บทที่ 0 Prologueคุณคิดว่า ความทรงจำของคุณจะมีรูปร่างแบบไหน?
คุณคิดว่า ความทรงจำของคุณจะจดจำเรื่องราวแบบไหน?
คุณคิดว่า ความทรงจำของคุณนั้นมีค่าเพียงใด?
และ ถ้าหากคุณสูญเสียความทรงจำเหล่านั้นไปล่ะ?
.
.
.
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ดินแดนแห่งโมโนเลีย ดินแดนแฟนตาซีในอุดมคติของคนหลายๆคน ที่ที่คุณสามารถเรียนรู้เวทย์มนตร์และศาสตร์การต่อสู้ต่างๆได้อย่างอิสระ
ดินแดนอันสงบ และสวยงาม สิ่งมีชีวิตต่างๆเกื้อกูลกัน มีทั้งคนแคระ ภูติ เอลฟ์ และเหล่ามนุษย์ทั้งหลาย
ดินแดนแห่งนี้แบ่งเขตการปกครองเป็น 3 เขต คือ
- อาณาจักรฮิวมูเนีย: อาณาจักรของเหล่ามนุษย์ เป็นศูนย์กลางของดินแดนโมโนเลีย (ตรงกลางจริงๆ) ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการคมนาคม (มนุษย์ค่อนข้างมีหัวทันสมัย ผลิตสิ่งต่างๆมาอำนวยความสะดวก เช่น พาหนะแบบต่างๆ) การค้าขาย (เนื่องจากการมีพาหนะที่หลากหลาย บวกกับความเก่งกาจในด้านการเจรจาของมนุษย์) ที่นี้ปกครองโดย จักรพรรดิมอร์แกน โดยมี เจ้าหญิงวิคตอเรีย ธิดาของพระองค์เป็นที่ปรึกษา (มันสมองของเมืองเลยก็ว่าได้)
- อาณาจักรเอลฟ์: เป็นอาณาจักรธรรมชาตินิยม และเป็นพวกที่รักในศักดิ์ศรีซะด้วย ชาวเอลฟ์เก่งกาจในด้านเวทย์มนตร์สายธรรมชาติ และยังมีความสามารถในการอักขระโบราณอีกด้วย อาณาจักรเอลฟ์มีหน้าที่หลักในด้านการใช้สมุนไพรในการรักษาการเก็บรักษาคัมภีร์โบราณต่างๆ และด้านการดนตรีและการแสดง (มีคนเคยกล่าวไว้ว่า หากได้ฟังเสียงบรรเลงเพลงของเหล่าเอลฟ์สแล้ว จะมีความสุขไปเจ็ดทิวาราตรี)
- อาณาจักรคนแคระ: คนแคระเป็นเผ่าที่ขยันขันแข็งมาก มีฝีมือในด้านการตีเหล็ก ทำอาวุธ ขุดแร่ (ทองก็ขุดนะ) อุปกรณ์เครื่องใช้รวมไปถึงสิ่งก่อสร้างจากเหล็ก ล้วนเป็นฝีมือการตีเหล็กของคนแคระทั้งสิ้น คิดถึงงานช่าง คิดถึงคนแคระ (รับงานทั่วราชอาณาจักรจ้า~)
แต่เบื้องหลังความสวยงามเหล่านี้ ต่างก็ฉาบไปด้วยเลือดเนื้อของบรรพบุรุษในสงครามแย่งชิงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ โมโนเลีย เมื่อ 1,000 ปีที่แล้ว ระหว่างกองทัพภาคีแห่งแอปซิลอน ซึ่งนำทัพโดยกลุ่มอัศวินแห่งแสง กับกองทัพจากโลกมืด ซึ่งผลก็คือ กองทัพภาคีได้ชัยชนะและได้ดินแดนแห่งนี้ไปครอบครองและอัศวินแห่งแสงก็ได้ทำการผนึกกองทัพปีศาจเหล่านั้นไว้
แต่การที่จะบูรณะดินแดนที่ผ่านสงครามมาอย่างโชกโฉนก็ต้องใช้เวลารวม 100 ปี กว่าจะเสร็จสมบูรณ์
แต่นับวันเรื่อยมา พลังเวทย์มหาศาลที่ใช้ผนึกกองทัพปีศาจเอาไว้ก็เริ่มสลายไป และแล้วสักวันหนึ่ง กองทัพแห่งความมืดคงจะตื่นขึ้นมา จากนิทราอันแสนยาวนาน
หากถึงเวลานั้นแล้ว เหล่าภาคีคงจะต้องเป็นฝ่ายหลับไหลในห่วงเเห่งนิทราเช่นกัน
บทที่ 1 การตื่นขึ้นมาของสาวน้อยความจำเสื่อม
"อ๊ะ" เสียงใสๆของสาวน้อยคนหนึ่ง ที่ตื่นขึ้นมาในสถานที่ๆเธอไม่รู้จัก
เธอพยายามพยุงตัวเองขึ้น จากพื้นที่เธอนอน
"ที่นี้มัน..ที่ไหนกันนะ แล้ว.. ฉันเป็นใครกัน?"สาวน้อยความจำเสื่อมเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง ขณะที่เธอกำลังยืนมองรอบๆตัวเธอ
ที่ที่เธออยู่ เป็นที่ๆมืดและอับชื้นมาก เป็นทางเดินเก่าๆดูโบราณ มีตะไคร่และสาหร่ายเกาะอยู่ที่กำแพงเต็มไปหมด แสงสว่างเดียวที่จะทำให้พอมองเห็นได้ ก็คือแสงที่รอดออกมาจากช่องรอยแตกบนฝ้าเพดาน
"มีใครอยู่ไหมค่ะ~"สาวน้อยตะโกนเสียงดัง เผื่อว่าจะใครที่อยู่แถวนั้นได้ยินเสียงของเธอ แต่ว่า ไม่มีการตอบสนองใดๆกลับมาเลย...
"ฉันควรรีบออกไปจากที่นี้แล้วล่ะ"เธอเอ่ยเสร็จ จึงรีบจ่ำเดินตามทาง..
ขณะที่เธอเดินคลำาทางไปซักพักหนึ่งเธอก็เดินไปสะดุดเข้ากับตะเกียงที่ยังพอมีน้ำมันเหลืออยู่กับกล่องไม้ขีด "เอ๊ะ นั้นมันตะเกียงนิ มีไม้ขีดไฟด้วย เยี่ยมเลย" เธอรีบจุดตะเกียง แต่ว่า เธอต้องใช้เวลานานสักหน่อย เพราะเธอลืมวิธีการจุดตะเกียงไปแล้ว
เมื่อเธอจุดตะเกียงเสร็จ เธอก็ต้องประหลาดใจ แสงสว่างของตะเกียงทำให้เธอเห็นรูปสลักดูโบราณ เป็นรูปภาพการต่อสู้กันระหว่างคนกับอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่คน แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะสิ่งที่เธอต้องการคือ การออกไปจากสถานที่บ้าๆนี้
แสงสว่างจากตะเกียง เป็นแสงสว่างเดียวที่นำเธอฝ่าผ่านความมืดไปตามทางเดิน ทางเดินช่างมืดและเปลี่ยวนัก ระหว่างทางเธอต้องเดินฝ่าผ่านฝูงค้างคาวเจ้าถิ่น ฝูงแมลงแปลกๆดูน่าเกลียดที่เกาะตามฝ่าผนังเต็มไปหมด ทางที่เดินมาเป็นทางที่ดูยาวไกล เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ทำให้เธอรู้สึกว่า หากเธอจะเดินกลับไปจริงๆ เธอต้องหลงทางแน่ๆ
เมื่อเดินไปได้สักพักใหญ่ เธอก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า และถ้อแท้ ในตอนแรกเธอเริ่มถอดใจ แล้วนั้งลงพิงกำแพงเย็นๆ แล้วก็นึกถึงเส้นทางที่เธอเดินมา ทางอันแสนไกล...
"แต่ฉันเดินมาได้ไกลขนาดนี้แล้ว ลองอีกซักตั้งจะเป็นไรไป ฮืบ!"
แต่แล้วเธอก็เหลือบมองไปเห็นประตูบานใหญ่ซึ่งช่วยจุดประกายความหวังของเธอขึ้นมาอีกครั้ง
"นั้นมัน ประตูนิ.."เธอวางตะเกียงลง แล้วเดินไปพยายามจะผลักประตู
เธอพยายามพลักประตู ถึง 4 หน แต่ประตูก็ไม่ยอมเขยือนเลย มันทั้งหนักทั้งฝืด ความพยายามครั้งสุดท้ายของเธอ เธอทุ่มเทพลังทั้งหมดที่เธอมีเธอโถมร่างกายของเธอใส่ประตู ในที่สุดประตูแห่งความหวังก็เปิดออก "ในที่สุด.." แต่การที่เธอโถมตัวใส่ประตู ทำให้เธอล้มลงไปเมื่อประตูเปิด
"โอ้ย เจ็บจังเลย~"เธอร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด เธอเหลือบมองไปดูฝ้าเพดานที่ดูต่ำกว่าที่ผ่านมา เธอสังเกตเห็นแผ่นไม้ที่กั้นเธอระหว่างอิสระภาพอยู่
เธอไม่รีรอ รีบเดินไปผลักแผ่นไม้กระดานออก และใช้แรงเฮือกสุดท้ายของเธอปีนขึ้นมา
ในที่สุด เธอก็ปีนขึ้นมาได้สำเร็จ เธอล้มตัวลงบนพื้นหญ้านุ่มๆ "ในที่สุด...ก็...ออก...มาได้...สักที.."สิ้นเสียงของเธอ เธอก็สลบไปด้วยความเหนื่อย
อยู่ในระหว่างปรับปรุงเนื้อหาและเพิ่มเติมรายละเอียด<><><>ยังไม่จบบทที่ 1เดียวพรุ่งนี้มาต่อ<><><>