irpg Community
มาล่าวัตถุต้องสาปกันเถอะ The Holders Series - Printable Version

+- irpg Community (https://irpg.in.th)
+-- Forum: Other Discussion (https://irpg.in.th/forum-16.html)
+--- Forum: Video Games, Anime and Media (https://irpg.in.th/forum-21.html)
+--- Thread: มาล่าวัตถุต้องสาปกันเถอะ The Holders Series (/thread-811.html)

Pages: 1 2


มาล่าวัตถุต้องสาปกันเถอะ The Holders Series - Kuruni - 12-09-2012

งานสยองแบบเย็นๆอีกอันครับ The Holders Series เป็นงานสไตล์เรื่องเล่าที่ยืนยันไม่ได้ (แบบที่พบในฟอเวิร์ดเมล์หรือพวกเรื่องสยองขวัญทั้ง7ในโรงเรียน) เป็นเรื่องของวัตถุอาถรรพ์ 538 ชิ้น (เดิมมี2538ชิ้น แต่2000ชิ้นนั้นสาบสูญไปแล้ว) ซึ่งเรื่องราวของพวกมันทำให้มีผู้คนตามหาจากผู้ถือครอง (The Holder) บ้างก็แค่คนอยากรู้อยากเห็น บ้างก็แสวงหาอำนาจของพวกมัน แต่แท้ที่จริงแล้ว ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะพวกมันต้องการจะกลับมารวมกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่จะให้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด

ตามเรื่องแล้ว คนที่ไปหาพวกนี้ มักเริ่มต้นจากวัยรุ่นลองของ แล้วดันโชคดี(หรือซวย)ที่ได้เจอของจริงแล้วผ่านตัวแรกมาได้ หลังจากนั้นก็เหมือนไม่มีทางถอย เพราะวัตถุมันจะหาทางรวมกันให้ได้ (แบบแหวนในลอร์ดฯ) ต่อให้ไม่อยากหาเรื่องอีก ก็จะมีผู้แสวงหาคนอื่น(ซึ่งมักจะไม่ใช่คนแล้ว)มาชิงไปจนได้ (พวกวัตถุนี้ทำลายได้ แต่ไม่มีประโยชน์ เพราะรูปร่างของมันเป็นแค่เปลือกนอก ถึงเวลาที่มารวมกันแล้ว มันก็จะรวมกันในสภาพถูกทำลายอยู่ดี)

(เท่าที่ค้นดู เป็นเว็บรวมงานสยองขวัญออริจินัลแบบเป็นเรื่องเป็นราวเดียวกันเว็บแรกบนเน็ตเลยมั้ง เป็นบรรพบุรุษสำคัญของสถาบันSCPเลย)

(ใครทำเกมที่ใช้เรื่องแนว Urban Legend ประกอบน่าจะได้ไอเดียนะ)

ตัวอย่างชุดแรก

The Holder of the End

ในทุกเมือง ในทุกที่ ไปที่โรงพยาบาลโรคจิตที่ไหนก็ได้ที่คุณไปได้ เมื่อถึงโต๊ะหน้า ให้ถามหาคนที่เรียกตนเองว่า “ผู้ถือครองแห่งจุดจบ” หากเขามีสีหน้าหวาดกลัวแบบเด็กๆแล้ว คุณจะถูกนำไปที่ห้องๆหนึ่ง มันถูกซ่อนไว้ในส่วนลึกของอาคารนั้น คุณจะได้ยินเพียงใครบางคนกำลังพูดกับตัวเองสะท้อนไปทั่วทางเดิน มันเป็นภาษาที่คุณไม่เข้าใจ แต่วิญญาณของคุณจะรู้สึกหวาดกลัวอย่างไม่อาจบรรยายได้

หากเสียงนั้นเงียบไปเมื่อไหร่ จงหยุด และพูดดังๆว่า “ฉันแค่ผ่านมาเท่านั้น ฉันอยากคุย” หากมันยังเงียบ หนีมาซะ อย่าหยุด อย่ากลับบ้าน อย่าพักในโรงแรม วิ่งไปเรื่อยๆ และหลับในที่ที่ร่างของคุณหมดแรงล้ม คุณจะรู้เองในยามเช้าถ้าคุณหนีมาได้

หากเสียงพูดนั้นดังต่อเมื่อคุณเอ่ยปากแล้วก็จงเดินต่อไป ในห้องนั้น สิ่งที่คุณจะได้เห็นคือห้องไร้หน้าต่างที่มีคนอยู่มุมหนึ่งของห้อง พูดในภาษาที่ไม่รู้จัก และอุ้มอะไรบางอย่างอยู่ คนผู้นั้นจะตอบคำถามเดียวเท่านั้น “อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อพวกมันมารวมกัน?”

คนผู้นั้นจะมองตาคุณ และเริ่มตอบคำถามของคุณถึงรายละเอียดอันน่าสยดสยอง มีผู้คนมากมายที่เป็นบ้าไปในห้องนั้น บ้างก็หายสาบสูญ บ้างก็ฆ่าตัวตาย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดและมองไปที่วัตถุในมือของคนผู้นั้น คุณก็จะอยากทำแบบนั้น แต่หากจะทำก็ขอเตือนไว้ ความตายของคุณจะอำมหิตและสยดสยองอย่างโหดร้ายที่สุด

คุณจะตายในห้องนั้น ด้วยมือของคนผู้นั้น

วัตถุนั้นคือหมายเลข 1 จาก 538 พวกมันจะมารวมกันไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด



Holder of Peace

ในทุกเมือง ในทุกที่ ไปที่โรงพยาบาลโรคจิตที่ไหนก็ได้ที่คุณไปได้ บุกไปถึงโต๊ะหน้าด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว ให้ถามหาคนที่เรียกตนเองว่า “ผู้ถือครองแห่งสันติ” ผู้ดูแลจะผงะและขอให้คุณพูดเบาลง อย่าทำตามคำขอนั้น ถ้ายังไงล่ะก็ให้พูดดังขึ้นอีก เพราะความโกรธในเสียงของคุณเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้โซ่ดึงปิดประตูหลังโต๊ะนั่นไว้

คงความโกรธในเสียงของคุณไว้ ผู้ดูแลจะมุดลงไปใต้โต๊ะและชี้นิ้วสั่นเทาไปทางประตูสุดทางเดินขวามือที่ไม่เคยมีอยู่มาก่อน จงหันไปและกระทืบเท้าไปตลอดทาง อย่ามองกลับไป เพราะหากผู้ดูแลรู้ตัว และเขาจะรู้แน่ เขาก็จะเอนตัวไปปลดล็อกประตูด้านหลังอย่างเยือกเย็น

เดินไปจนคุณไปถึงประตูลายหอยมุกอันสวยงาม เปิดมันออก แต่จงเลิกทำสีหน้าโกรธทันที ผู้ที่อยู่ข้างในไม่ชอบความโกรธเช่นนั้น

เข้าไปข้างในด้วยใบหน้าอันสงบ คุณจะอยู่ในวิหารอันสวยงามและเปิดโล่งซึ่งมีไม้เลื้อยพันไปตามเสาหินอ่อนและภาพโมเสคสวยงามตามผนัง ประตูที่อยู่ข้างหลังคุณจะล็อก อย่าพยายามเปิดมัน เพราะมันจะไม่มีวันเปิด และเหล่านักบวชชุดคลุมสีน้ำตาลที่เดินไปมานั้นจะทำทุกอย่างให้คุณอยู่ที่นั้น แม้ว่านั่นจะหมายถึงความตายของคุณ

เดินเที่ยวไป ไม่ว่าคุณจะพูดภาษาใด พวกนักบวชก็จะพูดภาษานั้น พวกเขาเป็นมิตรและอยากจะคุยด้วย แต่จงปฏิเสธอย่างสุภาพ บอกพวกเขาไปว่าคุณอยากคุยกับผู้นำของคณะ

ที่สุดแล้วคุณก็จะได้รับการชี้นำไปยังชายผู้นั่งที่กระดานหมากรุก เจ้าอารามของที่นี้ ผู้ที่นั่งตรงข้ามเขาคลุมหัวและสวมเกราะ อย่าพยายามพูดกับผู้คลุมหัว หาไม่ความตายของคุณจะเลวร้ายกว่าสิ่งที่วิสัยทัศน์ของมนุษย์จะคิดได้ จงหันไปทางชายเสื้อคลุมน้ำตาลที่คุณน่าจะคุ้นเคยแล้ว อีกเพียงตาเดียวเกมบนกระดานก็จะรุกจน

โค้งคำนับและถามอย่างสุภาพ “ทำไมพวกมันถึงอยู่รวมกันครับ หลวงพ่อ?”

เขาจะอ้าปากเหมือนตอบคำถาม แต่ร่างที่นั่งตรงข้ามจะส่งเสียงโหยหวนด้วยความโกรธแค้นของปิศาจแล้วชักดาบออกมา มันถูกตีอย่างสวยงาม แต่กลับดูเหมือนแปดเปื้อนด้วยความชั่วร้ายที่มิอาจคิดได้ พร้อมกับเสียงตะโกน ร่างนั้นจะถีบคุณล้มลงแล้วเข่นฆ่าเหล่านักบวชอย่างเป็นลำดับ พวกเขาจะสู้ตอบ แต่ก็มีเพียงพลอง และดาบของผู้บ้าคลั่งนั้นก็ฟันเสาหินได้เหมือนตัดหยวก

ตอนที่คุณมองอยู่นั้น เจ้าอารามก็จะเดินตาสุดท้าย ผู้สวมเกราะนั้นจะแกว่งดาบไปมา แล้ววิ่งมาหาคุณพร้อมยกดาบขึ้น

หากคุณทำการหยาบคายหรือทำสิ่งใดผิดไป คมดาบนั้นจะทำให้คุณแตกสลายถึงเสี้ยวอณู และความเจ็บปวดก็จะไม่มีวันสิ้นสุด ทว่า หากคุณสุภาพแล้ว เจ้าอารามก็จะไปยืนตรงหน้าคุณ แล้วใช้คิงสีดำทิ่มไปที่ตาขวาของนักรบนั้น

อย่าสนใจหรือสงสารตอนที่เขาล้มลงและกรีดร้อง หาไม่เจ้าอารามก็จะทำแบบเดียวกันกับคุณด้วยคิงสีขาว หากแต่จงจดจ่อกับเจ้าอาราม ผู้ที่ตอนนี้จะหันมาหาคุณแล้ว

เขาจะบอกคุณว่าทำไมพวกมันถึงมารวมกัน มันเป็นเรื่องราวที่ยาว เต็มไปด้วยการหลั่งเลือดและความสยดสยองที่อาจทำให้จิตใจของคุณแตกหัก แต่หากคุณยังทนอยู่ได้ เขาก็จะเอื้อมมือไปใต้โต๊ะที่วางกระดานหมากรุก และส่งปลอกดาบเลี่ยมทองที่ประดับด้วยอัญมณีสวยงาม แม้คุณจะไม่เคยเห็นมันมาก่อน คุณก็รู้ด้วยสัญชาตญาณว่ามันเข้ากับดาบที่นักรบผู้นั้นถือเมื่อครู่ อย่าลังเล รับมันมา เดินไปเก็บดาบของผู้บ้าคลั่ง เช็ดมัน แล้วเก็บมันเข้าฝัก สะพายมันไว้ด้วย คุณจะต้องการมัน

จงเดินออกไป แต่ก่อนนั้น บาทหลวงก็จะหยุดคุณไว้และชี้ไปทางใบหน้าที่ตอนนี้ไม่มีหมวกคลุมของนักรบ เขาเป็นชายรูปงาม แต่อย่าสนใจเรื่องนั้น สิ่งที่คุณควรสนใจคือคิงสีดำนั้นหายไปแล้ว มองไปยังเจ้าอาราม เขาจะพยักหน้าและพูดออกมา “การปลงพระชนม์”

จะเกิดแสงเจิดจ้าจนคุณมองอะไรไม่เห็น เมื่อตาคุณหายพร่า คุณจะยืนอยู่บนขอบทางเท้าถัดไปสองบล็อกจากโรงพยาบาลโรคจิต กลับไปที่ทางเท้าซะ คุณไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุหรอก

ดาบของคุณคือดาบของราชาขาว และมันคือวัตถุหมายเลข 45 จาก 538 ราชาดำนั้นหนีจากที่ที่เขาก่อการฆาตกรรมไปแล้ว และดาบของราชาขาวก็โหยหาการล้างแค้น

Holder of the Sky

ในทุกเมือง ในทุกที่ ไปที่โรงพยาบาลโรคจิตที่ไหนก็ได้ที่คุณไปได้ เมื่อถึงโต๊ะหน้า ให้ถามหาคนที่เรียกตนเองว่า “ผู้ถือครองแห่งท้องฟ้า” พนักงานจะไม่สนใจคุณเลย และคุณก็จะล้มพับลงกับพื้น คุณจะตื่นขึ้นท่ามกลางสายฝนที่ไร้เสียง ความเงียบนั้นยากจะทานทน และไม่มีสิ่งแวดล้อมอื่นใดทั้งนั้น คุณจะเดินไปบนอากาศที่แข็งอยู่กลางห้วงมรสุม

ท่ามกลางความมืดนั้น ผู้คนจำนวนมากที่แต่งกายด้วยความมืดจะปรากฏตัวและเดินมาทางคุณ อย่ากลัว ถอดเสื้อออก ใช้มันพันรอบๆแขนข้างถนัดไว้ แล้วเดินไปหาพวกนั้น อย่าพูดอะไร เมื่อคุณเข้าไปใกล้ ก็จงใช้มือข้างนั้นปัดทุกคนที่ขวางทางออกไป หากผิวหนังคุณสัมผัสกับพวกนั้นเมื่อไหร่ ความเงียบก็จะถูกทำลาย แล้วพวกนั้นก็จะมองเห็นคุณ นั่นหมายถึงจุดจบ

เมื่อผ่านไป คุณก็จะเจอชายในชุดแดง เขาจะเป็นคนเดียวที่ยืนนิ่ง และก็เป็นคนเดียวที่มองเห็นคุณ วงกลมว่างๆจะปรากฏออกมาล้อมพวกคุณทั้งสองไว้ คนอื่นๆจะเดินต่อไป ยืนรออย่างนั้น เมื่อชายคนนั้นยกมือขึ้นจงพูดทำลายความเงียบทันที “จะมีสักกี่คนที่ต้องตายเมื่อพวกมันมารวมกัน?”

พวกคนที่เดินอยู่นั้นจะหยุดแล้วหันมาทางคุณอย่างเป็นจังหวะ ทุกคนจะจับตาดูคุณทุกการเคลื่อนไหว เมื่อทุกคนหันมาทางคุณแล้ว จงพูดว่า”แล้วจะมีสักกี่คนที่ต่อสู้พวกมันกลับไป?”

ทุกคนจะหัวเราะ ทุกคนยกเว้นชายสวมผ้าคลุมแดงจะหัวเราะ เสียงหัวเราะนั้นจะสะท้อนไปทั่วบริเวณ แต่คุณห้ามคล้อยตาม ถามต่อเหมือนเดิม “จะมีสักกี่คนที่ต่อสู้พวกมันกลับไป?” เสียงหัวเราะจะดังขึ้นแล้วค่อยๆเงียบลง เมื่อเหลือเพียงเสียงเดียว เสียงเดียวเท่านั้น ก็จงถามชายชุดแดง “มีที่ไหนที่เราจะปลอดภัยจากพวกมันบ้าง?”

ชายคนนั้นจะคำนับให้คุณแล้วหายตัวไป สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือผ้าคลุมสีแดงนั้น

ผ้าคลุมนั้นคือวัตถุหมายเลข 71 จาก 538 เมื่อคุณสวมมันมันก็จะพาคุณกลับมาที่นี้ ที่ปลอดภัยเพียงที่เดียวเมื่อพวกมันมารวมกัน

Holder of the Shield

ในทุกเมือง ในทุกที่ ไปที่โรงพยาบาลโรคจิตที่ไหนก็ได้ที่คุณไปได้ เมื่อถึงโต๊ะหน้า ให้ถามหาคนที่เรียกตนเองว่า “ผู้ถือครองแห่งโล่” พนักงานจะมองคุณอย่างสำรวมแล้วมองนาฬิกา เขาจะถามว่า“หายใจไม่ทันเหรอครับ?” จงตอบตามความจริง แล้วถามอีกครั้ง เขาจะพยักหน้าแล้วพาคุณไปยังประตูที่พื้นซึ่งทำจากไม้โอ๊คอย่างดีซึ่งไม่ควรอยู่ตรงนั้น เขาจะดึงพวงกุญแจออกมาไขมัน แล้วบอกให้คุณเข้าไป แต่จะไม่ตามไปด้วย

เมื่อเข้าไปแล้ว คุณจะอยู่ในทางเดินที่แคบมาก เดินไปตามทางเดินจนคุณพบประตูเล็กๆที่ทำจากเนื้อมนุษย์ เคาะหนึ่งครั้ง หากคุณได้ยินเสียงเด็กกระซิบว่า “คุณเข้ามาได้” ก็จงพูดอย่างชัดเจนว่า “ฉันแค่อยากพูดด้วย” หากคุณเป็นผู้คู่ควรแล้ว ประตูนั้นจะละลายช้าๆ เผยให้เห็นทุ่งหญ้าเล็กๆที่มีแคมป์ไฟอยู่ตรงกลาง

เดินไปยังไฟนั้น เสียงเด็กจะกระซิบกับคุณอีก แต่ข้อความนั้นต่างกัน “คุณจะอยู่นานแค่ไหน?” อย่าตอบ จ้องมองไปที่ไฟนั้นและอย่าละสายตา คุณจะรู้สึกว่ามีแขนเล็กๆโอบรอบเอวคุณไว้ เสียงนั้นจะกระซิบอีก “คุณเป็นพ่อผมเหรอ?” ตอบไปแค่”ไม่ใช่”เท่านั้น เว้นเสียแต่คุณจะอยากตายอย่างที่ไม่มีคำบรรยายได้

เด็กจะปล่อยมือ และพื้นที่รอบๆตัวคุณก็จะเปลี่ยนแปลง หลับตาลง เพราะตอนที่ห้องนั้นเปลี่ยนไปคุณก็อาจเห็นห้วงอเวจีได้ และนั่นจะทำให้คุณไปถึงขอบเหวแห่งความวิปลาส หากไม่ใช่ว่าผลักคุณออกไปเลย เมื่อห้องหยุดการเปลี่ยนแปลง คุณจะได้ยินสียงเหล็กกระแทกกัน ลืมตาขึ้น มันจะมีวงของโล่เก้าอัน แต่ละอันมีสัญลักษณ์ที่แตกต่างกันในภาษาอันมิใช่ของโลกนี้

เด็กจะปรากฏตัวต่อหน้าคุณ เปลือยและชุ่มโชกด้วยเลือด เด็กคนนั้นจะชี้ไปที่โล่ที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วพยักหน้า อย่าเคลื่อนไหว เพียงแต่ถามไปว่า“มีทางออกไหม?” หากเด็กคนนั้นหัวเราะก็จงสังหารเขาเสีย หากเขาร้องไห้ จงภาวนาว่าความตายของคุณจะรวดเร็วเถิด

เมื่อเด็กคนนั้นตายแล้ว จะมีมีดเล่มเล็กอยู่ด้านหลังคุณ เก็บมีดนั่นมาแล้วถลกหนังเด็กซะ จากนั้นจงหยิบโล่ที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วางลงบนศพที่ถลกหนังแล้ว หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็จงเปลี่ยนเป็นโล่อันอื่นจนกว่าคุณจะเจออันที่ถูกต้อง คุณจะรู้เองเมื่อคุณพบมัน

เมื่อคุณพบโล่ที่ถูกต้องแล้ว จงพูดเสียงดังอย่างชัดเจน “ข้าคือผู้ท้าประลอง!” รูปปั้นมหึมาของชายสวมเกราะสีดำถือโล่จะปรากฏจ่อหน้าคุณ คำนับเขา หากคุณเป็นผู้ค่ควรแล้วเขาก็จะคำนับตอบ เขาจะดึงดาบอันทรงพลังออกมาฟันใส่คุณ ใช้โล่กันไว้ อย่าให้ความสงสัยปรากฏในจิตใจ จงเชื่อว่าโล่นี้จะไม่แตกหัก

ถ้าคุณปัดป้องการโจมตีที่จะปลิดชีพคุณได้แล้ว ทั้งดาบและโล่ก็จะแตกสลายไป รูปปั้นนั้นจะคำนับคุณอีกครั้ง และมอบโล่ของมันให้เป็นการตอบแทน คำนับตอบแล้วรับมันมา ประตูแสงจะปรากฏเบื้องหน้าคุณ เข้าไปในนั้น

โล่นั้นคือวัตถุหมายเลข 156 จาก 538 ขอให้มันปกป้องคุณจากสิ่งที่อันตรายกว่าดาบด้วย



Holder of Shadow

ข้าคือผู้ถือครองแห่งเงา เจ้ามิควรได้พบข้า จงสวดมนตร์เพื่อความเมตตาเล็กน้อยต่อเจ้าเถิด ผู้แสวงหา

ในทุกเมือง ในทุกที่ ในวันพฤหัสบดี ไปที่สวนสาธารณะที่ไหนก็ได้ที่เจ้าไปได้ เจ้าควรพาปืนหรืออาวุธอื่นไปด้วย เพื่อที่เจ้าจะได้ปลิดชีพตนโดยง่าย เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ดีกว่าโชคชะตาที่เจ้าอาจจะได้พบในบททดสอบของข้านัก

ถามคนคนแรกที่เจ้าพบว่า “ผู้ถือครองแห่งเงา”อยู่ไหน ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ไหน หรืออากาศยามนั้นจะเป็นอย่างไร ก็จะมีหิมะตก อย่าให้หิมะนั้นสัมผัสเจ้า หาไม่เจ้าจะถูกแช่แข็งไปตลอดกาล เป็นยามผู้เงียบงันซึ่งสร้างจากน้ำแข็งและเนื้อหนัง ผู้มิได้สัมผัสไออุ่นจากดวงอาทิตย์อีกเลย

เมื่อหิมะหยุด เจ้าต้องวิ่ง วิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่ขาของเจ้าจะพาไปได้ เพราะพวกมันจะตามไป ไปยังบ้านที่อยู่อาศัยหลังแรกที่เจ้าพบ และเคาะประตูสามครั้งพอดี หากไม่มีผู้ใดเปิดรับ หรือเจ้าเคาะมากครั้งเกินไป จงหลับตาและภาวนาให้ความตายของเจ้าไร้ซึ่งความเจ็บปวด แม้ว่ามันยากจะเป็นเช่นนั้น

เมื่อเจ้าเข้าไปข้างใน มันจะมีแสงดวงหนึ่งลอยอยู่กลางอากาศกลางห้อง แม้มันจะไม่มีรูปร่าง แต่เมื่อถูกฟาดใส่มันก็จะหายไป เจ้าต้องทำเช่นนั้น หาไม่เงาที่เกิดจากแสงนั้นจะเป็นตัวตนและทำร้ายเจ้า เจ้าต้องลงมืออย่างรวดเร็ว หาไม่โอกาสรอดของเจ้าจะน้อยนัก

เมื่อแสงถูกทำลาย ทั้งบ้านนั้นจะมืดสนิท มีเพียงประตูที่เจ้าใช้เข้าไปที่มีแสงเล็ดลอด อย่าพยายามออกไปทางนั้น อย่าแม้แต่มองมัน เพราะสัตว์ร้ายของข้ายังรอด้วยความอดทน เจ้าต้องหาทางไปห้องใต้ดินแล้วลงไป หากเจ้าเคราะห์ร้ายเลือกบ้านที่ไม่มีห้องใต้ดิน เจ้าก็ต้องพยายามหามันให้มากขึ้นอีก

อย่ามีท่าทีกลัวหรือกังขา เพราะนั่นจะทำให้เจ้าหลงอยู่ในความมืดตลอดกาล ห้องใต้ดินนั้นจะสว่างเช่นปกติ หากวัตถุในนั้นมีเงา เจ้าก็อาจรอดชีวิต หากหาไม่แล้ว จงปลิดชีพตนเสียเถิด เพราะนั่นเจ็บปวดน้อยกว่าสิ่งที่บริวารของข้าจะทำกับเจ้านัก

หากมันมีเงา จงหยิบมีดดาบหรือวัตถุหนาขึ้นเป็นอาวุธ เมื่อเจ้าหยิบมัน เงาของสิ่งอื่นก็จะหายไป ทีละอันทีละอัน หลับตาลงให้แน่น หันกลับไป แล้วกวัดแกว่งอาวุธของเจ้า เจ้าจะรู้สึกเหมือนเหวี่ยงมือในน้ำ และสิ่งที่ตามความรู้สึกแยกสิ่งเหนียวเหนอะนั้นก็คือเสียงกรีดร้องที่ไม่มีบนโลก เสียงกรีดร้องที่เหนือเหตุผลหรือความเข้าใจ ลืมตาขึ้น เจ้าอสูรเงาจะล้มลงกับพื้นและสลายไป อาวุธที่เจ้าถืออยู่จะค่อยๆร้อนขึ้น ก่อนจะเผาไหม้ จะแดงฉาน และกลายเป็นสีขาวร้อนแรง หากเจ้าไม่ปล่อยมือจากมัน เปลวไฟจะกลืนกินเจ้า เจ้าจะถูกแผดเผาไปตลอดกาลนาน และชั่วนิรันดรหลังจากนั้น เมื่อเจ้าทิ้งมันไป มันจะแผดเผาลงไปในดิน อย่าสนใจรูนั้น แต่จงหยิบผลึกที่เท้าเจ้าขึ้นมา

ผลึกนั้นจะมีสีดำอำพัน และพอดีกับมือของเจ้า ยามเมื่อเจ้าถือมัน เงามืดจะมิอาจปกคลุมเจ้า และเจ้าก็จะมองทะลุความมืดในโลกนี้ได้

ผลึกนั้นคือหมายเลข 173 จาก 538 ของขวัญจากข้าแด่ผู้แสวงหาที่เอามันไปได้


RE: มาล่าวัตถุต้องสาปกันเถอะ The Holders Series - LuZi - 12-09-2012

แต่ละเรื่องนี่เจ๋งมากๆเลยแฮะ เรียกได้ว่ามีโอกาศตายแทบทุกฝีก้าวเลย...


RE: มาล่าวัตถุต้องสาปกันเถอะ The Holders Series - Mysticphoenix - 12-10-2012

อ่านเพลินดี


RE: มาล่าวัตถุต้องสาปกันเถอะ The Holders Series - Kuruni - 12-16-2012

อีกสามตัว

ในเรื่องนี้มีตัวละครที่เป็นนักล่าวัตถุอยู่ด้วยนะครับ แต่ที่สำคัญจริงๆเหมือนจะมีสามคน คนแรกคือ Jack Empty ที่กลายเป็น"อะไรบางอย่าง"ไปแล้วหลังเอาวัตถุมาจากThe End ไม่ได้ แต่ก็ไม่ตาย รายนี้พยายามรวมวัตถุเพื่อทำลายโลก Ieiunitas, Infectus, Talius ที่เป็นตัวประหลาดซึ่งกลืนชีวิตคนอื่นได้ กับ The Balance (ชื่อจริง Dallas) ซึ่งเป็นผู้แสวงหาที่ได้รับมอบหมายจากผู้พิทักษ์แห่งความสมดุลย์ให้เป็นจุดถ่วงดุลย์ของโลกที่เริ่มผิดเพี้ยนไปเพราะพวกวัตถุ (เป็นตัวละครที่ใกล้เคียงกับคำว่าพระเอกที่สุด) นอกจากสามคนนี้แล้วก็มี The Legion ที่เป็นผู้แสวงหาที่หายตัวไปพร้อมวัตถุ2000ชิ้น

(แต่ตอนจบซึ่งไม่มีใครเขียนนั้นแน่ชัดว่าพวกมันจะรวมกันแน่ๆครับ ปัญหาอยู่ที่ผู้ได้รับเลือกเป็นคนรวมมันจะเอายังไงแค่นั้นเอง)

The Holder of Details

ในทุกเมือง ในทุกที่ ค้นหาและไปที่ห้องสมุดเก่าที่อายุอย่างน้อย50ปี ไปที่ฝ่ายสอบถามข้อมูล แล้วขอให้พาคุณไปหา”ผู้ถือครองแห่งรายละเอียด” ผู้ดูแลจะลังเล และอาจจะหวาดกลัวต่อคำขอร้องของคุณ ตอนแรกพวกเขาจะบอกคุณว่าไม่มีของแบบนั้นที่ห้องสมุด ย่าไปสนใจและยืนกรานจะไปพบกับผู้ถือครอง ในที่สุดแล้วพวกเขาก็จะยอมแพ้ แต่จะไม่ไปกับคุณด้วย ผู้ดูแลจะเขียนหมายเลขค้นหาให้บนกระดาษแทน

เอากระดาษมาแล้วไปหาตามหมวดหมู่ คุณจะพบว่าตัวเองอยู่ในส่วนที่ลึกมาก ลึกกว่าที่คุณเคยคิดว่าห้องสมุดนี้จะเป็นได้ หาต่อไป และอย่ามองกลับไป ไม่มีทางหันกลับแล้ว ชั้นหนังสือจะขวางทางคุณไว้ ถ้าคุณพยายามกลับไป พวกมันก็จะทับขยี้คุณ แล้วกักขังร่างกายและวิญญาณของคุณไว้ในหนังสือที่พวกมันจะเก็บไว้ตลอดกาล จงไปต่อและหาหมายเลขนั้นไปเรื่อยๆ

จะมีเสียงกระซิบดังจากระหว่างชั้นหนังสือ และยิ่งคุณเข้าใกล้ปลายทาง เสียงนั้นก็จะดังขึ้นเรื่อยๆ อย่าเรียกพวกมัน เพราะพวกมันมิใช่มนุษย์และไม่ชอบให้ใครรบกวน หาต่อไป ปล่อยให้พวกมันกระซิบกระซาบโดยไม่ต้องไปขัด คุณจะไม่เจอหมายเลขที่หาอยู่เลย จนกระทั่งชั้นหนังสือสองชั้นขวางทางคุณไว้ ถ้าคุณหันกลับไป คุณก็จะเห็นชั้นหนังสืออีกชุดล้อมคุณอยู่ หยุดอยู่ตรงนั้น อย่าคิดหนี การพยายามหนีมีแต่จะนำมาซึ่งความตายอันรวดเร็วเท่านั้น

อยู่นิ่งๆ แล้วคุณจะได้ยินเสียงแหบพร่าจากชั้นหนังสือ ไม่ว่ามันจะพูดอะไร คำตอบที่ถูกต้องก็มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น “ฉันอยากจะเรียนรู้”

มันจะถามคำถามคุณสามข้อ ทั้งหมดเป็นเรื่องของคุณและคนที่คุณรัก แล้วมันจะบอกรายละเอียดอันแสนเจ็บปวดของทุกคำตอบทุกสิ่งที่จะทำให้คุณสิ้นความไว้ใจและความรู้สึกปลอดภัยต่อสิ่งที่พูดถึง ทุกสิ่งที่คุณมองข้ามมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นแม่ของคุณ คนรักของคุณ หรือเพื่อนสนิทของคุณ รายละเอียดที่มันบอกล้วนเป็นความจริง คุณไม่อาจเถียงได้

จากนั้น มันจะเงียบไปครู่หนึ่ง ปล่อยให้คุณได้ใคร่ครวญรายละเอียดเหล่านั้นที่คุณมองข้ามไป แล้วมันจะถามว่า “เจ้ายอมรับหรือไม่?”

อย่าโกหก นี่เป็นแบบทดสอบที่ยากเย็นนัก มันจับกลิ่นของการมุสาได้ มีเพียงการยอมรับสิ่งอันแสนเลวร้ายด้วยใจจริงและบอกออกไปอย่างสัตย์ซื่อเท่านั้น ที่มันจะปล่อยให้คุณมีชีวิตรอด ไม่มีที่ทางให้หัวใจอันอ่อนแอในที่นี้ แต่หากคุณมีจิตใจอันเข้มแข็งและรอดมาได้ พวกชั้นหนังสือที่ขังคุณไว้นั้นก็จะเปิดทางให้คุณออกไปได้ แต่อย่าเพิ่งรีบออกไปนัก

หนังสือเล่มหนึ่งจะตกลงมาจากชั้นที่พื้นข้างหลังคุณ มันเป็นหนังสือหุ้มปกหนังเขรอะฝุ่น บนปกมีรอยหยักเหมือนหูมนุษย์ ที่สันปกคือตัวเลขที่คุณหาอยู่ เขียนด้วยหมึกสีแดงเลือด มันคือผู้ถือครอง และมันพร้อมจะบอกรายละเอียดแบบเดียวกันให้คุณฟังอีก เพียงแค่คุณถาม

หนังสือเล่มนั้น ผู้ถือครอง คือวัตถุหมายเลข 239 จาก 538 ยังเหลืออีกสองร้อยเก้าสิบเก้า และเมื่อพวกมันรวมกันก็จะเป็นภาระหนักอึ้งของคุณ แต่ใครจะไปสนใจรายละเอียดเล็กน้อยกันล่ะ?



The Holder of Fortune

ผู้แสวงหา

ผมคือคนที่คุณตามหาอยู่ คุณต้องรู้ว่าพวกมันจะมารวมกันไม่ได้ โลกที่เรารู้จักนั้นขึ้นอยู่กับคุณแล้ว ผมก็เคยเป็นเหมือนคุณ ตามล่าวัตถุพวกนี้โดยไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมันจบแล้ว ความกล้าหาญของผมค่อยหายไปพร้อมกับที่การเดินทางของผมยาวขึ้นเป็นปี คุณต้องมาพบผม ผู้แสวงหา เพราะผมยังเป็นมนุษย์ ยังมีสติ ยังรอให้ใครมาแทน หรือไม่ก็ปลิดชีพผมซะ

คุณต้องไปที่ธนาคาร ธนาคารที่ไหนก็ใช้ได้ แต่ต้องเป็นเวลาสิบนาทีก่อนปิดทำการ พนักงานทุกคนจะส่งเสียงครวญที่คุณมาเอาตอนใกล้ปิดแบบนั้น ยกเว้นเพียงคนเดียว นั่นคือคนที่คุณต้องพูดด้วย ผู้แสวงหา เพศของคุณสำคัญนะ ถ้าคุณเป็นผู้ชายและพนักงานคนนั้นก็เป็นชาย เขาก็จะลากคุณลงสู่นรกเมื่อคุณเข้าไปหา พนักงานคนนั้นต้องเป็นเพศตรงข้าม เว้นแต่คุณอยากใช้เวลานิรันดรกับซาตาน ชวนพนักงานคนนั้นคุยสนุกๆเรื่องอะไรก็ได้ ทำให้ยิ้ม แล้วไม่นานพนักงานคนนั้นก็จะขำอย่างสบายใจ พนักงานคนอื่นจะออกไปกันหมด เหลือพวกคุณแค่สองคน บทสนทนาจะเงียบลงและพนักงานจะมีท่าทางไม่สบายใจที่คุณอยู่ด้วย ตอนนั้นเองที่คุณต้องถามหาผม ผู้ถือครองคนต่อไป

พนักงานจะไม่รู้สึกแปลกอะไรแล้วพาคุณไปที่ตู้นิรภัย มันอาจจะเล็กอย่างไม่น่าเชื่อ หรือใหญ่โตจนน่าสะพรึงกลัว แต่ยังไงคุณก็ต้องเอากุญแจมา พนักงานจะพาคุณออกมานอกธนาคาร แล้วออกไปหลังล็อกประตูแล้ว ปลดล็อกประตูแล้วเข้าไปในธนาคารเงียบๆนั้น

เงาที่คุณเห็นอาจทำให้คุณรู้สึกหนาวเย็นถึงกระดูก เหมือนที่ผมเคยเป็น แต่อย่าสนใจมัน พวกมันจะเป็นตัวตนจากพลังชีวิตของคุณ ไม่มีอะไรเทียบได้กับการวิ่งหนีจากสิ่งที่คุณหวาดกลัวในความมืด ผมน่าจะรู้ และคุณก็เหมือนกัน

ถ้าคุณมองที่พื้นก็จะเห็นว่ามันมีเหรียญมูลค่าต่างๆกันหล่นเกลื่อนอยู่เต็ม ตามเหรียญที่มีค่าน้อยที่สุดไป มันจะนำทางคุณไปที่ประตูของผม ใช้กุญแจที่คุณถือปลดล็อก พวกปิศาจไม่อาจแตะต้องผมได้แล้ว และเมื่อคุณเข้าไปในห้องนั้นคุณก็จะปลอดภัยเช่นกัน แต่อย่าลืมว่าพวกมันยังอยู่ใกล้ๆนั่น รอให้คุณทำพลาด

ผู้ถือครองแห่งโชคลาภคนก่อนนั้นเป็นชายอ้วนผิดปกติผู้แต่งกายหรูหราและกินอาหารที่เลี้ยงคนได้ทั้งกองทัพ เขาดูจะตัวใหญ่ขึ้นทุกครั้งที่เคี้ยวอาหาร และเสื้อผ้าก็เปรอะเปื้อนด้วยเศษอาหารและเครื่องดื่มที่หกออกมา โต๊ะนั้นเต็มไปด้วยไวน์และอาหารที่ผมไม่ขอบรรยายถึงดีกว่า เพราะดูก็รู้ว่ามันเก่าแค่ไหน

เขาพูดอย่างเจียมตนระหว่างที่เคี้ยวกินอาหาร ถามถึงความปรารถนาสูงสุดในชีวิตของผม คำถามที่ผมจะถามคุณด้วยเช่นกัน ผู้แสวงหา คำตอบของมันนั้นคุณจะต้องไม่บอกออกมา เพราะชีวิตของคุณขึ้นอยู่กับมัน เหมือนที่ของผมเคยเป็น ชายร่างอ้วนคนนั้นยิ้มกว้างถึงใบหู ที่ผมจำได้หลังจากนั้นก็แค่ที่ตัวเองกำลังนั่งที่โต๊ะซึ่งว่างเปล่าแล้วของเขา รอให้ชีวิตของผมเหี่ยวแห้งไปเหลือเพียงประกาย

เมื่อคุณเข้าไปในห้อง คุณจะเห็นโต๊ะว่างๆกับผม ผู้ถือครองแห่งโชคลาภคนล่าสุด ผมไม่ได้แต่งกายหรูหรา และแทบจะอดตายอยู่แล้ว แต่ผมก็ยังมีชีวิตอยู่ อยู่อย่างน่าสมเพช เสื้อผ้าของผมรุ่งริ่งเหมือนผ้าขี้ริ้วและอาจทำให้คุณสับสน แต่จงรวบรวมความกล้าไว้ ผมจะทักทายคุณด้วยรอยยิ้มที่ไม่คิดอะไร และจะถามคำถามที่จะกำหนดชะตากรรมของคุณ คุณไม่ควรจะพูดอะไร หาไม่ก็จะได้รับหน้าที่ของผมไปแทน ผมจะยิ้มแย้ม พร้อมกับที่คุณได้วัตถุชิ้นถัดไป ได้โปรด ช่วยฆ่าผมหลังจากที่คุณได้มันไปด้วย ผมขอร้องล่ะ ผู้แสวงหา

รีบตามรอบเหรียญที่มีมูลค่าสูงสุดออกไปจากธนาคาร พวกเงานั้นกลายเป็นสัตว์ร้ายแล้วและมันไม่หวาดกลัวที่จะจับต้องคุณอีก พวกมันหิวโหย อย่ากลับไปที่ธนาคารนั่นอีก การกลับไปจะทำให้ตัวคุณจะระเหยเป็นไอ แล้วคุณก็จะกลายเป็นผู้ถือครองแห่งโชคลาภคนต่อไป

ได้โปรดเถอะ ผู้แสวงหา คุณต้องไปต่อ การเดินทางของคุณยังห่างไกลจากจุดจบนัก

วัตถุที่คุณจะได้เป็นเหรียญที่ไม่มีค่าใดๆ มันคือวัตถุหมายเลข 407 จาก 538 พกมันไว้ ผู้แสวงหา คุณอาจจะต้องการมันเร็วๆนี้



The Holder of Farewell

ในทุกเมือง ในทุกที่ ไปที่สนามบินที่ไหนก็ได้ที่คุณไปได้ เมื่อถึงเคาเตอร์ขายตั๋ว ให้ถามหาคนที่เรียกตนเองว่า “ผู้ถือครองแห่งการบอกลา” ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นจะเงียบและมองคุณด้วยสีหน้าโศกเศร้าและบอบบาง คนที่อยู่หลังเคาเตอร์จะกลั้นน้ำตา ก่อนพิมพ์ตั๋วเครื่องบินแล้วส่งให้คุณอย่างลังเล จังหวะที่คุณรับตั๋วมานั้น ทุกคนก็จะหายไปต่อหน้าต่อตาคุณ ขณะที่คุณอยู่คนเดียวนี้ จงเก็บตั๋วไว้ในที่ที่เอื้อมถึงได้เสมอ หาไม่แล้วคุณก็จะหายไปด้วย ไม่มีวันกลับมาอีก

ถึงตอนนี้ จงเริ่มเที่ยวไปตามสนามบินอันว่างเปล่า การพเนจรของคุณอาจใช้เวลาไม่กี่วัน แต่น่าจะเป็นหลายปีเสียมากกว่า ถ้าคุณหิวหรือกระกาย ก็หยิบฉวยเอาอาหารหรือเครื่องดื่มจากร้านค้าในสนามบินได้เลย ไม่มีใครขวางคุณอยู่แล้ว ถ้าคุณออกไปนอกสนามบิน คุณจะพบว่าโลกนี้กลายเป็นลานจอดรถที่รกร้างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีผู้คน ไม่มีพาหนะ

หากความโดดเดี่ยวที่แสนบีบคั้นนั้นไม่ได้ทำให้คุณทำลายตัวเองโดยการทิ้งตั๋วไป ในที่สุดแล้วคุณก็จะได้พบกับชายประหลาดผู้โบกมือไปมาให้กำแพง เขาจะไม่มีปฏิกิริยาใดๆยกเว้นต่อคำถามเดียวเท่านั้น “ฉันจะบอกลาได้อย่างไร?” เขาก็จะเพียงแต่โบกมือเร็วขึ้นอีก ถือตั๋วไว้ในมือหนึ่ง แล้วโบกอีกมือเลียนแบบชายคนนั้น กำแพงนั้นจะพังทลายลง แล้วคุณจะเห็นมนุษย์ทุกคนที่เคยมีชีวิตเบียดเสียดกันอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่า ทุกคนจะชราลงอย่างรวดเร็ว โบกมือลาให้ทุกคนที่คุณรู้จัก และอีกนับพันล้านที่ไม่รู้จัก ซึ่งแก่และตายไปต่อหน้าคุณ หากคุณหยุดโบกมือเพียงวินาทีเดียว คุณก็จะถูกดึงเข้าไปในความว่างเปล่านั้น และตายไปพร้อมกับทุกคน

หากคุณโบกมือได้โดยไม่หยุด ไม่มีชะงักหรือเหนื่อยล้า จนมนุษย์ทุกคนแตกสลายไปกับความว่างเปล่า ทั้งชายคนนั้นและสนามบินก็จะหายไป คุณจะยืนอยู่ในห้องนอนของคุณ และนอกจากตั๋วเครื่องบินในมือแล้ว โลกนี้ก็จะกลับเป็นเหมือนเดิมก่อนที่คุณไปสนามบิน มันดีทีเดียวที่ได้พักในบ้านอันแสนสบายหลังการเดินทางที่แสนเหนื่อย แต่หลังจากสิ่งที่คุณประสพมาแล้ว ชั่วชีวิตของคุณก็จะมีความไม่สบายใจว่าบ้านอันแสนสบายนั้นเปราะบางเพียงใด

ตั๋วเครื่องบินนั้นคือวัตถุหมายเลข 511 จาก 538 ไม่รับซื้อคืน


RE: มาล่าวัตถุต้องสาปกันเถอะ The Holders Series - arkman - 12-17-2012

อยากรู้ที่เหลืออีกจังแฮะ (แต่มีตั้ง 538ชิ้น แปลไม่ไหวแน่เลย)

อ่านๆไป จะแอบเอาไปทำ อิๆ แต่ถ้าทำคงจะตายก่อน โดยเฉพาะอันที่ต้องตอบตามความรู้สึก และห้ามโกหก


RE: มาล่าวัตถุต้องสาปกันเถอะ The Holders Series - Kuruni - 12-23-2012

ลองแล้วถ้าโดนไล่กลับมาก็...ไปลองใหม่ที่อื่นได้นะครับ (อ้าว)

แต่ถ้าได้ผลขึ้นมาก็อย่าโทษกันล่ะ

ชุดนี้เป็นพวกที่ทำให้ท่านแน่ใจได้ว่า คนที่รวมของพวกนี้ได้หลายๆชิ้นนั้นไม่ใช่คนแน่แล้ว

Holder of Nightmares

ในทุกเมือง ในทุกที่ เข้าไปในตู้โทรศัพท์สาธารณะตู้ไหนก็ได้ที่คุณไปได้ ขอให้แน่ใจว่าเป็นช่วงเวลาสิบห้าหรือยี่สิบนาทีหลังเที่ยงคืนและไม่มีคนอื่นอยู่ด้วยหรือมองเห็นคุณ ยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาและอย่าแตะต้องอย่างอื่น กระซิบถามหูโทรศัพท์ว่า “ฉันอยากพบกับผู้ถือครองแห่งฝันร้าย” ถ้าไม่มีเสียงตอบในหนึ่งนาที ก็จงรีบออกจากตู้โทรศัพท์นั่นซะ อย่าถามเลยว่าทำไม

ถ้าคุณได้ยินเสียงผู้ชายตอบกลับมาเป็นภาษาที่คุณไม่รู้จัก หลับตาลงและอย่าเคลื่อนไหว คุณจะรู้สึกถึงแรงกดที่ล้อมเข้ามา แล้วก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตกอย่างฉับพลัน ถ้าคุณลืมตาตอนนี้ คุณจะพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่นอกตู้โทรศัพท์ แขนที่ขาดทั้งสองข้างถูกฉีกเนื้อหนังเป็นชิ้นๆ

ถ้าคุณหลับตาอยู่อย่างนั้น คุณก็จะรู้สึกว่าตัวเองลงมาอย่างแผ่วเบาบนสิ่งที่เหมือนเก้าอี้ ตอนนี้ก็ลืมตาได้แล้ว คุณจะอยู่ในห้องเล็กๆ เต็มไปด้วยควันหนาที่ลอยขึ้นมาถึงเอว ตรงหน้าคุณคือเตียงขนาดสี่คนนอน และมีของชิ้นหนึ่งวางอยู่ ของชิ้นนั้นจะแตกต่างกันไปตามคนที่เข้าไปในห้องนั้น ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็จงหยิบมันขึ้นมา แล้วใช้มือข้างที่คุณถนัดกำมันไว้ให้แน่น

ขึ้นไปบนเตียงแล้วก็นอนหลับซะ ไม่ยากหรอกนะ หมอกที่คุณสูดเข้าไปนั่นทำให้คุณเหนื่อยอยู่แล้ว ตอนที่คุณนอนบนเตียงนั้น คุณจะฝันถึงสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวจนมิอาจบรรยายได้ มันจะวิปริตและน่าสยดสยองขึ้นเรื่อยๆเมื่อความฝันดำเนินไป ตราบเท่าที่คุณยังถือของนั้นไว้ในมือ คุณก็จะปลอดภัย ถ้าตอนที่คุณฝันอยู่นั้น คุณรู้สึกว่ามีอะไรพยายามแกะมันไปจากมือคุณ ก็จงพูดดังๆ “ฉันไม่ได้คิดร้าย ฉันแค่อยากพบผู้ถือครองแห่งฝันร้าย” ความฝันที่น่าสยดสยองนั้นเทียบไม่ได้กับสิ่งที่คุณจะได้เจอถ้าของนั้นหลุดมือหรอก

ความฝันสุดท้ายของคุณจะเหมือนกับความจริงมาก คุณจะยืนอยู่ต่อหน้าคนที่คุณรักที่สุด อย่ามองตาคนๆนั้น อย่าลังเล หาไม่การเดินทางของคุณก็จะจบลงที่นี่ และคุณก็จะได้ใช้เวลานั่งมองฝันร้ายของตนไปชั่วชีวิต ใช้ของที่คุณถือมาจากเตียงนั่นทุบคนๆนั้นให้ตาย ถึงตอนนี้มันคงกลายเป็นแป๊บเหล็กหรือไม่ก็ประแจไปแล้ว

เมื่อร่างโชกเลือดนั้นหยุดเคลื่อนไหว หลับตาลงสักสองสามวินาที แล้วลืมตาขึ้น คนที่คุณเพิ่งจะฆ่าไปนั้นเป็นชายชรา ผมและเคราสีเทาของเขาชุ่มไปด้วยเลือด กะโหลกร้าวแตก นั่นคือผู้ถือครองแห่งฝันร้าย ถืออาวุธของคุณไว้ในมือข้างที่ถนัด แล้วใช้อีกมือสัมผัสที่หัวใจของเขา

คุณจะกลับมาที่ตู้โทรศัพท์ ในมือมีหูโทรศัพท์ที่สายขาดแล้วแทนอาวุธ ออกไปจากตู้โทรศัพท์ และหันกลับมาถ้าคุณอยากดูตู้โทรศัพท์ทำลายตัวเอง กระจกแตก ช่องเก็บเหรียญบุบยู่ยี่ แล้วก็สายโทรศัพท์ที่ไร้หูสะบัดตัวไปไปกลางอากาศ

หูโทรศัพท์ในมือคุณคือวัตถุหมายเลข 149 จาก 538 อย่ายอมให้ความฝันมาหยุดคุณได้



Holder of Divinity

ในทุกเมือง ในทุกที่ ไปที่โรงพยาบาลโรคจิตที่ไหนก็ได้ที่คุณไปได้ เมื่อถึงโต๊ะหน้า ให้ถามหาคนที่เรียกตนเองว่า “ผู้ถือครองแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์” ถามซ้ำอีกสองครั้งก่อนเขาจะตอบ เขาจะดูเหมือนตัวแข็งทื่อ แหงนหน้ามองด้านบนครู่หนึ่งก่อนหันลงมามองคุณด้วยดวงตาที่ยากจะบอกสีได้ จากนั้นคุณต้องตามเขาไป ตามองพื้น เดินตามย่างก้าวของเขาให้ตรงที่สุดเท่าที่ทำได้ ถ้าคุณตามเขาได้ไม่เหมือนพอ คุณจะไม่พบทางไปไหนอีกเลย

เมื่อพนักงานหยุด จงหันหลังกลับแล้วเงยหน้าขึ้น จากจุดนี้ไปจงห้ามใจตัวเองไม่ให้มองไปข้างหลัง ตรงหน้าคุณมีประตูอยู่ และกริชสีแดงรูปร่างน่าขยะแขยงปักอยู่ตรงกลาง จับด้ามมัน ความรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงจะค่อยลามมาตามผิวแขนของคุณ ลามไปทั่วตัว จากนั้นก็จมลึกลงไป หากคุณปล่อยมือเมื่อไหร่ ความเจ็บปวดนั้นก็จะไม่มีวันหายไป แม้ว่าคุณจะตายไปแล้ว เมื่อความเจ็บปวดนั้นไปถึงหัวใจของคุณ คุณก็จะรู้สึกถึงกำลังดั่งปิศาจที่ปะทุขึ้นมา ดึงกริชออกจากประตูแล้วมันจะเปิดออก ความเจ็บปวดก็จะหายไปพร้อมกับที่กริชหลุดออกมาด้วย

คุณต้องวิ่งเข้าประตูนั้นไปตามทางเดินโค้งยาว ซึ่งมีปลายทางเป็นห้องทรงกลมที่สว่างอย่างน่าประหลาด ตรงไปยังผู้ชายที่อยู่กลางห้อง เขาจะคุกเข่าสวดมนต์โดยหันหลังให้คุณ ตัวเขาอยู่ในเงาแต่จะมีแสงสีทองเรืองรองโดยรอบ หากเขาสวดมนต์จบ วิญญาณของคุณจะไม่มีค่าแม้เพียงสลึงนึง

เมื่อคุณไปถึงเขา จงเอากริชนั้นจ่อคอเขาแล้วถามว่า “พวกมันสอนอะไร?” เขาจะร้องเพลงเป็นคำตอบ อย่าพยายามทำความเข้าใจ สภาพของคุณตอนนี้มีแต่จะทำให้มันทำลายคุณเท่านั้น รอฟังแต่คำว่า”การสังเวย”เท่านั้น เมื่อคุณได้ยินคำนั้น ก็จงทิ่มกริชใส่ลำคอของเขา เลือดของเขาจะไหลไปตามกริช แปลงสภาพมัน แล้วห้องก็จะเต็มไปด้วยแสงสว่าง คุณจะรู้สึกตัวว่าคุณยืนอยู่บนหลังคาของอาคารที่คุณเริ่ม ในมือมีขนนกสีขาวบริสุทธิ์

ขนนกนั่นคือวัตถุหมายเลข 77 จาก 538 จงปกป้องมันอย่างสุดความสามารถ เพราะโชคชะตาของมันก็เป็นของคุณด้วยแล้ว



Holder of Cowardice

ในทุกเมือง ในทุกที่ ไปที่โรงพยาบาลโรคจิตที่ไหนก็ได้ที่คุณไปได้ เมื่อถึงโต๊ะหน้า ให้ถามหาคนที่เรียกตนเองว่า “ผู้ถือครองแห่งความขลาด” เมื่อวลีสุดท้ายหลุดปากคุณไป พนักงานก็จะกระชากคอเสื้อคุณอย่างแรง อย่าขัดขืน ปล่อยเขา เขาจะตะโกนอย่างจับใจความไม่ได้ใส่คุณพร้อมโยกตัวคุณอย่างโกรธเกรี้ยว หลังจากที่มันดำเนินไปสักพัก เขาก็จะสงบลงแล้วปล่อยคุณ ก่อนนำทางไปยังทางบันไดที่เมื่อครู่ไม่มีอยู่ เดินลงไป แม้ว่ามันจะมืดนัก

คุณจะไปถึงสวนเล็กๆ พนักงานจะบอกให้คุณรออยู่ตรงนั้น แล้วเดินกลับไป ปล่อยคุณไว้คนเดียว รออยู่ในสวนนั้น ทำตัวตามสบาย จะเดินดูอะไรบ้างก็ได้ หลังจากผ่านไปนานโข อาจจะเป็นหลายชั่วโมง ก็จะมีชายสองคนยืนอยู่ในที่ที่คุณไม่ได้มอง คนหนึ่งนั้นเป็นชายร่างสูง กำยำ หล่อเหลาดั่งวีรบุรุษผู้องอาจ และสวมเกราะอัศวิน ส่วนอีกคนเป็นหนูในร่างมนุษย์ชัดๆ ผมแห้ง หัวล้าน สายตาสั้น ไม่มีมาด ไม่มีคาง และสวมชุดสีน้ำตาลอันเรียบง่าย เมื่อคุณเห็นทั้งสองคน จงหยุดอยู่นิ่งและอย่าขยับแม้แต่น้อยขณะที่ทั้งคู่มองคุณ ที่สุดแล้ว อัศวินก็จะทำท่าบอกให้คุณพูดได้ ถามออกไป “ถ้าหยุดตอนนี้ เราจะเสียอะไรบ้าง?”

เมื่อคุณถามออกไป จู่ๆชายร่างผอมก็จะกระแทกอัศวินล้มลงอย่างแรง แล้วใช้มือเปล่าฉีกร่างเขาเป็นชิ้นๆอย่างป่าเถื่อนและง่ายดาย ทั้งที่มีท่าทีองอาจและทรงพลัง อัศวินนั้นกลับไม่อาจขัดขืนชายร่างผอมได้เลย เขาจะกระชากเกราะอกของอัศวินออกมา แล้วแหวกเข้าไปในร่างนั้น ทำให้ทั้งสวนเปรอะเปื้อนด้วยเลือดและเศษเนื้อ ตอนที่มันดำเนินไป จงยืนดูการเข่นฆ่าอันไร้เหตุผลนี้นิ่งๆ ไม่ว่าเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดและขอความเมตตาจากอัศวินผู้นั้นจะทำให้รู้สึกแย่เพียงใดก็ตาม เมื่ออัศวินกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้ว เขาเป็นคนตัวโต ฉะนั้นจึงใช้เวลานานทีเดียว ทุกอย่างนั้นสวนนั้น รวมทั้งคุณและชายร่างผอม ก็จะชุ่มโชกเป็นสีแดงด้วยเลือดของอัศวิน จากนั้น เด็กผู้หญิง อายุไม่เกินเจ็ดขวบก็จะปรากฏตัว เธอคือลูกสาวของอัศวินนั้น ชายร่างผอมผู้อาบเลือดจะชี้ไปทางเฮ เขาอยากให้คุณฆ่าเธอด้วยวิธีเดียวกับที่เขาฆ่าอัศวิน ทำตามนั้น หาไม่แล้วชายร่างผอมจะถือว่าคุณเป็นพวกเดียวกับอัศวิน และคุณก็จะถูกฆ่าเป็นรายต่อไป

จงฉีกกระชายเด็กหญิงนั้นอย่างที่ชายร่างผอมต้องการ เธอจะไม่ขัดขืนคุณ แต่เสียงร้องและสะอื้นของเธอก็ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะทนได้ คณะที่คุณลงมือทำสิ่งที่ป่าเถื่อนไร้เหตุผลนี้ ชายร่างผอมจะนั่งลงข้างๆแล้วกระซิบที่หูคุณ เล่าถึงทุกเรื่องในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติที่ความกล้าหาญนำมาซึ่งความตายและความเจ็บปวด และความขลาดกลัวก็มีแต่ทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีก เขาจะอธิบายด้วยละเอียดอันน่าเศร้าของผลที่แท้จริงที่เกิดจากความกล้าหาญ และราคาที่แท้จริงของความขลาด เมื่อเด็กน้อยกลายเป็นก้อนเนื้อเละๆสีแดงด้วยมือของคุณแล้ว ชายร่างผอมก็จะยิ้มออกมา เขาจะหยิบเอาเกราะอกเปื้อนเลือดของอัศวินที่ตายไปแล้วมาให้คุณด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร พร้อมโบกมือให้คุณไปได้ กลับไปโรงพยาบาลทางเดิมที่คุณมา ขอแนะนำว่าคุณควรจะหาทางทำความสะอาดตัวเอง เสื้อผ้า แล้วก็เกราะอกที่โชกเลือดนั่นเสียก่อน

เกราะอกนั่นคือวัตถุหมายเลข 119 จาก 538 ตอนนี้คุณก็รู้ถึงสิ่งที่ต้องเสียไปเพราะความขลาดแล้ว ทางเดียวที่คุณทำได้คือเดินทางต่อไป จงนึกขอบคุณที่ผู้ถือครองเห็นคุณเป็นพวกเดียวกันเถอะ


RE: มาล่าวัตถุต้องสาปกันเถอะ The Holders Series - Kuruni - 01-08-2013

อีกสามอัน เบากว่าตอนที่แล้วโขครับ

Holder of Wind

ในทุกเมือง ในทุกที่ ไปที่โรงพยาบาลโรคจิตที่ไหนก็ได้ที่คุณไปได้ เมื่อถึงโต๊ะหน้า ให้ถามหาคนที่เรียกตนเองว่า “ผู้ถือครองแห่งลม” พนักงานจะเดินจากไปราวกับคุณไม่อยู่ตรงนั้น ตามเขาไป หลังจากห้านาทีที่เหมือนจะเดินอย่างไร้จุดหมาย พนักงานก็จะผิวปาก ถ้าคุณจำทำนองนั้นได้ก็จงตามต่อไป แต่ถ้าคุณไม่รู้จักเพลงนั้น ก็จงพยายามระลึกถึงช่วงเวลาดีๆในชีวิตไว้ เพราะจากนี้ไปคุณจะไม่รู้จักสิ่งใดอีกนอกจากความเจ็บปวดชั่วนิรันดรในนรกส่วนตัวของคุณเอง

เมื่อคุณฮัมเพลงตามพนักงาน เขาก็จะหันมาและชี้ไปยังประตูทางซ้ายมือ เข้าไปในห้อง ในนั้นเป็นทุ่งกว้างใหญ่สุดสายตาที่หญ้าขึ้นสูงถึงเข่า สิ่งแรกที่คุณจะรู้สึกก็คือสายลมอันอ่อนโยนอบอุ่นที่ล้อเล่นกับใบหน้าของคุณ ห่างออกไป คุณจะได้ยินเสียงผิวปากเบาๆ ถ้าคุณไม่ได้ยินเสียงผิวปากล่ะก็ วิ่งกลับไปทางประตูแล้วปิดมันซะ หาไม่แล้วทุ่งแสนสงบนั้นจะเป็นที่พักสุดท้ายของคุณ

หากเสียงผิวปากยังอยู่ ก็ปิดประตูแล้วมันจะหายไป ตามเสียงผิวปากไป ไม่นานนัก ก็จะมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่กลางทุ่ง สวมชุดชาวไร่ธรรมดา ชายคนนั้นรู้คำตอบของคำถามเดียวเท่านั้น “อะไรพาพวกมันแยกไป?”

เขาจะเล่าเรื่องราวอันแสนยืดยาด เรื่องราวที่เต็มไปด้วยการหลอกลวงและภาพลวงตานั้นถูกทำให้จืดชืดด้วยสำเนียงของเขา คุณจะรู้สึกเหนื่อยและอยากเหยียดกายนอนหลับสักครู่ในทุ่งอันแสนสบายนั้น แต่อย่าทำ เพราะคุณจะไม่ได้ตื่นจากนิทรานั้นอีก

เมื่อเขาเล่าเรื่องจบ ชายคนนั้นจะถามว่า “นายอยากได้จริงๆเหรอ?” บรรยากาศอันชวนให้ขี้เกียจจะทำให้คุณอยากพูดว่าไม่ แต่จงฝืนตนเองและรับกระดิ่งนั่นมา ประตูที่คุณเข้ามาจะปรากฏตรงหน้า ให้คุณออกไปจากที่นั่นได้

กระดิ่งนั่นคือวัตถุหมายเลข 33 จาก 538 เมื่อลมพัดให้มันส่งเสียง วัตถุชิ้นอื่นก็ใกล้เข้ามา เช่นเดียวกับจุดจบของความหวัง



Holder of the Remains

ในทุกเมือง ในทุกที่ ไปที่สุสานที่ไหนก็ได้ที่คุณไปได้ เมื่อคุณไปถึงที่นั่น จงหาตัวคนขุดสุสานและถามหาคนที่เรียกตนเองว่า “ผู้ถือครองแห่งซากศพ” ตอนแรกคนขุดสุสานจะไม่สนใจคุณ อย่าพูดอะไร ยืนมองเขาอย่างนั้น ไม่นานนัก คนขุดสุสานก็จะหยิบพลั่วกับตะเกียงที่อยู่ใกล้ๆและเดินไปที่สุสาน ตามเขาไป จงเคารพหลุมศพที่คุณเดินผ่านด้วย การไปรบกวนมันจะทำให้วิญญาณที่ถูกฝังในนั้นโกรธ หลังจากที่เดินอยู่นาน เขาก็จะหยุดที่หลุมศพโดดเดี่ยวซึ่งไร้เครื่องหมาย และเริ่มขุด เมื่อเขาทำเช่นนั้น ราตรีก็จะมาเยือนอย่างรวดเร็ว แสงต่างๆจะดับตัวเอง และไม่นานก็จะเป็นความมืดสนิท มีเพียงแสงจากตะเกียงของคนขุดสุสานเท่านั้น

ถ้าคนขุดสุสานหยุดมือไม่ว่าเพราะอะไร จงพูดว่า “ทำให้เสร็จเถอะ! ฉันแค่อยากพูดด้วย” หากเขาขุดต่อ ทุกอย่างก็จะราบรื่น แต่ถ้าเขาไม่ขุดอีก จงวิ่งและอย่าหยุดเด็ดขาด ไปให้ไกลจากสุสานเท่าที่คุณทำได้ ในตอนเช้า คุณก็จะหนีไปได้ แต่หากโลกนี้ตกอยู่ในความมืดนิรันดร พวกมันก็จะไม่หยุดจนกว่าจะหาคุณพบ

เมื่อผ่านไปหลายชั่วโมง คุณขุดสุสานก็ทำเสร็จ เขาจะปีนขึ้นมาจากหลุมไร้ชื่อที่ลึกนั้น ข้างในมีเพียงโลงศพไม้เรียบๆ โดดลงไปเปิดมัน สิ่งที่อยู่ข้างในเป็นหญิงสาวผู้งดงาม ผิวของเธอเย็นเฉียบและขาวเหมือนพระจันทร์ มีสิ่งเดียวที่คุณจะถามได้ “อะไรรอพวกมันอยู่?” หากคุณพูดหรือทำอะไรอื่น คนขุดสุสานก็จะใช้พลั่วทุบคุณสลบและฝังคุณทั้งเป็น

ตอนที่คุณจบประโยคนั้น ร่างของเธอก็จะเน่าเปื่อยต่อหน้าต่อตาคุณ อย่าละสายตาด้วยความรังเกียจ คุณต้องให้เกียรติเธอและมองเธอกลับคืนสู่ผืนดิน แม้แต่โลงศพนั้นก็จะผุพังและกระดูกของเธอก็จะแหลกสลาย แม้จะมืด แสงจากตะเกียงนั้นก็พอให้คุณมองเห็น เมื่อมันจบลง ก็จะมีดอกกุหลาบสีขาวงอกขึ้นมาจากดิน มันสวยงามมาก ดอกตูมสีขาวซีดกับก้านสีเขียวยาว กลีบของมันนั้นเย็น ระวังหนามของมันด้วย ถอนมันขึ้นมาแล้วออกไปจากหลุมศพ คนขุดสุสานจะหายตัวไปแล้ว พลั่วกับตะเกียงของเขาก็หายไปด้วย กลิ่นของดอกไม้นั้นเป็นกลิ่นของสวรรค์ ทำให้วิญญาณของคุณรู้สึกอบอุ่นจากภายใน หากคุณหันกลับไปดูหลุมศพที่คุณเพิ่งขึ้นมา คุณจะเห็นว่ามันถูกลบฝังตามเดิมแล้ว และดูเหมือนจะไม่เคยมีใครมารบกวนด้วย แต่ป้ายหลุมศพที่เคยว่างเปล่านั้น จะมีจารึกไว้ว่า “พวกมันจะมารวมกันไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด”

กุหลาบขาวนั้นคือวัตถุหมายเลข 99 จาก 538 มันเติบโตด้วยซากศพในผืนดิน แม้จะตายไปแล้ว ชีวิตก็ยังคงอยู่



The Holder of Immortality

ในทุกเมือง ในทุกที่ ไปที่โรงพยาบาลโรคจิตที่ไหนก็ได้ที่คุณไปได้ เมื่อถึงโต๊ะหน้า ให้ถามหาคนที่เรียกตนเองว่า “ผู้ถือครองแห่งอมตภาพ” ถ้าพนักงานมองคุณ แค่นหัวเราะ แล้วทำสิ่งที่เขาทำอยู่ คุณก็ไปผิดที่แล้ว ไปลองใหม่ที่อื่น ถ้าพนักงานมองตาคุณตรงๆ คุณก็ไปผิดที่แล้ว หันหลังกลับแล้ววิ่งไปก่อนที่เขาจะควักลูกตาคุณออกมา มีเพียงกรณีที่สายตาของเขาจับจ้องไปที่ไหนหลังดวงตาคุณเท่านั้น ที่คุณจะรู้ว่าคุณมาถูกที่แล้ว ในกรณีนี้ ก็ถามอีกทีให้เขาพ้นจากภวังค์

คุณจะได้รับการนำไปยังบันไดสั้นๆด้านหลังโรงพยาบาล ขึ้นไปยังห้องหนังสือทรงกลมซึ่งมีหน้าต่างอยู่ครึ่งห้องมองออกไปเห็นสวนผลไม้ มันเป็นฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้หลากสีสันร่วงหล่น ให้ความรู้สึกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับชายชราผู้เปราะบางที่นั่งหลังโต๊ะซึ่งหันไปทางหน้าต่างนั้นและเขียนหนังสือช้าๆ

เมื่อคุณเข้าไปใกล้ แว่นสีดำนั้นทำให้คุณรู้ว่าเขาตาบอด ขาที่ลีบและหงิกงอเพราะความพิการ และการที่เขาไม่รู้สึกตัวว่าคุณอยู่ในห้องด้วยความหูหนวก

แต่เขาก็ไม่ได้หูหนวกเสียทีเดียว อย่างน้อยก็มีคำถามหนึ่งที่เขาจะตอบ “คุณได้เห็นอะไรบ้าง?”

ถ้าเขาตอบอะไรมานอกจาก “ยังเลย เกือบจะเสร็จแล้ว” คุณก็จะได้ใช้ชีวิตที่เหลือในห้องนั้น เพราะประตูหายไปกับกำแพงหินแล้ว

แต่ถ้าคุณโชคดี ก็จงนั่งรออย่างอดทนให้เขาบอกคุณว่าเรียบร้อยแล้ว ทางเดียวที่คุณจะได้ออกไปจากห้องนี้พร้อมวัตถุก็ต้องเล่นตามกฎของผู้ถือครอง การขัดขวางเขาก่อนที่เขาจะพร้อมอาจชิงวัตถุไปได้ แต่คุณออกไปจากห้องหนังสือของผู้ถือครองไม่ได้หรอก

ในที่สุด ชายคนนั้นก็จะหยุดเขียน ปิดหนังสือลง แล้วประทับตราด้วยครั่งสีแดงเลือดกับตราประทับทองคำหรูหรา เขาจะยื่นหนังสือมาให้คุณ คุณต้องรับมันมา แต่จงเร็วเข้า เขาเกือบสิ้นใจแล้ว และหากเขาตายก่อนที่คุณจะรับหนังสือมา คุณก็จะไม่ได้ออกไปจากห้องนั้น แต่คุณจะมีเวลาเหลือเฟือสำหรับการคิด อ่าน และเขียนสิ่งต่างๆ ขณะรอให้ใครสักคนโผล่มาทำให้การถูกคุมขังของคุณมีรสชาติบ้าง

เมื่อคุณสัมผัสหนังสือนั้น ชายผู้นั้น ผู้เคยเป็นมนุษย์ ผู้เคยแสวงหา และยามนี้เป็นผู้ถือครอง จะหายใจครั้งสุดท้าย แล้วเหตุการณ์ในชีวิตของเขาก็จะท่วมทะลักเข้าไปในจิตใจของคุณ จารึกมันไว้ในบ้านใหม่

เมื่อประตูเปิดออก คุณก็กลับไปได้

เรื่องราวในชีวิตของผู้ถือครองอยู่ในตัวคุณและในหนังสือนั้น ในภาชนะทั้งสองซึ่งอาจผ่านกาลเวลา ให้ทุกคนได้รู้เรื่องของเขา

อัตชีวประวัตินั้นคือวัตถุหมายเลข 421 จาก 538 มีแต่ความตายที่ทำให้ชีวิตคุณได้ยืนยงตลอดกาล


RE: มาล่าวัตถุต้องสาปกันเถอะ The Holders Series - Kuruni - 01-20-2013

รอบนี้สี่ชิ้นครับ หนักเบาแตกต่างกันไป

Holder of the Tower

ในทุกเมือง ในทุกที่ ไปที่คุกที่มีการป้องกันแน่นหนาที่สุดที่คุณไปได้ เมื่อคุณไปถึงโต๊ะหน้า จงถามหาคนที่เรียกตนเองว่า “ผู้ถือครองแห่งหอคอย” โดยฉับพลัน ยามจะจับคุณแล้วเอาคุณไปขังไว้ในแดนประหารโดยไม่มีการไต่สวน ห้องขังของคุณจะอยู่ชั้นใต้ดินที่ลึกที่สุด อย่าออกจากห้อง อย่ากินอาหารหรือดื่มน้ำ การทำเช่นนั้นเป็นการยอมสยบต่อความหายนะในแดนประหารอันนำมาซึ่งการทรมานที่ไม่ควรจะเขียนถึง จงแข็งตาตื่นอยู่ให้นานที่สุดโดยไม่นอน เมื่อร่างของคุณล้มลงเพราะความอ่อนล้า คุณจะจมลงสู่นิทราอันไร้ซึ่งความฝัน เมื่อคุณตื่นขึ้น ห้องขังของคุณก็เปิดอยู่ และคุกก็เต็มไปด้วยหมอกหนา ออกไปจากห้องขังแล้วเดินตรงไป ไม่นานนักมันก็เป็นที่ชัดเจนว่าคุณไม่ได้อยู่ในคุกอีก ห้องขังที่อยู่เบื้องหลังนั้นจะหายไปท่ามกลางหมอกในเวลาไม่นานนัก

คุณจะได้เห็นรูปร่างของสิ่งปลูกสร้างเป็นสัญญาณว่าคุณเข้าใกล้แล้ว เมื่อคุณเข้าใกล้คุณก็จะเห็นว่ามันเอนไปด้านหนึ่งเล็กน้อย และมันก็จมลงไปในดินที่คุณเดินอยู่มากพอดู แม้จะมีส่วนหนึ่งจมดิน แต่ส่วนยอดของมันก็ปกคลุมด้วยหมอกและไม่อาจมองเห็นได้ หาหน้าต่างสักบานแล้วปีนเข้าไป ประตูนั้นจมลงไปข้างใต้แล้วและใช้การไม่ได้ ที่นั่นจะมีชายชราผู้สวมชุดเรียบร้อยรอคุณอยู่ เขาจะทักทายคุณแล้วเริ่มเดินไป ภายในนั้นจะมืดสนิท ยกเว้นเพียงวงแสงเล็กๆจากเทียนไขที่ชายคนนั้นถือ ตามไป แล้วถามว่า "พวกมันถูกแยกกันที่ไหน?"

เขาจะเล่าให้คุณฟังด้วยรายละเอียดอันชัดเจนถึงเรื่องราวอันโหดร้ายในตอนที่พวกวัตถุถูกแยกกันโดยไม่มีใครคาดเดาได้ ความสยดสยองที่เขาอธิบายนั้นไม่ควรเป็นภาษามนุษย์ ภาพจะคืบคลานเข้าไปในสมองของคุณราวกับเด็กซนที่คลานเข้าไปทางหู ในตอนที่เขาพูดถึงหอคอยซึ่งแยกพวกมันไปให้เสร็จสิ้น เขาจะระลึกถึงภวังค์อันน่าสะพรึงกลัว ของสิ่งที่เกิดขึ้นในที่ซึ่งพวกมันถูกแยกกัน คุณห้ามขัดเขา และจงอยู่ในวงแสงนั้น เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่กันความมืดมิดไว้ ในที่นั้นมีความหิวโหยอันไร้ปรานีอยู่ เมื่อเขาเล่าจบ พวกคุณจะไปถึงห้องซึ่งมีกิโยตินโชกเลือด ชายชราจะหันมาหาคุณแล้วหยิบนาฬิกาพกออกมามอง แล้วบอกคุณว่าถึงเวลาแล้ว

นาฬิกาพกนั้นคือวัตถุหมายเลข 100 จาก 538 มันจะนับถอยหลังสู่ถึงวันแห่งคำสาปแช่งหรือไม่ก็วันแห่งการไถ่บาป มันขึ้นอยู่กับคุณ



The Holder of Treachery

ตอนที่คุณอยู่บ้าน โทรศัพท์หาบริษัทขนส่งและขอพูดกับ “ผู้ถือครองแห่งการทรยศ” คนที่รับสายจะถอนใจอย่างโล่งอก ถามชื่อและที่อยู่ของคุณ ก่อนวางสาย ก่อนตะวันตกดิน คุณจะได้รับพัสดุจากบริษัทนั้น จ่าหน้าถึงคุณแต่ไม่มีชื่อผู้ส่ง กล่องนั้นจะมีช่องอากาศ แต่คุณจะมองไม่เห็นว่าข้างในมีอะไร

เปิดกล่องนั้น จงรู้ไว้ว่าไม่ว่าคุณจะทำยังไง คุณก็จะถูกขอบกล่องบาด และคุณก็ไม่อาจป้องกันไม่ให้เลือดหยดใส่แมวสีขาวที่อยู่ข้างในได้ ชีวิตของคุณจะเชื่อมโยงกับแมวนั้น เมื่อมันเจ็บปวด คุณก็จะเจ็บปวด เมื่อมันตาย...คุณไม่อยากรู้หรอกว่าวิญญาณของคุณจะเป็นยังไงเมื่อแมวนั้นตาย แต่หากเกิดอะไรขึ้นกับคุณ เจ้าแมวก็จะเพียงแต่หัวเราะ

สิ่งที่คุณต้องทำก็คือรักษาชีวิตเจ้าแมวนั่นไว้จนถึงเที่ยงคืน หนึ่งสัปดาห์ต่อมาจากวันที่คุณรับมันไว้ มันเป็นสิ่งที่ยาก เพราะแมวตัวนั้นจะพยายามฆ่าคุณให้ได้ทุกวิถีทาง แม้แต่การทำให้ตนอยู่ในอันตราย มันฉลาดมากและจะหลอกล่อคุณสู่ความตายทุกทาง ตลอดสัปดาห์นั้น แผนการของมันก็จะยิ่งแยบยลขึ้น แก้ไขยากขึ้น และคุณก็ต้องใช้กำลังและสติปัญญาทั้งหมดเพื่อความอยู่รอด หากคุณได้พบ ผู้ถือครองแห่งเกียรติ มาแล้ว ฉันก็สงสารคุณจริงๆ คุณไม่มีทางรอดแน่ และความตายของคุณก็นับเป็นความกรุณายิ่งยวดเมื่อเทียบกับสิ่งที่รอคุณอยู่หลังจากนั้น

หากคุณมีชีวิตอยู่ได้ถึงสัปดาห์ เมื่อใกล้เที่ยงคืน เจ้าแมวก็จะอยู่ในสภาพบ้าคลั่ง มันจะโจนเข้าใส่และโจมตีคุณ ใต้รูปลักษณ์ที่ดูไร้พิษสงนั้นซุกซ่อนกำลังและความอดทนอันเหลือเชื่อไว้ และกงเล็บของมันจะนำมาซึ่งควมตายแห่งความทรมานชั่วนิรันดร ปกป้องตัวเองโดยอย่าทำร้ายมันจนถึงเที่ยงคืน

แมวตัวนั้นจะกรีดร้อง “ทำไมแกถึงไม่ตาย?” คุณต้องตอบไปว่า “เพราะข้ามิใช่ผู้ทรยศ” หากคุณตอบไปโดยไม่หวาดกลัวหรือลังเล แมวตัวนั้นจะหยุดดิ้นรนแล้วมองตาคุณ ก่อนพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นแกก็จะได้เรียนรู้” มันจะข่วนมือคุณแล้วหนีไป หายตัวไปต่อหน้าต่อตาคุณ ไปที่เตียงแล้วนอนหลับ เมื่อคุณตื่นขึ้น มือทั้งสองของคุณจะเป็นกงเล็บ

กงเล็บนั่นคือวัตถุหมายเลข 159 จาก 538 มันจะนำพาความทรยศมาสู่ผู้ที่ต่อต้านคุณ



The Holder of the Noose

ในทุกเมือง ในทุกที่ ไปที่โรงพยาบาลโรคจิตที่ไหนก็ได้ที่คุณไปได้ เมื่อถึงโต๊ะหน้า ให้ถามหาคนที่เรียกตนเองว่า “ผู้ถือครองแห่งบ่วง” หากพนักงานไม่สนใจคุณก็จงออกมาซะ มันยังไม่ถึงเวลา แต่หากพนักงานฟุบไปแล้วล่ะก็ จงหลับตาเสีย คุณจะได้ยินพนักงานคนอื่นวิ่งเข้ามาด้วยความสับสน เสียงจะถามคุณว่าเกิดอะไรขึ้น อย่าตอบและหลับตาไว้ หาไม่แล้วคุณจะได้พบกับความทรมานที่จินตนาการของมนุษย์ไม่อาจหยั่งถึง เมื่อทุกอย่างเงียบก็ปลอดภัยแล้ว ลืมตาขึ้น หากคุณทำสำเร็จ คุณก็จะยืนอยู่หน้าบันได

ขึ้นบันไดไป ระหว่างนั้นคุณจะได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือดังจากข้างล่าง อย่าทำเป็นไม่สนใจ แต่จงตอบไปว่า "ไม่มีอะไรช่วยเจ้าได้แล้ว" หากเสียงร้องยังดังอยู่ ก็ยืนนิ่งรับความตายอันโหดร้ายที่จะมาหาคุณแต่โดยดีเถอะ หาดมันหยุดก็จงก้าวต่อ ในที่สุดแล้วคุณก็จะไปถึงประตูที่มีสัญลักษณ์สลักไว้ ที่ธรณีประตูมีกริชอยู่ คุณจะเข้าไปในนั้นได้โดยกรีดสัญลักษณ์นั้นบนมือข้างหนึ่ง แล้วใช้มือข้างนั้นดึงลูกบิด มันควรจะเปิดออก แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น ก็ภาวนาให้ใครที่คู่ควรกว่าคุณมาสานต่อการเดินทางของคุณด้วย คุณจะไม่ได้กลับบ้านแล้ว

เมื่อประตูเปิดออก คุณจะเห็นเด็กหญิง เด็กชาย แล้วก็บ่วงเชือก ไม่ต้องสนใจเด็กหญิง ถามเด็กชายว่า "เกิดอะไรขึ้นกับคนอื่นๆ?" ถ้าพูดอย่างอื่น คุณจะต้องเสียใจที่ไม่ได้ใช้บ่วงนั่นแขวนคอตัวเองให้ตายๆไปซะตอนที่ยังทำได้ เด็กชายจะพูดให้คุณฟังที่ "ผู้มาเยือน" คนอื่นๆหายตัวและถูกลืมไปตามกาลเวลา เรื่องนี้จะทำให้จิตวัญญาณของคุณรู้สึกสมเพช ขยะแขยง และไร้ค่า จนคุณต้องเถียงกับตัวเองว่าควรจะฆ่าตัวตายเสียตรงนั้นเพื่อไม่ให้อนาคตผิดพลาดอีกหรือไม่ เมื่อเขาเล่าจบ เด็กหญิงจะถามว่าคุณอยากรู้อะไรอีกหรือไม่ ทำเป็นไม่รู้ว่าเธออยู่ตรงนั้น เมื่อเป็นที่ชัดเจนว่าคุณจะไม่พูดอะไรแล้ว เด็กชายจะบอกให้คุณหันหลัง อย่าทำตาม จงดูเขาคล้องบ่วงและบังคับให้เด็กหญิงลอดหัวของเธอเข้าไป เธอจะกรีดร้องขอความช่วยเหลือด้วยน้ำตาที่อาบแก้ม เดินเข้าไปแล้วยื่นกริชให้เด็กชาย ทำลายความหวังของเธอจนราบคาบ

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เด็กชายจะตัดผมของเธอออกมาปอยหนึ่ง แล้วยื่นให้คุณโดยห่อมาในหมวกที่จารึกด้วยสัญลักษณ์แบบเดียวกับที่เลือดไหลจากมือคุณและบนประตูนั้น กลับไปทางที่คุณมา คุณจะรู้สึกตัวที่ห้องเดียวกับที่คุณเริ่มต้น แต่ที่นั่นไม่มีใครอื่น และพนักงานก็จะยังฟุบอยู่

หมวกกับผมนั้นคือวัตถุหมายเลข 296 จาก 538 อย่าดึงผมนั่นออกเพราะมันเป็นเหมือนชีวิตของคุณ



The Holder of Comfort

ในทุกเมือง ในทุกที่ ไปที่โรงพยาบาลโรคจิตที่ไหนก็ได้ที่คุณไปได้ เมื่อถึงโต๊ะหน้า ให้ถามหาคนที่เรียกตนเองว่า “ผู้ถือครองแห่งการปลอบประโลม” พนักงานจะตอบสนองด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น และตอบว่า”ได้สิครับ ทางนี้เลย” ตามเขาไปที่ประตูซึ่งอยู่ตรงทางเดินนั้นเอง เขาจะเปิดประตูแล้วให้คุณเข้าไปในนั้น

เข้าไปในประตูแล้วคุณจะเห็นหญิงชรานั่งอยู่ที่มุมห้อง เธอจะตอบคำถาม “ทำไมผมถึงควรไปต่อ?” เธอจะหันมาหาคุณแล้วพูดสิ่งที่ให้กำลังคุณมากที่สุด สิ่งที่ทำให้คุณพร้อมรับความลำบากของการเดินทางที่คุณเลือกเอง คุณจะนั่งบนเตียง และฟังเธอพูดด้วยความเคารพและเทิดทูน พวกคุณจะพูดคุยกันนานแค่ไหนก็ได้ ผู้แสวงหาหลายคนใช้เวลาหลายสัปดาห์อยู่ในห้องนั้น พอใจกับการอยู่ในสวรรค์ชั่วคราวนี้ เหมือนที่หลายๆคนเป็น

เมื่อคุณคุยจบ ก็จงกดกริ่งเรียกพนักงาน ผู้ซึ่งจะเข้ามาพร้อมถือถาดซึ่งมีปืนวางอยู่บนนั้น ปืนนั้นมีกระสุนหนึ่งนัด และคุณมีทางเลือกสามทาง

หนึ่ง ยิงหญิงชราแล้วเอาวัตถุของเธอมา ดิ้นรนของคุณต่อไป

สอง ฆ่าตัวตาย หรือยิงพนักงาน (ทั้งสองอย่างก็ลงเอยเหมือนๆกัน)

หรือสาม อยู่ในห้องนั้นไปตลอดกาล แต่รู้ไว้เถิดว่าหญิงชราผู้นั้นจะไม่เหมือนเดิม

เมื่อคุณมองไปข้างหลังคุณก็จะรู้ตัวว่าพวกคุณไม่ได้อยู่เพียงลำพัง ผู้คนมากมายถือปืนแบบเดียวกันยืนนิ่งอยู่ ไม่อาจตัดสินใจต่อสิ่งเลวร้ายนี้ได้

วัตถุของนางคือหมายเลข 476 จาก 538 จงก้าวไปข้างหน้าด้วยความแน่วแน่


RE: มาล่าวัตถุต้องสาปกันเถอะ The Holders Series - Kuruni - 08-09-2014

ขุดครับขุด ปีกว่าๆแล้วก็ยัง(หน้าด้าน)ขุด ห้าตัวไปเลย

Holder of Clarity

ในทุกเมือง ในทุกที่ ไปที่โรงพยาบาลโรคจิตที่ไหนก็ได้ที่คุณไปได้ เมื่อถึงโต๊ะหน้า ให้ถามหาคนที่เรียกตนเองว่า “ผู้ถือครองแห่งความกระจ่างแจ้ง” พนักงานจะเริ่มพูดเรื่องสัพเพเหระเกี่ยวกับชีวิตของพวกเขา เรื่องตลกวงในที่มีแต่พวกเขาเข้าใจ ขณะเดียวกันก็เดินด้วยท่าทางโงนเงนไปยังพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจในอาคารนั้น เขาจะเลื่อนประตูที่อยู่ใต้โต๊ะให้เปิดออกแล้วก็เงียบเสียงอย่างฉับพลันด้วยสีหน้าหม่นหมอง เมื่อคุณมองลงไปในโพรงนั้น คุณจะเห็นประกายแสงจำนวนมากสว่างขึ้นและมืดลง คุณจะรู้สึกพรั่นพรึงและสับสน แต่คุณต้องเข้าไป

ทางเดินนั้นเหมือนจะไม่มีจุดเริ่มต้นหรือสิ้นสุด แสงไฟก็กะพริบไปมาเป็นระยะๆ และคุณจะเห็นสิ่งเล็กๆบินไปมาตรงหน้า ตามปาก จมูก และดวงตาของคุณ อากาศนั้นจะเต็มไปด้วยเสียงหึ่งๆอันเลวร้ายซึ่งทำให้คุณไม่ได้ยินแม้เสียงกรีดร้องของตนเอง คุณต้องเดินหน้าไปเท่านั้น และหากว่าสิ่งเหล่านั้นหยุดเคลื่อนไหวหรือไฟสว่างค้างไว้ คุณต้องตะโกนออกไป "พวกนั้นไม่รู้หรอกว่าฉันอยู่ที่นี่ ฉันปิดบังร่องรอยแล้ว!" หากความสงบนั้นยังคงอยู่ คุณก็สายไปแล้ว ด้วยว่ามันเริ่มขึ้นแล้ว

หากความบ้าคลั่งอันเลวร้ายนั้นกลับมา คุณก็ต้องไปต่อ หลังจากที่เทียวไปมา คุณก็จะพบกับประตู จับมือจับแล้วเข้าไป ห้องนั้นไม่มีที่สิ้นสุด มีแต่พื้นเท่านั้นที่จะทำให้จิตใจของคุณคงความปกติไว้ได้

ที่นั้นจะมีชายผู้หนึ่งซึ่งทั่วร่างเต็มไปด้วยตะปูยาวและลิ่มเสียบไว้ทุกตารางนิ้ว เขาอ้าปากอยู่ เพราะมีเข็มหมุดดึงริมฝีปากเขาไว้ และหลังคอในปากของเขาก็มีลิ่มตอกไว้ ลิ้นของเขาจะพลิกไปมาเมื่อคุณไปถึงที่นั้น ตาของเขาจะมองมาหาคุณด้วยแววของความตื่นตระหนก

เขาจะมีปฏิกิริยาต่อคำถามเดียวเท่านั้น “ทำไมพวกมันถึงมีรูปร่าง?” ตาของเขาจะจ้องนิ่งมาที่คุณและลิ้นก็หยุดนิ่ง ด้วยน้ำเสียงเหมือนสำลักน้ำอันน่าสยดสยองนั้น เขาจะเล่าให้คุณฟัง ถึงการสร้างวัตถุทั้งหมดและจุดประสงค์ของพวกมัน คำบรรยายแต่ละประโยคนั้นจะทำให้คุณอาเจียนออกมา และเรื่องราวนี้ก็ทำให้คนส่วนใหญ่วิปลาส

คุณจะเจอมีดแล่เนื้อขึ้นสนิมและคร่ำคร่าอยู่ในมือ คุณต้องตัดลิ้นของเขาออกมาทั้งๆที่เสียงกรีดร้องอันน่าสมเพชของเขาสะท้อนไปมาในจิตวิญญาณของคุณ เขาช่างน่าสงสารและคุณจะอยากช่วยเขา แต่อย่าทำเช่นนั้น เพราะคุณจะกลายเป็นตัวแทนของเขา

ลิ้นของเขาคือวัตถุหมายเลข 28 จาก 538 พวกมันจะได้พบกัน และมีแต่คุณที่รู้ว่าทำไม


Holder of Confusion

ในทุกเมือง ในทุกที่ ไปที่โรงพยาบาลโรคจิตที่ไหนก็ได้ที่คุณไปได้ เมื่อถึงโต๊ะหน้า ให้ถามหาคนที่เรียกตนเองว่า “ผู้ถือครองแห่งความสับสน” ตอนแรกพนักงานจะไม่สนใจคุณ แต่ถ้าคุณรอหนึ่งนาทีเต็มๆ เธอก็จะลุกขึ้นแล้วทำท่าให้คุณตามไป หลังจากที่ตามเธอผ่านทางเดินที่มืดสลัวแล้ว คุณก็จะมาถึงทางตันที่ไม่มีประตู พนักงานจะโบกมือไปที่สุดทางเดินนั้น แล้วจากคุณไปโดยไม่พูดอะไรเลย

คุณต้องเดินไปสุดทางโดยไม่พูดอะไร เมื่อถึงปลายทาง วางมือลงบนผนังแล้วคุณจะรู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาที่คุณเดินเข้าไปได้ หากว่าคุณหวาดกลัว หรือกริ่งเกรงถึงสิ่งที่จะอยู่หลังผนังนั่นเมื่อคุณก้าวเข้าไปแล้ว หรือแม้แต่ความเคลือบแคลงใดๆ คุณก็จะเดินพ้นออกไปจากความเป็นจริงนี้ตลอดกาล ไม่มีใครรู้เรื่องของคุณอีก

แต่ถ้าคุณเชื่อมั่นในตัวคุณ และเชื่อมั่นว่าคำตอบนั้นอยู่หลังผนังนั่น เมื่อคุณก้าวออกไป คุณก็จะอยู่ในห้องสีขาวที่มีทางเดินมากมาย บ้างก็ทอดไกลออกไป บ้างก็ดูเหมือนจะไม่ไปไหนเลย และบ้างก็ดูเหมือนจะขัดกับความเข้าใจ และนำไปสู่ความทรมานที่มีเพียงวิญญาณที่ชั่วร้ายที่สุดจะรับรู้ได้

หนทางที่คุณหานั้นอยู่ตรงหน้าคุณนั้นเอง มันดูเหมือนจะทอดยาวออกไปอย่างไร้สิ้นสุด ตอนที่เดินไปนั้น คุณต้องไม่พูดอะไร ไม่ว่าการเดินทางครั้งนี้จะดูเหมือนยาวนานเพียงใด และหากว่าห้องนั้นเริ่มมืดลงระหว่างทางของคุณแล้ว สิ่งเดียวที่คุณจะทำได้ก็คือนั่งลงและร่ำไห้เงียบๆ ด้วยว่าคุณจะมีค่าเพียงสารอาหารของอสุรกายที่ชั่วร้ายและน่าเกลียดที่สุด

แต่ถ้าห้องนั้นคงเป็นสีขาวที่แทบวัดไม่ได้อยู่อย่างนั้น หนทางของคุณก็จะไร้ซึ่งอันตรายใดๆ และคุณก็จะไปถึงประตูหนึ่งโดยสวัสดิภาพ ถึงตรงนี้ คุณไม่ต้องทำอะไร เพราะประตูจะเปิดออกให้คุณเห็นห้องที่ไม่อาจเป็นไปได้ มันไม่ใหญ่ แต่ก็ไม่เล็ก มันไม่สว่าง แต่ก็ไม่มืด มันดูเหมือนจะเป็นทุกอย่าง และก็ไม่ใช่อะไรเลยสักอย่าง ความเหมือนและแตกต่างนั้นไร้ความหมายในห้องนั้น กล่าวกันว่าแทบทุกผู้ที่เข้าไปในห้องนั้นจะเสียสติวิปลาสและข่วนเนื้อหนังของตนออกมา ไม่ก็ใช่มือเปล่าดึงกระชากเครื่องในของตน พร้อมกับหัวเราะอย่างบ้าคลั่งโดยที่ไม่ตาย เพราะนั่นคือชะตากรรมที่เหลือตลอดกาลนานของพวกเขา

หากว่าคุณยังคงสติไว้ได้ คุณจะเห็นร่างที่ไร้คำบรรยายยืนอยู่ ณ ศูนย์กลางแห่งความบ้าคลั่งนั้น มันดูเหมือนมนุษย์ แต่ขณะเดียวกันก็เลวร้ายกว่ามากนัก คุณจะไม่มีทางรับรู้สิ่งที่เห็นจากตัวตนนั้นได้ทั้งหมด แต่คุณต้องไม่หนีจากภาพของมัน และคุณก็ต้องไม่พูดอะไรกับมันด้วย มันจะพูดกับคุณถึงเรื่องราวมากมาย บ้างนั้นคุณก็รู็ว่าเป็นความจริง บ้างนั้นก็เป็นเรื่องโกหก และก็มีอีกมากที่คุณไม่แน่ใจ ตัวตนนั้นจะมีท่าทางกระวนกระวายขึ้นทุกทีที่คุณไม่สนใจเรื่องไร้สาระของมัน คุณจะต้องไม่พูดอะไรทั้งนั้น จนกระทั่งมันเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วถามขึ้นมา

“เจ้าจะทำอย่างไร หากพวกมันถูกนำมารวมกัน?”

คุณต้องตอบไปอย่างหนักแน่น

“ทุกๆสิ่งที่คุณจะทำ แล้วก็ทุกๆสิ่งที่คุณจะไม่ทำด้วย”

ตัวตนนั้นจะมองคุณอย่างเลื่อนลอยครู่หนึ่ง หากว่ามันไม่เชื่อคุณ มันก็จะเดินจากไป ทิ้งคุณไว้ในความมืดมิดนิรันดรเพียงผู้เดียว แต่หากมันเชื่อคุณแล้ว มันก็จะยื่นมือออกมา และมอบวัตถุเรืองแสงเล็กๆที่ดูเหมือนยังไม่เป็นรูปร่างให้คุณ นั่นคือ“ความตั้งใจแห่งสัตว์ร้าย”

มันคือวัตถุหมายเลข 37 จาก 538 ไม่ว่าคุณจะยังไม่ตัดสินใจอย่างไร ไม่ว่าคุณจะไม่แน่ใจว่าโลกนี้จะเป็นอย่างไร คุณผู้เดียวที่จะรู้ถึงสิ่งที่ต้องทำเมื่อพวกมันมารวมกัน


Holder of War

ในทุกเมือง ในทุกที่ ไปที่โรงพยาบาลโรคจิตที่ไหนก็ได้ที่คุณไปได้ ตอนที่คุณเข้าไปยังโต๊ะหน้านั้นก็จงมองเพดานด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย แล้วขอพบ“ผู้ถือครองแห่งสงคราม”ด้วยน้ำเสียงที่เฉยชาและห่างเหิน คุณจะรู้สึกว่ามีคนสะกิดที่ไหล่เบาๆ ตอนนี้ก็มองลงได้แล้ว พนักงานจะยิ้มอย่างสุภาพแล้วเริ่มเดินไป บอกเล่าประวัติของโรงพยาบาลนั้นด้วยน้ำเสียงราวกับเครื่องจักร อย่ามีปฏิกิริยาใดๆกับคำพูดของเขา มันเป็นเรื่องที่โหดร้ายอย่างบ้าคลั่งและเต็มไปด้วยคำบรรยายที่แลเห็นภาพได้ แต่การแสดงปฏิกิริยาในตอนนี้จะเป็นเส้นทางสู่นรกอันไม่มีการย้อนกลับ

หลังจากเดินไปได้สักพัก คุณก็จะมาถึงประตูสลักอันโอ่อ่าที่ทำจากไม้มะฮอกกานีและทองคำ หยุดตรงหน้ามัน คงสีหน้าเบื่อหน่ายนั่นไว้ จะเพิ่มรอยยิ้มไร้อารมณ์เข้าไปด้วยก็ได้ แต่อย่ามีปฏิกิริยาใดๆในตอนที่พนักงานจับด้านหลังของเสื้อคุณไว้ หาไม่แล้วเขาจะเปลี่ยนวิธีจับ และคุณก็จะไม่มีหัวอีก

คนงานจะเหวี่ยงคุณผ่านประตูไป แล้วคุณจะได้ยินมันกระแทกปิดกันไล่หลังคุณ ที่ที่คุณอยู่นั้นครั้งหนึ่งอาจเป็นไร่อันอุดมสมบูรณ์ แต่ตอนนี้มันเป็นสนามรบที่ถูกทำลายจนแหลกราญ ทหารที่สวมเครื่องแบบสองสี สีขาวสดใสที่แปดเปื้อน กับสีดำสกปรกอันน่าสะอิดสะเอียน กำลังทำการพุ่งรบกันในแบบที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด การต่อสู้กันด้วยปืน ปืนใหญ่ ดาบ ธนู อาวุธสงครามทั้งหมดที่เคยมีมาตั้งแต่รุ่งอรุณแห่งกาลเวลา

อย่าถอยหนีจากสนามรบนี้ หาไม่แล้วพวกทหารจะสังเกตเห็นคุณ หยุดต่อสู้กัน แล้วหันมาหาคุณด้วยความเกลียดชังอย่างเอกอุ เพราะคุณคือสิ่งที่พวกเขาต่อสู้แย่งชิง และด้วยจิตใจอันบ้าคลั่งนั้น มันก็หมายถึงคุณเป็นเหตุที่ทำให้พวกนั้นต้องหลั่งเลือด

อีกอย่างหนึ่ง อย่าพยายามกลับไปทางประตู มันล้มลงไปในโคลนแล้ว ถูกผลักโดยทหารที่ถือปืนติดดาบผู้กำลังร้องตะโกน ถ้าคุณปล่อยให้เขาอยู่เหนือคุณได้ เขาจะฉีกคุณเป็นชิ้นๆในไม่กี่วินาที แต่ก็ยังฆ่าคุณไม่ได้ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนั้นจะทำให้คุณต้องเสียสติไปอย่างไม่ต้องสงสัย

แทนที่จะทำอย่างนั้น จงเลิกทำสีหน้าเบื่อหน่ายแล้วเปลี่ยนมันเป็นใบหน้าอันมุ่งมั่นซะ เดินตรงไปข้างหน้าเป็นจังหวะอย่างทหารจนกว่าคุณจะเห็นอาคารคอนกรีตสูงสามชั้นที่ถูกระเบิด ซึ่งครั้งหนึ่งอาจจะเคยเป็นบังเกอร์บัญชาการรบ ระหว่างนั้นอย่าเลี้ยวไปทางใด รถหุ้มเกราะเข้ามาในสนามรบแล้ว และถ้าคุณหยุดหรือเปลี่ยนจังหวะ ขบวนรถถังก็จะแล่นทับคุณ

เมื่อคุณเข้าไปในบังเกอร์ อย่าไปสนใจใครก็ตามที่ขอร้องหรือพยายามพูดกับคุณ ไม่ว่าพวกนั้นจะดูดิ้นรนแค่ไหน พวกนั้นทุกคนคิดว่าคุณเป็นศัตรู และชั่วขณะที่คุณตอบ คุณก็จะถูกมีดแทงเข้าที่หน้าเป็นการตอบแทน จงเดินตรงไปยังบันไดที่อยู่ข้างหน้า ขึ้นไปชั้นสอง เมื่อคุณก้าวขึ้นบันไดไปนั้น คุณจะได้ยินเสียงกระแทกไล่หลังมา นั่นคือเสียงทางหนีไฟถูกปิดพร้อมกับที่ทหารปืนไฟทำการโจมตี

ที่ชั้นสองนี้มีผู้ชายเพียงคนเดียว นั่งอยู่ที่โต๊ะ ตะโกนใส่โทรศัพท์ บันไดขึ้นชั้นสามนั้นเป็นกลุ่มก้อนของคอนกรีตที่บิดเบี้ยว ชายคนนั้นติดดาวของนายพล แต่ดูเหมือนจะไม่รู้ตัวเลยว่าโทรศัพท์นั้นไม่มีสัญญาณ ก็เหมือนกับทุกเครื่องในชั้นนี้

เดินเข้าไปหาเขา วันทยาหัตถ์ แล้วตะโกนด้วยเสียงแบบทหารให้ขึงขังที่สุด "ท่านครับ!" เขาจะหันมามองคุณ ถ้าเขาคิดว่าคุณไม่คู่ควรจะอยู่ในกองทัพของเขาแล้ว เขาก็จะแยกชิ้นส่วนคุณด้วยมือเปล่า แล้วคุณก็จะต้องพบกับความตายที่กำลังมาเยือนร่วมไปกับเขา ถ้าเขาคิดว่าคุณคู่ควรแล้ว เขาจะพยักหน้าและจ้องเขม็งมาทางคุณ เขาไม่ชอบพวกเหลาะแหละ ฉะนั้นจงรีบถามคำถามออกไป

คำถามเดียวที่เขาจะตอบก็คือ "ผมจะไปที่ไหนครับท่าน?"

เขาจะเล่า เขาจะเล่าให้คุณฟังอย่างละเอียด รายละเอียดอันน่าสยดสยอง ซึ่งทำให้คุณอยากจะบีบคอเขา อย่าได้พยายาม เขาเป็นนักสู้ที่มีประสพการณ์ยิ่งกว่าที่คุณจะเคยคิดเป็นนัก และการเอาวันทยาหัตถ์ลงก็จะนำมาซึ่งจุดจบที่แสนจะเละเทะ เมื่อเขาพูดจบ เขาก็จะบอกว่า "ตามสบาย" แล้วยื่นปืนพกให้คุณ ตอนนี้คุณเอามือลงได้แล้ว รับปืนนั้นมาแล้วเก็บมันลงในซองปืน ถ้าคุณไม่เคยมีมัน ตอนนี้คุณก็มีแล้ว

จู่ๆก็จะเกิดระเบิดขึ้นจากกำแพงอีกด้านและทำให้ตัวนายพลแหลกเละ จากโพรงนั้นคุณจะเห็น ที่เส้นขอบฟ้านั่น รูปทรงยาวๆของมิสไซล์ที่ถูกยิงขึ้นมา

หลับตาลงให้แน่นและอย่าเปิดมันเด็ดขาด เสียงของการต่อสู้จะค่อยๆเงียบลงจนกระทั่งคุณได้ยินเสียงปืนหนึ่งนัดดังท่ามกลางความเงียบนั้น ลืมตาขึ้นได้แล้ว

คุณยืนอยู่กลางทุ่งข้าวสาลีที่เป็นระลอกคลื่น คุณรู้ว่าที่นี่คือที่ที่การสู้รบอันน่าสยดสยองซึ่งคุณเดินฝ่ามาจะเกิดขึ้น และคุณก็รู้ ว่าคุณจะอยู่แทนที่นายพลผู้นั้น

ปืนพกที่เขายื่นให้คุณนั้นคือวัตถุหมายเลข 44 จาก 538 จงเรียนรู้การใช้มัน มันยังมีกระสุนเหลืออยู่หนึ่งแม็กกาซีน ถ้าคุณยิงนัดสุดท้ายในเวลาที่ถูกต้อง คุณก็จะเลี่ยงชะตากรรมของนายพลผู้นั้นได้ หาไม่ คุณก็จะได้ไปรวมกับเขา


Holder of Isolation

ในทุกเมือง ในทุกที่ ไปที่อพาร์ทเมนท์ที่ไหนก็ได้ที่คุณไปได้ เมื่อถึงโต๊ะหน้า ให้ถามหาผู้ที่เรียกตนเองว่า"ผู้ถือครองแห่งความเดียวดาย" หากที่นั่นไม่มีโต๊ะหน้า ก็ใช้ออดแล้วขอดูห้องที่ยี่สิบหกที่จะขาย ซึ่งจะทำให้คนเฝ้าประตูออกมา ไม่ว่ากรณีไหน พนักงานก็จะพาคุณลงไปตามบันไดซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีอยู่ตรงนั้น ในที่สุดคุณก็จะไปถึงประตู แล้วพนักงานก็จะเปิดประตูให้คุณ อย่าเพิ่งเข้าไป แต่จงมองไปยังประตูที่เปิดไว้นั่นแล้วขอให้พนักงานปิดประตูแล้วปล่อยคุณไว้ตนเดียว หากเขายืนกรานให้คุณเข้าไป คุณก็มีทางเลือกสองทาง คือรอให้พนักงานเปิดเผยร่างจริงออกมา หรือไม่ก็เข้าไปในประตูแล้วป้อนตัวเองเป็นอาหารแก่ความสยดสยองในนั้นซะ ไม่ว่ายังไงการเดินทางของคุณก็จะจบลงที่นี่ หากพนักงานทำตามที่คุณว่า ก็รอจนเขาไปพ้นสายตา จงแน่ใจว่าคุณอยู่คนเดียวก่อนจะเปิดประตูบานนั้น

พ้นประตูนั้นไปคือการชุมนุมบนอพาร์ทเมนท์สูงที่มองเห็นนครหลวงใดๆของที่ที่คุณอยู่ได้ คุณจะรู้สึกตัวว่าทุกคนที่คุณรักและผูกพันธ์จะอยู่ในห้องนั้น เพื่อน ครอบครัว คนรัก ทุกคนจะทักทายคุณด้วยความรักและอ้อมแขนที่เปิดกว้าง พูดคุยกับพวกนั้นเหมือนกับว่าเป็นตัวจริง หัวเราะกับพวกเขา ระลึกความหลังกับพวกเขา จงปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความเคารพ แล้วคุณก็จะได้รับการปฏิบัติด้วยอย่างดี การกระทำที่อ่อนด้อยไปจากนั้นจะลงเอยด้วยโทษทัณฑ์ที่เลวร้ายกว่าที่มนุษย์จะคิดได้ แล้วแขกเหรื่อเหล่านั้นก็จะขอตัวออกไปทีละคน บอกว่าพวกเขาต้องไปที่อื่น อย่าหยุดพวกเขาด้วยเหตุผลใดๆ เพราะพวกเขาทำตามใจคุณมาพอแล้ว ผู้คนในห้องนั้นจะค่อยๆน้อยลง จนในที่สุดก็จะเหลือเพียงตัวคุณกับคนที่คุณรักที่สุด จงใช้เวลาที่คุณได้รับนี้อย่างดี เพราะที่สุดแล้วเขาหรือเธอก็จะจากไปเช่นกัน และคุณก็ต้องใช้กำลังแห่งจิตใจทั้งหมดที่มีต่อการทดสอบที่กำลังจะมาถึง แม้ว่าภาพจำแลงนี้จะไม่ใช่ของจริง มันก็รู้มากพอที่จะเลียนแบบตัวจริงของมันได้ คุณจะพูดสิ่งที่อยากสารภาพอะไรกับเขาหรือเธอก็ได้ แต่จงแน่ใจว่าคุณแสดงความเคารพมากพอ เมื่อเขาหรือเธอจะออกไป ก็จงปล่อยไป ตอนนี้ไม่มีทางถอยกลับแล้ว เมื่อประตูปิดลง ทุกอย่างก็จะค่อยๆกลายเป็นความมืดมิด ตรงนี้คุณจะทำอะไรก็ได้ กรีดร้อง ตื่นตระหนก หรือเยือกเย็นอยู่ ตามใจคุณเลย เมื่อทุกอย่างจางหายไป ก็ไม่มีอะไรที่ต้องทำนอกจากการรอคอย

คุณจะใช้เวลาในความมืดมิดนั้นด้วยความรู้สึกยาวนานหลายสัปดาห์ หลายเดือน หรือแม้แต่หลายปี คุณจะเริ่มคิดถึงผู้คนที่เมื่อครู่ยังรายล้อมคุณอยู่ และโหยหาที่จะได้สัมผัสความอบอุ่นและได้ยินเสียงหัวเราะของพวกเขาอีก คุณจะรู้สึกว่าเวลาที่คุณอยู่กับพวกเขาเป็นที่ที่คุณควรอยู่ แต่ตอนนี้มีเพียงคุณคนเดียวในความมืด คุณจะมองหาใครสักคน ใครก็ได้ที่จะอยู่ร่วมกับคุณในช่วงเวลาแห่งการทดสอบนี้ แต่ทั่วทุกทิศก็มีเพียงความมืดมิด คุณจะไม่รู้สึกหิว ไม่รู้สึกกระหาย แต่คุณก็รู้สึกว่ากำลังถูกดึงออกไปจากร่างกายทุกวินาที ที่นี่ไม่ยอมให้คุณได้นอน แม้ว่าคุณจะพยายามดู คุณก็ไม่อาจได้พบกับห้วงนิทราที่จะช่วยผ่อนความเดียวดายของคุณเพียงสักครู่ได้เลย ผู้คนหลายต่อหลายคนก่อนหน้าคุณซึ่งไม่อาจทนต่อความรู้สึกนี้ได้นั้นตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมืดมิดนี้แล้ว และไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าที่จะให้คุณไปร่วมกับพวกมัน แต่ความปราถนานี้ของพวกมันก็จะไม่สมหวัง

เหมือนเดิม คุณจะทำอะไรก็ได้ แต่การปลิดชีพตัวคุณเองก็มีแต่จะทิ้งคุณไว้ในความมืดกับคนอื่นก่อนหน้าคุณเท่านั้น จงเข้มแข็งไว้ แล้วในที่สุดคุณก็จะเห็นแสงจุดหนึ่งที่เส้นขอบฟ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดแย้งอย่างน่าตะลึงกับโลกอันมืดมนที่คุณอยู่มากเลยทีเดียว ทันทีที่คุณเห็นมัน หลับตาลงแล้วถามออกไป "นี่คือความรู้สึกของพวกมันหรือ?" รอประมาณสามนาทีก่อนลืมตาขึ้น

หากแสงหายไปและความมืดรายล้อมคุณไว้อีกครั้ง ก็นั่งลงแล้วทำตัวให้สบายเถอะ การเดินทางของคุณจบลงแล้ว และความมืดมิดนี้ก็จะเป็นบ้านของคุณไปตลอดกาลนาน

ถ้าคุณโชคดี เมื่อคุณลืมตาขึ้นคุณก็จะอยู่นอกอพาร์ทเมนท์นั่น มีกรอบรูปวางอยู่ที่เท้าของคุณ และในนั้น คือภาพที่คุณและคนรักสวมกอดกันอย่างอบอุ่นในอพาร์ทเมนท์ อย่าให้ใครเห็นมันล่ะ พวกนั้นต้องสงสัยเรื่องที่มาของภาพนั้นแน่

ภาพและกรอบรูปนั่นคือวัตถุหมายเลข 126 จาก 538 คุณรู้สึกถึงความเจ็บปวดของพวกมันแล้ว ตอนนี้คุณต้องให้พวกมันได้พ้นทุกข์


The Holder of Prehistory

เขามองออกไปทางเส้นขอบฟ้าแห่งโลกส่วนตัวของเขา ราชวังของเขา มันเยียดยาวพ้นปากถ้ำนี้ออกไป ซึ่งนั่นก็เป็นของเขาด้วยเช่นกัน และนี่คืออาณาจักรของเขา ผมสีขาวที่ยืดยาวด้วยกาลเวลานิรันดร์ของเขาพลิ้วไปกับสายลม

เขานั่งลงที่บัลลังค์ มองทุกสิ่งที่เป็นของเขา ในตอนที่คุณออกนอกทางเท้าไปยังถ้ำเล็กๆ ถ้ำนี้เปลี่ยนไป เพราะมันอยู่ในทุกเมือง ในทุกที่ ทุกแห่งในเวลาเดียวกัน เขามองคุณอย่างครุ่นคิด เพราะพวกที่มาลองสิ่งนี้ก่อนหน้าได้พ่ายแพ้ต่อแบบทดสอบของเขา และเขาก็เวทนาพวกนั้น เขาไม่เหมือนผู้ถือครองทั่วๆไป และกังวลกับความตายและความทรมานหลังจากนั้นของคุณ

ไม่เลย สิ่งเดียวที่ผู้ถือครองคนนี้ปราถนาในชีวิตที่ไร้ความหวังของตนก็คือได้พบผู้แสวงหาสักคนหนึ่ง อย่างเช่นตัวคุณ ที่จะเอาชนะเหนือการทดสอบแล้วกลับไปด้วยความสำเร็จ เขาหวังว่าคุณจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง เขาไม่พอใจเลยกับพวกที่ผ่านๆมา

เมื่อคุณเข้าไปในถ้ำ เขาก็โน้มตัวไปด้านหน้า กลั้นหายใจ เพราะเขารู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นและเชื่อว่าคุณคู่ควรกับวัตถุของเขา ถ้าเขาไม่เชื่อเช่นนั้น ถ้ำนี้ก็จะกลืนกินคุณด้วยความมืดและการทรมานไปแล้ว เมื่อคุณอยู่ข้างใน เขาก็มองคุณอย่างระมัดระวังถึงทุกการเคลื่อนไหว ทุกการตัดสินใจ ทุกความคิดที่ผ่านมาในใจของคุณ เมื่อคุณพูดว่า "ฉันอยากพบกับผู้ถือครองแห่งดึกดำบรรพ์" เขาก็ให้คุณเข้ามาในเส้นทางที่ปลอดภัยในถ้ำ

เขาอยากให้คุณกันพวกมันออกจากัน ไม่ใช่รวมพวกมันเข้าด้วยกัน แต่คุณก็จะไม่ถูกลงโทษต่อความปราถนาทั้งสอง เมื่อคุณเดินไปตามอุโมงค์ที่เขาสร้างขึ้น เขาก็เงยหน้าและลุกขึ้นจากบัลลังค์

เขายืนอยู่ในความมืดอันว่างเปล่าอีกด้านของผนังถ้ำ ผู้ที่ไม่ได้มองหาเขาก็จะไม่เห็นเขา เขารู้สึกน่าสนใจที่คุณไม่ทำเช่นนั้น เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ผู้แสวงหามากมายที่ล้มเหลวเพราะทำลงไป เขาตะโกน ตะโกนด้วยเสียงอันดังบอกให้คุณไม่สนใจรอยจารึกบนผนัง

การเดินทางของคุณพาคุณมาสู่ถ้ำที่ลึกที่สุดที่เคยมีอยู่ บอกเล่าให้คุณฟังถึงความโหดร้ายและน่าสะพรึงกลัวทั้งมวลในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติและพ้นไปจากนั้น ก่อนอื่น เขายืนอยู่นอกภาพเขียนในถ้ำแล้วบอกให้คุณกลับไป เขาปราถนาให้คุณไปต่อ แต่พวกมันบังคับให้เขาพูดอีกอย่าง เขาเกลียดพวกมัน

ทีละเล็กทีละน้อย ข้อความและภาพวาดบนผนังก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกมันถลาออกมาใส่คุณ ข่วนเนื้อหนังและพยายามกัดกินคุณ พวกมันฉีกคุณจนเหลือแต่กระดูก แต่คุณก็กล้าพอจะไม่มองพวกมัน ช่างเป็นผู้แสวงหาที่มีพรสวรรค์ เขาคิดกับตัวเอง ตัวเขายังตะโกนใส่คุณ เตือนคุณถึงหายนะที่รออยู่

เขาถือว่าคุณกล้าหาญพอและบอกคุณให้อย่ามองด้านทั้งสอง เพราะการส่งสายตาไปยังอสุรกายแห่งดึกดำบรรพ์ที่ฉีกกระชากคุณอยู่นั้นจะรวมคุณเข้ากับพวกมัน และเขาก็ไม่อยากให้คุณต้องตายหรือทรมาน คุณเชื่อฟังคำสั่งของเขาเพราะความกลัว เขาประทับใจยิ่งกว่าประทับใจ และก็มาอยู่ข้างกายคุณ

ตอนนี้เขาเดินไปเคียงข้างคุณ ราวกับว่าคุณเป็นสหายเก่า แล้วเล่าให้คุณฟัง ถึงทุกเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่พวกมันมีส่วนเกี่ยวข้อง สงครามทุกครั้ง การเลือกตั้งทุกครั้ง การเปิดตัวอันยิ่งใหญ่ทุกครั้งที่เกิดขึ้นเพราะพวกมัน เขาใจดี เขาอยากมอบความรู้ทั้งหมดของเขาให้คุณ แต่ไม่ได้อยากให้คุณวิปลาส เขาเพียงแต่อยากสอนคุณ

ทว่า พวกมันก็บงการเขาอีกครั้ง ให้เล่าถึงความน่าสะพรึงกลัวของพวกมัน ที่พวกมันโกงการเลือกตั้งทุกครั้ง เริ่มสงครามทุกครั้ง และทำให้ทุกบริษัทเปิดใหม่ต้องล้มละลาย คุณไม่ปล่อยให้เขาทำเช่นนั้น ตอนนี้คุณยืนอยู่ในราชวังของเขา สุดปลายถ้ำ เขาถอนใจอย่างโล่งอกเมื่อคุณพูดว่า"นกน้อยตัวหนึ่งบอกฉันว่าคุณรู้จักพวกมัน"

นี่ล่ะ นี่ล่ะคือสิ่งที่เขารอมานานแสนนาน ก็ครั้งหนึ่งเขาก็เป็นผู้แสวงหาเหมือนคุณ ตอนนี้ ในสภาพของชายชราผู้ทรุดโทรม เขายืนต่อหน้าคุณแล้วยื่นมือออกมา วางบางอย่างลงบนมือของคุณ เมื่อมองดู คุณก็เห็นว่ามันเป็นกะโหลกของนกตัวเล็กๆ รอยยิ้มอันอบอุ่นของเขาเอ่อท่่วมร่างของคุณ ตอนที่คุณกำลังจะหมดสติ เขาก็บอกชื่อของเขา และนั่นก็ทำให้คุณยิ้มออกมา

พวกคุณไม่ได้ยิ้มมานานแล้วจริงๆ

เมื่อคุณตื่นขึ้น เขาก็ทิ้งข้อความไว้ข้างตัวคุณถึงวิธีการใช้งานหัวกะโหลกนั่น มันคือวัตถุหมายเลข 221 จาก 538 คุณจะกล้าย้อนไปในกาลเวลาเพื่อหาความลับของพวกมันไหมล่ะ?


RE: มาล่าวัตถุต้องสาปกันเถอะ The Holders Series - jin - 08-09-2014

เพิ่งเห็นกระทู้นี้ ขอบคุณ ท่าน คุรุนิมากเลยครับ สำหรับเรื่องเล่า ที่ ทำให้อ่านอย่างนาน