Kuruni   09-01-2012, 02:50 PM
#1
ไม่รู้เคยผ่านตากันมาบ้างหรือเปล่า ตอนบอร์ดเก่านั้นเริ่มเอามาลงได้ไม่นานก็ล่มสลาย แต่ผมก็แปลไปลงที่อื่นเรื่อยๆน่ะนะ

(เป็นเรื่องแต่งล้วนๆเน้อ หนักไปทางสยอง แต่ก็มีเฮฮาหรือเศร้าๆอยู่บ้าง รูปประกอบถ้าเคยเห็นที่อื่นมาแล้วก็ไม่ต้องแปลกใจ มันเป็นแรงบันดาลใจคนเขียนเขา)

สถาบัน SCP (ซึ่งมีสโลแกนว่า Secure, Contain, Protect) เป็นองค์กรลับเหมือน MiBที่คอยเข้าควบคุม และเก็บสิ่งที่อาจเป็นอันตรายกับมนุษย์ชาติมาศึกษาหรือกำจัด โดยวัตถุแต่ละชิ้น (SCP - Special Containment Procedures)นั้น ส่วนใหญ่จะเสนอเป็นรายงานระบุวิธีที่ใช้กักกันและข้อมูลของSCPแต่ละชิ้น ด้วยเจตจำนงค์ในการปกป้องมนุษย์ชาติ สถาบันSCPนั้นบางทีก็เย็นชาจนดูเหมือนโหดร้ายเลยทีเดียว การควบคุมหรือทดลอง SCPที่เสี่ยงมากนั้นจะใช้บุคลากรระดับ D-Class ซึ่งเอามาจากพวกนักโทษอุกฉกรรจ์ และถ้าไม่ตายซะก่อนก็จะ"กำจัดทิ้ง"ทุกเดือน และในกรณีที่จำเป็นต้องใช้D-Classจริงๆแต่ไม่มีนักโทษ องค์กรก็พร้อมจะหลอกสามัญชนมาตายได้ด้วย

SCP ส่วนใหญ่จะแบ่งได้เป็นสามระดับ คือ Safe SCPที่สถาบันศึกษาจนเข้าใจการทำงานเป็นอย่างดีและมั่นใจว่าควบคุมได้แน่นอนแล้ว SCPระดับ Safe นั้นไม่ใช่ว่าไม่เป็นอันตราย แต่ตราบเท่าที่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัดก็จะปลอดภัย และแม้มันจะหลุดจากการกักกันก็สามารถเก็บกลับมาได้ง่าย

Euclid SCPที่แม้สถาบันจะเข้าใจพฤติกรรมแล้วและมีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม แต่ก็ยังโอกาสที่ผิดพลาดจากความไม่แน่นอนในมาตรการป้องกันที่ต้องพึ่งมนุษย์หรือพฤติกรรมของ SCPเอง นับเป็นระดับพื้นฐาน

Keter Pที่อันตรายที่สุดและสถาบันมีความเข้าใจน้อยที่สุด แม้จะมีมาตรการป้องกัน แต่ก็มีโอกาสที่ SCP จะเป็นอันตรายสูงมาก Keterบางตัวนั้นไม่สามารถทำการกักกันได้เลย

ชุดแรกนี่ขอยกมาคลาสละตัวเน่อ (มีลิงค์ไปต้นฉบับภาษาอังกฤษให้)

SCP-749

Safe

มาตรการพิเศษ
SCP-749ถูกขังไว้ในห้องนิรภัยสำหรับเก็บสิ่งมีชีวิตโดยมียามเฝ้าอยู่อย่างน้อยสามคนตลอดเวลายามแต่ละคนนั้นให้ใช้เครื่องพ่นยาที่บรรจุยากำจัดแมลงที่เหมาะสมไว้เสมอ

ผนังของห้องขัง749นั้นจะลาดชันขึ้นเพื่อไม่ให้SCP-749ปีนได้ หน้าต่างสำหรับเฝ้ามองทุกช่องนั้นให้คลุมด้วยตาข่ายไฟฟ้าซึ่งสามารถปล่อนกระแสไฟได้5000โวลต์

เวลาให้อาหารSCP-749 ให้เปิดเครื่องฉีดน้ำที่เตรียมไว้แล้วส่งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหนักไม่น้อยกว่า70กิโลกรัมเข้าไปในห้อง ให้เปิดเครื่องฉีดน้ำเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ให้ห้อาหารมันทุกห้าวัน และระหว่างที่มันกินอาหารนั้นก็ห้ามไม่ให้บุคลากรเข้าไปในห้อง

ลักษณะ
SCP-749เป็นสัตว์นักล่าซึ่งมีลักษณะแบบไฟลัมย่อย Myriapodaที่ยาวประมาณ8ถึง9ฟุต มีขาสองร้อยถึงสามร้อยคู่ ระยางของSCP-749นั้นสามารถฉีดกรดอย่างแรงซึ่งมีค่า pH 0.3ได้

SCP-749นั้นชอบล่าเหยื่อเมื่อมีพายุฝนและดูเหมือนจะคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมในเมืองอย่างดี มันจะล่าเหยื่อโดยการคลานขึ้นไปตามผนังบ้าน ใช้ระยางเปิดทาง (โดยปกติแล้วจะเจาะรูที่ผนังหรือหน้าต่าง) จากนั้นก็กินคนที่หลับอยู่ข้างใน SCP-749นั้นมีสติปัญญาในการเลือกเหยื่อ ในรายงานการโจมตีของ749นั้น มันจะเลือกกินเหยื่อที่ตัวเล็กที่สุดและไม่มีคนอยู่ด้วยเสมอ และพฤตืกรรมการกินอาหารของมันในที่คุมขังก็ยืนยันเรื่องนี้ได้

SCP-749นั้นจะหลบซ่อนตัวโดยใช้การพรางตัวทั้งด้านภาพและเสียง เมื่อล่าเหยื่อนั้น SCP-749จะเปลี่ยนสีไปตามสภาพแวดล้อม ซึ่งสามารถพราวตัวได้แม้แต่บนลวดลายที่ซับซ้อนอย่างพื้นหิน จึงทำให้หาตัวยากมากจนกว่าจะโจมตีเหยื่อ ขาและรูปแบบการเดินที่ประหลาดของมันนั้น ทำให้เกิดเสียงเหมือนเม็ดฝนตกกระทบใส่พื้นผิวแข็ง เนื่องจากมันสามารถสร้างเสียงได้เหมือนมากโดยจะเปลี่ยนไปตามพื้นผิว จึงเป็นไปได้ว่าSCP-749มีสติปัญญาพอที่จะจะปรับวิธีเดินไปตามพื้นผิว หรือไม่ก็กระจายสิ่งที่ไม่ได้เกิดจากการสั่นสะเทิอน แต่ทำให้เหยื่อได้ยินเป็นเสียงฝนไปเอง


SCP-312

Euclid

มาตรการพิเศษ
SCP-312ถูกขังไว้ใรห้องเก็บสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่ศูนย์19 เนื่องจากมันไม่ต้องการอาหาร จึงอนุญาตนักวิจัยให้เข้าไปในห้องนี้ได้เท่านั้น ทุกคนที่เข้าไปในห้องนี้ต้องสวมหมวกปีกกว้าง และแนะนำว่าอย่างเงยหน้ามองตรงๆเด็ดขาด

ลักษณะ
SCP-312มีร่างกายเป็นเนื้อเยื่อที่บางมากและเต็มไปด้วยแก็สซึ่งร้อนกว่าอากาศรอบตัวเล็กน้อย โดยปกติแล้วมันจะลอยตัวที่ความสูง???เมตรเหนือพื้นดิน แต่มันก็สามารถเปลี่ยนระดับความสูงได้เพื่อคงระยะห่างจากเหยื่อไว้

SCP-312สามารถปล่อยไอน้ำและบังคับกระแสของอากาศรอบๆตัวเพื่อสร้างเมฆขนาดเล็กสำหรับพรางตาได้ ตัวSCP-312ที่อยู่ในเมฆนั้นดูเหมือนแมงกะพรุนขนาดใหญ่ ส่วนลำตัวนั้นกว้างประมาณสองเมตรครึ่งและมีหนวดยาง25เมตร

SCP-312 ล่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่และชอบมนุษย์เป็นพิเศษ ขณะล่าเหยื่อนั้น SCP-312จะลอยตัวอยู่เหนือเหยื่อโดยตรงและควบคุมกระแสอากาศรอบๆตัวเพื่อรักษาระยะจากเหยื่อไว้ เหยื่อสามารถหนี SCP-312 ได้โดยการเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว30กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป หรือเข้าไปกลางฝูงชนซึ่งดูเหมือนจะทำให้SCP-312สับสนและเลือกเหยื่อคนอื่นแทน

ส่วนแกนของSCP-312นั้นเป็นกลุ่มของดวงตาจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วดูเหมือนของมนุษย์ ยกเว้นแต่ลูกตากลมใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง ลูกตาอื่นๆนั้นจะเชื่อมโยงกับลูกตาดวงกลางด้วยระยางบางๆ ส่วนแกนนี้สามารถมองเห็นได้ถ้าเหยื่อเงยหน้ามองตรงๆลอดหนวดระยางขึ้นไป หรือใช้อุปกรณ์บันทึกภาพติดไว้เหนือเหยื่อที่มันเลิอก

ตราบที่ไม่มีใครมองแกนของมัน SCP-312ก็จะอยู่ในสภาพสงบ และสามารถดำรงชีพได้เรื่อยๆโดยไม่ต้องกินอาหาร แต่การกินอาหารนั้นจะทำให้มันตัวใหญ่ขึ้น เคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น และเพิ่มจำนวนของ-ข้อมูลปกปิด- แต่เมื่อเหยื่อสบตากับแกนของมัน SCP-312ก็จะตื่นตัวและสร้างลมหมุนซึ่งดูเหมือนงวงของเมฆลงมาถึงพื้น เหยื่อจะถูกอากาศภายในดึงขึ้นไปหาหนวดระยางของSCP-312 ซึ่งมีพิษทำให้เหยื่อเป็นอัมพาต และกินเป็นอาหาร ประมาณหนึ่งอาทิตย์ต่อมา เศษชิ้นส่วนของเหยื่อก็จะตกลงมาจากฟ้าในจุดที่ SCP-312หายตัวไป หลังจากกินเหยื่อแล้ว SCP-312ก็จะลอยท่องไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีเหยื่อคนใหม่เข้ามาใกล้

จากรายงานที่ได้รับ สถาบันเชื่อว่ายังมี SCP-312ที่ไม่ถูกกักกันอยู่ในธรรมชาติอีกอย่างน้อยสามตัว ซึ่งการจับตัว SCP-312นั้นยากมาก เพราะมันมักจะติดตามเหยื่อคนเดียวได้เป็นเดือนเป็นปีก่อนจะโจมตี


SCP-169
(ไม่มีรูป)
Keter

มาตรการพิเศษ
เนื่องจากขนาดของมัน SCP-169จึงยังไม่ถูกกักกันและเชื่อว่าคงไม่มีทางทำได้ด้วย ไม่มีสิ่งปลูกสร้างบนโลกนี้ที่ใหญ่หรือทนทานพอที่จะขังมันได้แน่ ตำแหน่งของมันบนโลกนี้ยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัด แต่จากภาพถ่ายดาวเทียมและการวิเคราะห์ความผิดปกติของบรรยากาศโลกทำให้เชื่อได้ว่าSCP-169น่าจะอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้ โดยอาจจะทอดตัวไปตามส่วนปลายของอเมริกาใต้ (ดู เพิ่มเติม0-20)

ภาพถ่ายดาวเทียมที่แสดงการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ที่เกิดจาก SCP-169นั้น เจ้าหน้าที่แฝงตัว ????????? ???????????? [IA-0014]จะทำการตัดต่อและทำลายทิ้งทั้งหมด

ลักษณะ
SCP-169นั้น เชื่อว่าเป็นสัตว์น้ำขาปล้องขนาดมหึมา ซึ่งเหล่ากลาสีและตำนานเรียกมันว่า ?เลเวียธาน? ซึ่งตอนแรกก็เชื่อว่าเป็นเพียงเรื่องเล่าเท่านั้น SCP-169ถูกทีมปฏิบัติการ แกมมา-6พบครั้งแรกใน วันที่??/??/19?? ระหว่างการตรวจสอบปรากฏการผิดปกติในบริเวณหมู่เกาะ ????? ????????? (ตำแหน่ง ?????'S ?????'W) ระหว่างที่ทีม?6ทำการสำรวจนั้น ดร.???? ???????? [?6-0912] ได้พบว่าหมู่เกาะนั้นได้เลื่อนตำแหน่งจากจุดเดิมไปอย่างน้อยสามกิโลเมตร แม้ตอนแรกดร. ????????จะเชื่อว่ามันเป็นการเลื่อนของแผ่นดินที่รวดเร็วผิดปกติเท่านั้น แต่การสำรวจโดยเรือ USS ???????? นั้นระบุว่าหมู่เกาะนี้เป็นส่วนที่ยื่นออกมาของเปลือกคล้ายกับหินของสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ สถาบันจึงได้เข้าควบคุมสถานการณ์ทันที

ดร. ????????และดร.?????????? [?6-0421]เชื่อว่า SCP-169นั้นมีความยาวตั้งแต่2000-8000กิโลเมตร และมีชีวิตอยู่มาตั้งแต่ก่อนยุคแคมเบรียน ไม่เคยมีการพบตัวอื่นอีก แทบไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของ SCP-169เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสืบพันธุ์ (ถ้ามี) แหล่งอาหาร หรือพื้นที่อยู่อาศัย (ถ้ามี) ขณะนี้การทดลองเรื่องเหล่านี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติ

หมู่เกาะ????? ?????????นั้นไม่เคยมีประวัติการตั้งรกราก แม้จะเคยถูก???????ยึดครองในปี17?? เมื่อส่งมอบมาให้สถาบันนั้น ได้ทำการอพยพ???????ออกไปโดยใช้ข้ออ้างเรื่องระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น แม้หมู่เกาะนี้จะอยู่เหนือระดับน้ำทะเลมาหลายพันปีแล้ว แต่ถ้าSCP-169ดำลึกลงไปก็จะทำให้หมู่เกาะนี้หายไปได้ SCP-169เคลื่อนที่ช้ามาก ไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตรต่อสัปดาห์ แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะปล่อยตัวไปตามกระแสน้ำเท่านั้น ไม่ทราบว่ามันเคลื่อนไหวด้วยวิธีไหน แผ่นดินไหวที่เกิดเป็นระยะๆนั้นระบุว่ามัน?หายใจ?ทุกๆสามเดือนโดยประมาณ ทำให้ภูมิศาสตร์ของเกาะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ทำให้มีแนวโน้มว่ามันกำลังอยู่ในสภาพสงบนิ่ง

การปิดบังข้อมูล
เรือUSS ????????พร้อมลูกเรือถูกจมทิ้งทันทีหลังการพบSCP-169 โดยได้รับการยินยอมจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา สาธาณะชนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้หมู่เกาะของSCP-169 เพราะนกใกล้สูญพันธุ์หลายชนิดที่อาศัยอยู่บนนั้นอย่างประจวบเหมาะ ภาพถ่ายดาวเทียมทั้งหมดจะถูกตัดต่อตามที่ระบุไปแล้ว ซึ่งNASAนั้นให้ความร่วมมือกับสถาบันในการเก็บความลับของSCP-169และอนุญาตให้ใช้ดาวเทียมถ่ายภาพได้

เพิ่มเติม 0-20
ในปี199? องค์การสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติของอเมริกา องค์กรวิทยาศาสตร์ซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่ของสถาบันแฝงตัวอยู่และไม่รู้เรื่องของสถาบัน ได้ตรวจพบคลื่นเสียงความถี่ต่ำมากใต้น้ำมาจาก???S ????W ประมาณ ???? กิโลเมตรจากชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกาใต้

แม้เจ้าหน้าที่แฝงตัว ???? ???????? [IA-1522]จะพยายามปิดบังข้อมูลเต็มที่ แต่ข่าวเรื่องเสียงนี้ก็เล็ดลอดไปถึงสื่อมวลชนและมีการลงข่าวทางสื่อมากทีเดียว ทางสถาบันวิเคราะห์แล้วเชื่อว่าเสียงนี้มาจากสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ใต้น้ำ และก็น่าจะเป็นSCP-169 เพราะตำแหน่งที่เกิดเสียงนั้นใกล้เคียงกับที่คาดว่าเป็นส่วน?หัว? ของมัน เสียงนั้นยืนยันการวิเคราะห์ของ?6-0421เรื่องขนาดมหึมาของSCP-169 หากมีกลุ่มนักวิทยาศาสตร์หรือพลเรือน ที่พยายามหาที่มาของเสียงนี้อีก ให้ดำเนินการหยุดยั้งโดยทุกวิธีที่จำเป็น

(อะไรนะ? จะเอา MGEมาลงใหม่ไหมงั้นเหรอ? ถ้ามีคำเรียกร้องก็ว่ากันอีกทีครับ)
  
Users browsing this thread: 2 Guest(s)
Powered By MyBB, © 2002-2024 MyBB Group.
Made with by Curves UI.