[หยิบมาเล่า เอามาบอก] โนโมโฟเบีย โรคไม่ร้ายใกล้ตัว คุณเป็นหรือเปล่า? - Printable Version +- irpg Community (https://irpg.in.th) +-- Forum: Community Central (https://irpg.in.th/forum-1.html) +--- Forum: Town Square (https://irpg.in.th/forum-2.html) +--- Thread: [หยิบมาเล่า เอามาบอก] โนโมโฟเบีย โรคไม่ร้ายใกล้ตัว คุณเป็นหรือเปล่า? (/thread-2546.html) |
[หยิบมาเล่า เอามาบอก] โนโมโฟเบีย โรคไม่ร้ายใกล้ตัว คุณเป็นหรือเปล่า? - Ivan_GilDong - 09-01-2015 สวัสดีครับ ผม Ivan_GilDong เองครับ วันนี้ผมก็มีสาระความรู้ดีๆเกี่ยวกับโรคโนโมโฟเบีย (Nomophobia) มาฝากกันครับ โรค “โนโมโฟเบีย (Nomophobia)” มีที่มาจาก “no mobile phone phobia” ซึ่งเป็นศัพท์ที่ YouGov (องค์การวิจัยของสหราชอาณาจักร) บัญญัติขึ้นเมื่อปี 2008 เพื่อใช้เรียกอาการ ติดโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจัดเป็นโรคจิตเวชชนิดหนึ่ง ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ จะมีอาการจิตตกเวลาอยู่ในพื้นที่ไม่มีสัญญาณ หรือว่าแบตหมด หงุดหงิดง่าย ตัวสั่น เหงื่อออก กระวนกระวายเวลาที่ไม่มีโทรศัพท์มือถืออยู่กับตัว และยังมีนิสัยหมกมุ่นอยู่กับการตรวจดูมือถือตลอดเวลา มีคนส่งข้อความมามั๊ย หรือมีการแจ้งเตือนใดๆ หรือเปล่า แต่อาการจะหนักแค่ไหน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล (แต่เชื่อว่าหลายๆคนไม่ได้เป็นขนาดนั้นครับ ) อาการแบบนี้ มักพบมากในกลุ่มวัยรุ่นที่อายุประมาณ 18-24 ปี ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 77 รองลงมาเป็นกลุ่มคนอายุ 25-34 ปี คิดเป็นร้อยละ 68 ซึ่งผู้หญิงมีแนวโน้มว่าจะเป็นโรค Nomophobia มากกว่าผู้ชาย คิดเป็นร้อยละ 9 เพราะผู้ชายมักพกโทรศัพท์มือถือมากกว่า 1 เครื่อง โอกาสที่จะขาดมือถือจึงมีน้อยกว่าผู้หญิงที่พกโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว แล้วอาการแบบไหนบ้าง ที่เข้าข่ายว่าเป็นโรค Nomophobia ? 1.)ไม่เคยปล่อยให้โทรศัพท์มือถืออยู่ห่างตัวเด็ดขาด ไม่งั้นจะหงุดหงิดทันที 2.)มีการเช็คข้อความทั้งวัน เช็คโทรศัพท์มือถือทั้งวัน มีการอัพเดทเรื่องราวบน Social Media ตลอดเวลา 3.)เมื่อมีการแจ้งเตือนบนโทรศัพท์มือถือ จะวางสิ่งที่อยู่ตรงหน้าทั้งหมด เพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูทันทีกดโทรศัพท์มือถือเป็นอันดับแรก 4.)หลังจากตื่นนอนโทรศัพท์มือถือไม่เคยห่างตัวเลย ไม่ว่าจะกินข้าว เข้าห้องน้ำ หรือทำกิจกรรมอะไรก็ตาม 5.)เมื่อไหร่ที่วางโทรศัพท์ผิดที่ หาไม่เจอ จะรู้สึกกระวนกระวายใจไม่เคยปิดโทรศัพท์มือถือเลยโลกส่วนตัวสูงคุย 6.)มีปฎิสัมพันธ์กับคนรอบข้างน้อย หรือแทบจะไม่มีเลย สนใจแต่หน้าจอโทรศัพท์ 7.)ชอบชาร์ตแบตโทรศัพท์ให้เต็มตลอดเวลา เมื่อแบตหมดจะรู้สึกกังวล ดูเหมือนว่าหลายๆ คนน่าจะมีอาการเหล่านี้กันอยู่หลายข้อเลยทีเดียวนะครับ ใครที่มีครบทุกข้อ แต่อาการยังไม่น่ากลัว ให้ลองรีบปรับตัวโดยการใช้ชีวิตแบบปราศจากโทรศัพท์มือถือหรืออินเตอร์เน็ตดูบ้าง เพราะบางคนก็อาจจะแค่ติด Social Media แต่ไม่ได้ติดโทรศัพท์มือถือก็เป็นได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาอย่างเช่น โรคที่อาจติดตามมา 1.)นิ้วล็อก ที่เกิดจากการจิ้มหน้าจอเวลาเล่นเกมส์บนมือถือมากเกินไป ทำให้เส้นเอ็นข้อมือเกิดการอักเสบได้ 2.)อาการทางสายตา ที่เกิดจากการเพ่งหน้าจอโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน อาจทำให้ดวงตาเราเหนื่อยล้า หรือมีอาการตาแห้งจนทำให้จอประสาทตาเสื่อมได้ 3.)อาการปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่ ซึ่งเกิดจากการที่เราก้มคอลงมามองหน้าจอเป็นเวลานานๆ ก็อาจทำให้ปวดศรีษะ ปวดคอ ปวดไหล่ตามมาได้ รวมถึงอาจเป็นโรคหมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพก่อนวัย เพราะนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือผิดท่า หรือนั่งเกร็งเป็นเวลานานจนเกิดเป็นนิสัยเลยก็ได้ 4.)โรคอ้วน ฟังดูเหมือนว่าจะไม่เกี่ยว แต่จริงๆ แล้ว คนที่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือนานๆ ร่างกายจะไม่ได้ขยับไปไหนเลย ทำให้ร่างกายไม่เกิดการเผาผลาญใดๆ แถมบางคนชอบนั่งเล่นไป กินขนมขบเคี้ยวไปด้วย ก็จะยิ่งทำให้อ้วนขึ้นได้โดยไม่รู้ตัวก็มี แนวทางการป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของโรค Nomophobia 1.)ใช้โทรศัพท์มือถือเท่าที่จำเป็นชวนเพื่อนออกไปทำกิจกรรมร่วมกันบ้าง เพื่อหลีกเลี่ยงความเหงาที่อาจทำให้เราโหยหาโทรศัพท์มือถือ 2.)แบ่งเวลาในการใช้งานโทรศัพท์มือถือ เพื่อสร้างระเบียบวินัยในชีวิตประจำวัน 3.)หากรู้สึกว่าอาการหนัก ไม่สามารถอยู่ห่างโทรศัพท์มือถือได้เลย ให้รีบไปพบจิตแพทย์เพื่อหาแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน ปัญหาเหล่านี้ อาจดูเหมือนไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่มีอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่สำหรับคนที่ทำงานในสายงานดิจิทัลแล้ว พฤติกรรมเหล่านี้ อาจส่งผลไปถึงคนรอบข้างได้โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะกับเด็กเล็กที่มีการเห็นผู้ใหญ่ก้มหน้าก้มตาดูแต่หน้าจอโทรศัพท์ อาจทำให้เด็กติดพฤติกรรมเหล่านั้นจนเกิดเป็นปัญหาอื่นๆ ตามมาได้ รีบเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองกันตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพกายและใจที่ดีของเราและคนรอบข้างนะครับ ขอบคุณแหล่งข้อมูลครับ http://health.kapook.com/view87257.html http://thaimarketing.in.th/2015/03/03/nomophobia/ RE: [หยิบมาเล่า เอามาบอก] โนโมโฟเบีย โรคไม่ร้ายใกล้ตัว คุณเป็นหรือเปล่า? - LuZi - 09-02-2015 มือถือผมดองแทบไม่ได้ชารจ์แบตมาเกือบเดือนแล้ว RE: [หยิบมาเล่า เอามาบอก] โนโมโฟเบีย โรคไม่ร้ายใกล้ตัว คุณเป็นหรือเปล่า? - Nazuth - 09-02-2015 มือถือผม2วันชาร์จทีมั้งแทบไมไ่ด้ใช้อะไรเลยนอกจากโทรออก-รับสาย เปิดดิค RE: [หยิบมาเล่า เอามาบอก] โนโมโฟเบีย โรคไม่ร้ายใกล้ตัว คุณเป็นหรือเปล่า? - Mysticphoenix - 09-02-2015 ใกล้ละเรา RE: [หยิบมาเล่า เอามาบอก] โนโมโฟเบีย โรคไม่ร้ายใกล้ตัว คุณเป็นหรือเปล่า? - dreamknight - 09-02-2015 ;3 ผมมักจะโหลดคลิปยูทูปที่ยาวๆ เอาไว้ดูในมือถือระหว่างเดินทางครับ 2 วันชาร์จแบตที RE: [หยิบมาเล่า เอามาบอก] โนโมโฟเบีย โรคไม่ร้ายใกล้ตัว คุณเป็นหรือเปล่า? - KuroNikki - 09-07-2015 เหอๆ...ก็ไม่ขนาดนั้นครับ แค่ติดเกมส์และชอบดูหนังผ่านมือถือเฉยๆ (หอไม่มีทีวี...T_T) |