืออนาคตที่คุณไม่มีทางนึกถึง ไม่ว่ายังไง ตัวคุณคนหนึ่งก็สติแตกแล้ววิ่งหนีไป และในตอนนั้น มันก็ยากจะจำได้ว่าตัวคุณเป็นใคร และตอนนี้เป็นเมื่อไหร่

ครอบงำ มันชักจะจำได้ยากว่าตอนนี้คุณควรเป็นคุณในตอนไหน การถ่ายรูปตัวเองไว้เทียบดูหน้ากระจกทุกเช้าช่วยได้มากเลย การเขียนบันทึกแบบละเอียดยิบก็เตือนความจำได้ดี ถ้ามีข้อความหลายๆอันหายไป คุณก็คือคุณในอนาคต ถ้าเห็นมีหลายๆข้อที่คุณจำไม่ได้ว่าเคยเขียน คุณก็คือคุณในอดีต (ไม่ก็มีอาการพิษสุราเรื้อรังขั้นรุนแรง อาจจะทั้งสองอย่างก็ได้) คุณรู้สึกอยากดูปฏิทินตลอด และยกนาฬิกาขึ้นดูบ่อยๆ คุณใช้ชีวิตด้วยความกลัวว่าคุณไม่ใช่ตัวจริง เป็นแค่ปิศาจจากอดีตที่ใช้เวลาที่ได้รับมา ไม่ก็เงาจากอนาคตที่จะหายไปเพราะการกระทำที่ต่างจากเดิม

มันจะเป็นเรื่องบัดซบไปเลยก็ตอนที่คุณรู้ตัวว่าวันนี้ไม่ใช่วันที่มันควรเป็น และตัวคุณที่คุณคิดว่าเป็นคุณในตอนนี้จริงๆแล้วเป็นคุณจากเมื่อไหร่สักขณะหนึ่ง แล้วตัวคุณในตอนนี้ก็แค่ใช้ตัวคุณมาทำอะไรสักอย่าง เมื่อมันได้สิ่งที่ต้องการแล้วมันก็จะส่งคุณกลับไปเวลาเดิม หรือแย่กว่านั้น ไปยังความว่างเปล่าที่พวกที่หายไปจากเส้นเวลาหายไปกัน คุณสาบานได้ว่าตอนนั้นน่ะคุณไม่ได้เป็นพวกน่ารังเกียจขนาดนี้แน่

แตกสลาย ในที่สุด คุณก็แยกอดีตกับอนาคตไม่ออกอีกต่อไป มันปนเปกันในห้วงแห่งขณะนี้อันแสนสับสน รูปร่างของคุณเปลี่ยนไปมาระหว่างอดีตกับอนาคต และคุณกระหาย กระหายที่จะได้สัมผัสประสบการณ์อันเป็นเส้นตรงของเหตุและผล ผู้คนมีสิ่งนั้น พวกนั้นใช้ชีวิตจากก่อนไปหลัง ทุกอย่างมีเหตุและผล ถ้าคุณกินคนพวกนั้น ชีวิตที่เป็นเส้นตรงของพวกนั้นก็จะทำให้คุณรู้ทิศทาง...อย่างน้อยก็ก่อนที่มันจะจางหายไปจนไม่เหลืออะไร พวกที่มีอนาคตอันไกลรออยู่ได้ผลดีที่สุด อย่างพวกเด็กเล็กๆที่มีชีวิตให้ใช้อีกเยอะ คุณกลายเป็น Cradle Robber