พอดีวันนี้(วันเสาร์นี่ล่ะ) ผมได้มีโอกาสได้สอบวัดระดับ TOEIC เป็นครั้งแรก และรู้สึกเลยว่า นี่แหละเป็นการสอบครั้งที่โคตรจะต่างจากการสอบครั้งที่ผ่านๆ มาในชีวิตเลย เริ่มจากวันนี้ที่ต้องตื่นเร็ว เพราะสอบ 9 โมง แต่ต้องไปลงทะเบียนประมาณ 8:30 บึ่งแทบตายไปที่ม. เลยทีเดียว (อนึ่ง อันนี้เป็นการขอให้ผู้จัดสอบ TOEIC มาช่วยจัดสอบที่มหาลัยฯ ไม่ใช่ไปสอบที่ศูนย์สอบ)

ว่าแต่สอบ TOEIC มันคือไรหว่า เอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้หรอก ก็นึกไปว่ามันคล้ายๆ พวก IELTS TOEFL ไรพวกนี้แหละมั้ง แต่พอไปค้นจริงๆ ก็

หลักสูตรเตรียมสอบ TOEIC เป็นคอร์สที่เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการสอบ TOEIC ซึ่งการสอบโทอิค จำเป็นมากสำหรับการสมัครงานสายการบิน งานโรงแรมหรือบริษัทซึ่งต้องการพนักงานที่มีความรู้และความสามารถในการใช้ภาษา ซึ่งคะแนนสอบ TOEIC จะเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาว่าบุคคลนั้นๆ เหมาะสมที่บริษัทจะรับเข้าทำงานหรือไม่

สรุปง่ายๆ ก็คือใช้สำหรับงานท่องเที่ยวหรืองานบริษัทนี่เอง

วินาทีก่อนเข้าห้อง

ตอนไปถึงม. หยิบกล่องดินสอแล้ว แต่เขาบอกว่าห้ามเอาทุกอย่างเข้า อิอิกำ แม้แต่กระเป๋า เลยต้องทิ้งแทบทุกอย่างไว้นอกห้อง เอาเข้าได้แต่ตัวกะหัวใจ แล้วก็บัตรประชาชน+บัตรนักศึกษา อิอิกำ

ขั้นตอนเข้าห้อง เข้มมาก เอาของออกจากกระเป๋าเสื้อกางเกงให้หมด เอาเข้าได้แค่ผ้าเช็ดหน้า(ไม่ไหว ไม่งั้นร้อนตายแน่) แล้วก็บัตรประชาชนกับบัตรนักศึกษา มีคนไม่ได้เอาบัตรประชาชนมา เป็นเรื่องเลยล่ะ

เข้าห้องเสร็จ...

เข้าไปเสร็จ อย่าเพิ่งทำ ทำไม่ได้ ต้องทำพร้อมกัน เห็นแผ่นพับคำสั่งมาเลยว่าPartไหนมีไรบ้าง แล้วก็ใบบอกรายละเอียดว่าต้องฝนข้อมูลไรบ้าง (เช่นภาษาแม่เป็นภาษาไทยก็ฝนเลข 473 ไรแบบนี้) ครบสมบูรณ์เลย
พอเห็นกระดาษคำตอบที่แจกทีหลังเท่านั้นแหละ แม่เจ้า ด้านหน้ากรอกรายละเอียดตัวเองล้วนๆ แค่ชื่อนามสกุลก็ต้องฝนม่างไปครึ่งหน้าแล้ว ว่าแล้วก็ต้องทำตามคำสั่งไปซัก10นาทีได้ (ต้องรีบฝนด้วยนะ เดี๋ยวไม่ทันเอา)

PART 1 - LISTENING!!

ว่าแล้วพอเริ่มสอบจริง Part แรก ให้สอบ Listening การฟัง....พูดรอบเดียวเท่านั้น Y U TALK SO FAST!? เปิดเทปแบบว่ามาราธอนเลย ดีที่มันมีหยุดคั่นบ่อยๆ และเวลาจะเปิดหน้าต่อไป มันก็บอก ไม่ใช่ข้ามไปข้อในหน้าต่อไปเลย
แต่สำคัญมากๆ คือพวกคำสร้างประโยคคำถาม What When Where Why Who How ถ้าจับไม่ได้ มีสิทธ์ที่ข้อนั้นจะปิ๋วทันที/ohgod บางทีผมก็นั่งเอ๋อๆ ไปบ้าง รู้สึกตัวอีกที เฮ้ยมันพูดจบแล้วเรอะแสรด มึนไปเลย 100 ข้อ...บางข้อก็มั่วไปเลย เพราะฟังไม่ทัน ทำไรไม่ได้ (แต่ก็ผ่านมาได้)

PART 2 - READING!!
มาถึง Part โหด 200ข้อ 75 นาที เอาซิท่าน! ต้องได้กี่ข้อต่อนาที คิดเอาเลย แต่ผมรีบทำก่อนล่ะ ไม่สนแล้วว่ามันจะอะไร มีให้อ่านหลายแบบมาก ตั้งแต่บทสนทนาง่ายๆ ไปจนถึงอ่านอีเมล์โต้ตอบกัน กำหนดการเดินทางของเจ้านาย เชี่ย จะเยอะไปไหน บางข้อนี่อ่านเอาแค่ที่จะเอาคำตอบพอ ไม่ต้องสนอย่างอื่น ไม่งั้นไม่ทันแน่ๆ

โดยส่วนตัวผมว่าผมเป็นคนที่ทำข้อสอบEngเร็ว และออกได้เร็วกว่าคนอื่น (แต่ครั้งนี้ออกไม่ได้ ต้องรอออกพร้อมกัน) แต่สุดท้าย....เสร็จ5นาทีก่อนหมดเวลา กินเวลากว่าที่คิดมากๆ แถมพอหมดเวลา ทุกคนต้องวางดินสอปากกาให้หมด ถ้าใครแอบฝนหรือมาRushตอนท้าย จะโดนสั่งลบข้อที่ฝนทันที โหดเข้มใช้ได้เลย

สรุป
ตอนออกมาจากห้องสอบ เอ๋อไปพักใหญ่ๆ Reading กินเรียบสบายๆ นะ แต่เข้าใจเลยว่าการสอบวัดระดับภาษาแบบจริงๆ จังๆ เป็นยังไง นับว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่มีค่ามาก เหลือแค่รอผลสอบอังคารเป็นต้นไปนี้ล่ะครับว่าจะเป็นจั๋งได๋ เรื่องที่จะมาเล่าก็มีแค่นี้แหละครับ ใครที่จะสอบวัดระดับภาษาก็โชคดีน่อ

นอกจากจะยากแล้ว ยังถ่ายรูปห่วยอีกต่างหาก

ขนาด Toeic ยังยาก แล้ว แม่ม ผมจะไปสอบ Toefl อิอิกำ คงยามบรมอ่ะ

มันไม่ยากเวอร์หรอกท่าน แต่เวลาน้อยค่อนข้างกดดันน่ะคับ

(ช้าไปหน่อย แต่ขอเม้นท์) ปัญหาพาร์ทฟังไม่ใช่แค่ฟังไม่ทันนะ แต่ฟังๆแล้วง่วงด้วย ท่านนีออซไม่เป็นรึท่าน

ขอแนะนิดนึงเกี่ยวกับส่วนรีดดิ้ง ตอนสอบเราใช้วิธีนี้กับตัวเองแล้วรู้สึกว่ามันกินเวลาน้อยดี.. เวลาทำ ให้แค่ติ๊กคำตอบไว้ก่อน แล้วค่อยมาฝนทีหลังทีเดียว(จะเวิร์คมากสำหรับคนที่คิดไว ตอบไวเท่านั้นนะ) ตอนนั้นทำแล้วเหลือเวลาพอสมควรเลย

ขอบคุณครับ ถ้านึก trick อะไรได้อีกบอกนะครับพอดีจะไปสอบเหมือนกัน อิอิ

(ช้าไปหน่อย แต่ขอเม้นท์) ปัญหาพาร์ทฟังไม่ใช่แค่ฟังไม่ทันนะ แต่ฟังๆแล้วง่วงด้วย ท่านนีออซไม่เป็นรึท่าน

ขอแนะนิดนึงเกี่ยวกับส่วนรีดดิ้ง ตอนสอบเราใช้วิธีนี้กับตัวเองแล้วรู้สึกว่ามันกินเวลาน้อยดี.. เวลาทำ ให้แค่ติ๊กคำตอบไว้ก่อน แล้วค่อยมาฝนทีหลังทีเดียว(จะเวิร์คมากสำหรับคนที่คิดไว ตอบไวเท่านั้นนะ) ตอนนั้นทำแล้วเหลือเวลาพอสมควรเลย

ไม่เป็นนะ ผมฟังจนชินล่ะ 555+ ส่วนรีดดิ้ง ผมเป็นพวกตอบปรื๊ดๆ ไปเลยมากกว่า เอาทีเดียวผ่าน ถ้าติ๊กไว้ก่อน มันจะข้องใจจนจะกลับมาอ่านอีกรอบนี่ล่ะ