Pages (4): 1 2 3 4   
Kuruni   09-01-2012, 02:50 PM
#1
ไม่รู้เคยผ่านตากันมาบ้างหรือเปล่า ตอนบอร์ดเก่านั้นเริ่มเอามาลงได้ไม่นานก็ล่มสลาย แต่ผมก็แปลไปลงที่อื่นเรื่อยๆน่ะนะ

(เป็นเรื่องแต่งล้วนๆเน้อ หนักไปทางสยอง แต่ก็มีเฮฮาหรือเศร้าๆอยู่บ้าง รูปประกอบถ้าเคยเห็นที่อื่นมาแล้วก็ไม่ต้องแปลกใจ มันเป็นแรงบันดาลใจคนเขียนเขา)

สถาบัน SCP (ซึ่งมีสโลแกนว่า Secure, Contain, Protect) เป็นองค์กรลับเหมือน MiBที่คอยเข้าควบคุม และเก็บสิ่งที่อาจเป็นอันตรายกับมนุษย์ชาติมาศึกษาหรือกำจัด โดยวัตถุแต่ละชิ้น (SCP - Special Containment Procedures)นั้น ส่วนใหญ่จะเสนอเป็นรายงานระบุวิธีที่ใช้กักกันและข้อมูลของSCPแต่ละชิ้น ด้วยเจตจำนงค์ในการปกป้องมนุษย์ชาติ สถาบันSCPนั้นบางทีก็เย็นชาจนดูเหมือนโหดร้ายเลยทีเดียว การควบคุมหรือทดลอง SCPที่เสี่ยงมากนั้นจะใช้บุคลากรระดับ D-Class ซึ่งเอามาจากพวกนักโทษอุกฉกรรจ์ และถ้าไม่ตายซะก่อนก็จะ"กำจัดทิ้ง"ทุกเดือน และในกรณีที่จำเป็นต้องใช้D-Classจริงๆแต่ไม่มีนักโทษ องค์กรก็พร้อมจะหลอกสามัญชนมาตายได้ด้วย

SCP ส่วนใหญ่จะแบ่งได้เป็นสามระดับ คือ Safe SCPที่สถาบันศึกษาจนเข้าใจการทำงานเป็นอย่างดีและมั่นใจว่าควบคุมได้แน่นอนแล้ว SCPระดับ Safe นั้นไม่ใช่ว่าไม่เป็นอันตราย แต่ตราบเท่าที่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัดก็จะปลอดภัย และแม้มันจะหลุดจากการกักกันก็สามารถเก็บกลับมาได้ง่าย

Euclid SCPที่แม้สถาบันจะเข้าใจพฤติกรรมแล้วและมีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม แต่ก็ยังโอกาสที่ผิดพลาดจากความไม่แน่นอนในมาตรการป้องกันที่ต้องพึ่งมนุษย์หรือพฤติกรรมของ SCPเอง นับเป็นระดับพื้นฐาน

Keter Pที่อันตรายที่สุดและสถาบันมีความเข้าใจน้อยที่สุด แม้จะมีมาตรการป้องกัน แต่ก็มีโอกาสที่ SCP จะเป็นอันตรายสูงมาก Keterบางตัวนั้นไม่สามารถทำการกักกันได้เลย

ชุดแรกนี่ขอยกมาคลาสละตัวเน่อ (มีลิงค์ไปต้นฉบับภาษาอังกฤษให้)

SCP-749

Safe

มาตรการพิเศษ
SCP-749ถูกขังไว้ในห้องนิรภัยสำหรับเก็บสิ่งมีชีวิตโดยมียามเฝ้าอยู่อย่างน้อยสามคนตลอดเวลายามแต่ละคนนั้นให้ใช้เครื่องพ่นยาที่บรรจุยากำจัดแมลงที่เหมาะสมไว้เสมอ

ผนังของห้องขัง749นั้นจะลาดชันขึ้นเพื่อไม่ให้SCP-749ปีนได้ หน้าต่างสำหรับเฝ้ามองทุกช่องนั้นให้คลุมด้วยตาข่ายไฟฟ้าซึ่งสามารถปล่อนกระแสไฟได้5000โวลต์

เวลาให้อาหารSCP-749 ให้เปิดเครื่องฉีดน้ำที่เตรียมไว้แล้วส่งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหนักไม่น้อยกว่า70กิโลกรัมเข้าไปในห้อง ให้เปิดเครื่องฉีดน้ำเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ให้ห้อาหารมันทุกห้าวัน และระหว่างที่มันกินอาหารนั้นก็ห้ามไม่ให้บุคลากรเข้าไปในห้อง

ลักษณะ
SCP-749เป็นสัตว์นักล่าซึ่งมีลักษณะแบบไฟลัมย่อย Myriapodaที่ยาวประมาณ8ถึง9ฟุต มีขาสองร้อยถึงสามร้อยคู่ ระยางของSCP-749นั้นสามารถฉีดกรดอย่างแรงซึ่งมีค่า pH 0.3ได้

SCP-749นั้นชอบล่าเหยื่อเมื่อมีพายุฝนและดูเหมือนจะคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมในเมืองอย่างดี มันจะล่าเหยื่อโดยการคลานขึ้นไปตามผนังบ้าน ใช้ระยางเปิดทาง (โดยปกติแล้วจะเจาะรูที่ผนังหรือหน้าต่าง) จากนั้นก็กินคนที่หลับอยู่ข้างใน SCP-749นั้นมีสติปัญญาในการเลือกเหยื่อ ในรายงานการโจมตีของ749นั้น มันจะเลือกกินเหยื่อที่ตัวเล็กที่สุดและไม่มีคนอยู่ด้วยเสมอ และพฤตืกรรมการกินอาหารของมันในที่คุมขังก็ยืนยันเรื่องนี้ได้

SCP-749นั้นจะหลบซ่อนตัวโดยใช้การพรางตัวทั้งด้านภาพและเสียง เมื่อล่าเหยื่อนั้น SCP-749จะเปลี่ยนสีไปตามสภาพแวดล้อม ซึ่งสามารถพราวตัวได้แม้แต่บนลวดลายที่ซับซ้อนอย่างพื้นหิน จึงทำให้หาตัวยากมากจนกว่าจะโจมตีเหยื่อ ขาและรูปแบบการเดินที่ประหลาดของมันนั้น ทำให้เกิดเสียงเหมือนเม็ดฝนตกกระทบใส่พื้นผิวแข็ง เนื่องจากมันสามารถสร้างเสียงได้เหมือนมากโดยจะเปลี่ยนไปตามพื้นผิว จึงเป็นไปได้ว่าSCP-749มีสติปัญญาพอที่จะจะปรับวิธีเดินไปตามพื้นผิว หรือไม่ก็กระจายสิ่งที่ไม่ได้เกิดจากการสั่นสะเทิอน แต่ทำให้เหยื่อได้ยินเป็นเสียงฝนไปเอง


SCP-312

Euclid

มาตรการพิเศษ
SCP-312ถูกขังไว้ใรห้องเก็บสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่ศูนย์19 เนื่องจากมันไม่ต้องการอาหาร จึงอนุญาตนักวิจัยให้เข้าไปในห้องนี้ได้เท่านั้น ทุกคนที่เข้าไปในห้องนี้ต้องสวมหมวกปีกกว้าง และแนะนำว่าอย่างเงยหน้ามองตรงๆเด็ดขาด

ลักษณะ
SCP-312มีร่างกายเป็นเนื้อเยื่อที่บางมากและเต็มไปด้วยแก็สซึ่งร้อนกว่าอากาศรอบตัวเล็กน้อย โดยปกติแล้วมันจะลอยตัวที่ความสูง???เมตรเหนือพื้นดิน แต่มันก็สามารถเปลี่ยนระดับความสูงได้เพื่อคงระยะห่างจากเหยื่อไว้

SCP-312สามารถปล่อยไอน้ำและบังคับกระแสของอากาศรอบๆตัวเพื่อสร้างเมฆขนาดเล็กสำหรับพรางตาได้ ตัวSCP-312ที่อยู่ในเมฆนั้นดูเหมือนแมงกะพรุนขนาดใหญ่ ส่วนลำตัวนั้นกว้างประมาณสองเมตรครึ่งและมีหนวดยาง25เมตร

SCP-312 ล่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่และชอบมนุษย์เป็นพิเศษ ขณะล่าเหยื่อนั้น SCP-312จะลอยตัวอยู่เหนือเหยื่อโดยตรงและควบคุมกระแสอากาศรอบๆตัวเพื่อรักษาระยะจากเหยื่อไว้ เหยื่อสามารถหนี SCP-312 ได้โดยการเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว30กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป หรือเข้าไปกลางฝูงชนซึ่งดูเหมือนจะทำให้SCP-312สับสนและเลือกเหยื่อคนอื่นแทน

ส่วนแกนของSCP-312นั้นเป็นกลุ่มของดวงตาจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วดูเหมือนของมนุษย์ ยกเว้นแต่ลูกตากลมใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง ลูกตาอื่นๆนั้นจะเชื่อมโยงกับลูกตาดวงกลางด้วยระยางบางๆ ส่วนแกนนี้สามารถมองเห็นได้ถ้าเหยื่อเงยหน้ามองตรงๆลอดหนวดระยางขึ้นไป หรือใช้อุปกรณ์บันทึกภาพติดไว้เหนือเหยื่อที่มันเลิอก

ตราบที่ไม่มีใครมองแกนของมัน SCP-312ก็จะอยู่ในสภาพสงบ และสามารถดำรงชีพได้เรื่อยๆโดยไม่ต้องกินอาหาร แต่การกินอาหารนั้นจะทำให้มันตัวใหญ่ขึ้น เคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น และเพิ่มจำนวนของ-ข้อมูลปกปิด- แต่เมื่อเหยื่อสบตากับแกนของมัน SCP-312ก็จะตื่นตัวและสร้างลมหมุนซึ่งดูเหมือนงวงของเมฆลงมาถึงพื้น เหยื่อจะถูกอากาศภายในดึงขึ้นไปหาหนวดระยางของSCP-312 ซึ่งมีพิษทำให้เหยื่อเป็นอัมพาต และกินเป็นอาหาร ประมาณหนึ่งอาทิตย์ต่อมา เศษชิ้นส่วนของเหยื่อก็จะตกลงมาจากฟ้าในจุดที่ SCP-312หายตัวไป หลังจากกินเหยื่อแล้ว SCP-312ก็จะลอยท่องไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีเหยื่อคนใหม่เข้ามาใกล้

จากรายงานที่ได้รับ สถาบันเชื่อว่ายังมี SCP-312ที่ไม่ถูกกักกันอยู่ในธรรมชาติอีกอย่างน้อยสามตัว ซึ่งการจับตัว SCP-312นั้นยากมาก เพราะมันมักจะติดตามเหยื่อคนเดียวได้เป็นเดือนเป็นปีก่อนจะโจมตี


SCP-169
(ไม่มีรูป)
Keter

มาตรการพิเศษ
เนื่องจากขนาดของมัน SCP-169จึงยังไม่ถูกกักกันและเชื่อว่าคงไม่มีทางทำได้ด้วย ไม่มีสิ่งปลูกสร้างบนโลกนี้ที่ใหญ่หรือทนทานพอที่จะขังมันได้แน่ ตำแหน่งของมันบนโลกนี้ยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัด แต่จากภาพถ่ายดาวเทียมและการวิเคราะห์ความผิดปกติของบรรยากาศโลกทำให้เชื่อได้ว่าSCP-169น่าจะอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้ โดยอาจจะทอดตัวไปตามส่วนปลายของอเมริกาใต้ (ดู เพิ่มเติม0-20)

ภาพถ่ายดาวเทียมที่แสดงการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ที่เกิดจาก SCP-169นั้น เจ้าหน้าที่แฝงตัว ????????? ???????????? [IA-0014]จะทำการตัดต่อและทำลายทิ้งทั้งหมด

ลักษณะ
SCP-169นั้น เชื่อว่าเป็นสัตว์น้ำขาปล้องขนาดมหึมา ซึ่งเหล่ากลาสีและตำนานเรียกมันว่า ?เลเวียธาน? ซึ่งตอนแรกก็เชื่อว่าเป็นเพียงเรื่องเล่าเท่านั้น SCP-169ถูกทีมปฏิบัติการ แกมมา-6พบครั้งแรกใน วันที่??/??/19?? ระหว่างการตรวจสอบปรากฏการผิดปกติในบริเวณหมู่เกาะ ????? ????????? (ตำแหน่ง ?????'S ?????'W) ระหว่างที่ทีม?6ทำการสำรวจนั้น ดร.???? ???????? [?6-0912] ได้พบว่าหมู่เกาะนั้นได้เลื่อนตำแหน่งจากจุดเดิมไปอย่างน้อยสามกิโลเมตร แม้ตอนแรกดร. ????????จะเชื่อว่ามันเป็นการเลื่อนของแผ่นดินที่รวดเร็วผิดปกติเท่านั้น แต่การสำรวจโดยเรือ USS ???????? นั้นระบุว่าหมู่เกาะนี้เป็นส่วนที่ยื่นออกมาของเปลือกคล้ายกับหินของสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ สถาบันจึงได้เข้าควบคุมสถานการณ์ทันที

ดร. ????????และดร.?????????? [?6-0421]เชื่อว่า SCP-169นั้นมีความยาวตั้งแต่2000-8000กิโลเมตร และมีชีวิตอยู่มาตั้งแต่ก่อนยุคแคมเบรียน ไม่เคยมีการพบตัวอื่นอีก แทบไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของ SCP-169เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสืบพันธุ์ (ถ้ามี) แหล่งอาหาร หรือพื้นที่อยู่อาศัย (ถ้ามี) ขณะนี้การทดลองเรื่องเหล่านี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติ

หมู่เกาะ????? ?????????นั้นไม่เคยมีประวัติการตั้งรกราก แม้จะเคยถูก???????ยึดครองในปี17?? เมื่อส่งมอบมาให้สถาบันนั้น ได้ทำการอพยพ???????ออกไปโดยใช้ข้ออ้างเรื่องระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น แม้หมู่เกาะนี้จะอยู่เหนือระดับน้ำทะเลมาหลายพันปีแล้ว แต่ถ้าSCP-169ดำลึกลงไปก็จะทำให้หมู่เกาะนี้หายไปได้ SCP-169เคลื่อนที่ช้ามาก ไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตรต่อสัปดาห์ แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะปล่อยตัวไปตามกระแสน้ำเท่านั้น ไม่ทราบว่ามันเคลื่อนไหวด้วยวิธีไหน แผ่นดินไหวที่เกิดเป็นระยะๆนั้นระบุว่ามัน?หายใจ?ทุกๆสามเดือนโดยประมาณ ทำให้ภูมิศาสตร์ของเกาะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ทำให้มีแนวโน้มว่ามันกำลังอยู่ในสภาพสงบนิ่ง

การปิดบังข้อมูล
เรือUSS ????????พร้อมลูกเรือถูกจมทิ้งทันทีหลังการพบSCP-169 โดยได้รับการยินยอมจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา สาธาณะชนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้หมู่เกาะของSCP-169 เพราะนกใกล้สูญพันธุ์หลายชนิดที่อาศัยอยู่บนนั้นอย่างประจวบเหมาะ ภาพถ่ายดาวเทียมทั้งหมดจะถูกตัดต่อตามที่ระบุไปแล้ว ซึ่งNASAนั้นให้ความร่วมมือกับสถาบันในการเก็บความลับของSCP-169และอนุญาตให้ใช้ดาวเทียมถ่ายภาพได้

เพิ่มเติม 0-20
ในปี199? องค์การสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติของอเมริกา องค์กรวิทยาศาสตร์ซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่ของสถาบันแฝงตัวอยู่และไม่รู้เรื่องของสถาบัน ได้ตรวจพบคลื่นเสียงความถี่ต่ำมากใต้น้ำมาจาก???S ????W ประมาณ ???? กิโลเมตรจากชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกาใต้

แม้เจ้าหน้าที่แฝงตัว ???? ???????? [IA-1522]จะพยายามปิดบังข้อมูลเต็มที่ แต่ข่าวเรื่องเสียงนี้ก็เล็ดลอดไปถึงสื่อมวลชนและมีการลงข่าวทางสื่อมากทีเดียว ทางสถาบันวิเคราะห์แล้วเชื่อว่าเสียงนี้มาจากสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ใต้น้ำ และก็น่าจะเป็นSCP-169 เพราะตำแหน่งที่เกิดเสียงนั้นใกล้เคียงกับที่คาดว่าเป็นส่วน?หัว? ของมัน เสียงนั้นยืนยันการวิเคราะห์ของ?6-0421เรื่องขนาดมหึมาของSCP-169 หากมีกลุ่มนักวิทยาศาสตร์หรือพลเรือน ที่พยายามหาที่มาของเสียงนี้อีก ให้ดำเนินการหยุดยั้งโดยทุกวิธีที่จำเป็น

(อะไรนะ? จะเอา MGEมาลงใหม่ไหมงั้นเหรอ? ถ้ามีคำเรียกร้องก็ว่ากันอีกทีครับ)
luvikung   09-01-2012, 03:31 PM
#2
ตอนแรกนึกว่า SCP เป็นเกมนะ จริงๆมันเป็นไซไฟ OTL
hengmana   09-01-2012, 04:01 PM
#3
* -*)' ทำไมมีแถบดำหว่า (หรือเป็นข้อมูลปกปิด)
Kuruni   09-02-2012, 01:21 PM
#4
(09-01-2012, 04:01 PM)hengmana Wrote: * -*)' ทำไมมีแถบดำหว่า (หรือเป็นข้อมูลปกปิด)

มันทำเหมือนเป็นเอกสารทางการที่ต้องป้องกันการรั่วไหลน่ะครับ

ตัวนี้เพิ่งแปลเสร็จไม่นาน เอามาลงดูว่ามีคนชอบสายนี้กี่คนกัน (ปกติแล้วในเอกสารจะใช้คำว่า"มัน"หรือ"วัตถุ"เรียกSCPมนุษย์นะครับ เพราะภาระของสถาบันต้องเย็นชาเข้าไว้)

SCP-191

Safe

มาตรการพิเศษ
SCP-191อยู่ในห้องขนาด6เมตรx6เมตรที่ศูนย์17 SCP-191ไม่เคยขอเครื่องใช้หรือสิ่งบันเทิงแต่อย่างใด

ขณะนี้เครื่องใช้ในห้องประกอบด้วย
- เตียงนอนกรอบไม้พร้อมฟูกหนา15ซ.ม.กับผ้าปูและผ้าห่ม ผ้าทุกผืนให้ทำการฆ่าเชื้อทุกเช้าตามมาตรการมาตรฐาน ส่วนฟูกให้เปลี่ยนใหม่ทุกหกเดือน โดยฟูกเก่านั้นจะทำลายทิ้งโดยการเผา

- ปลั๊กไฟ 220VแบบG โดยมีกล่องตัดไฟฉุกเฉิน(ฟิวส์ เบรกเกอร์ สะพานไฟแบบโยก)อยู่นอกห้อง

- ระบบกำจัดของเสียเป็นพิษแบบมาตรฐาน (ของเหลวและของแข็ง) ท่อที่ต่อไว้นั้นให้เชื่อมไปที่เตาเผาเลย

SCP-191นั้นจะสวมเสื้อผ้าหลวมๆไม่มีแขนที่ทำจากฝ้าย100% ให้เตรียมเสื้อผ้าใหม่ให้ทุกวัน โดยชุดเดิมให้ทำการฆ่าเชื้อตามมาตรการมาตรฐาน การอาบน้ำให้ดำเนินการทุกเย็นในอ่างที่แช่น้ำผสมเบคกิ้งโซดาไว้ การให้อาหาร (เป็นน้ำเกลือฆ่าเชื้อผสมวิตามิน แร่ธาตุ ยาปฏิชีวนะและยาชาอ่อนๆ) นั้นให้ดำเนินการวันละสองครั้ง โดยฉีดเข้าไปทางท่อเหล็กที่ต้นคอด้านหลัง

SCP-191นั้นดูแลตัวเองได้ในระดับหนึ่ง รวมถึงการถ่ายของเสียและชาร์จแบตเตอรีในตัว ให้บันทึกการใช้พลังงานไว้ และหากระดับการใช้พลังงานเปลี่ยนแปลงไปก็ให้แจ้งผู้ดูแล

การตรวจสอบอาการบาดเจ็บนั้นให้ทำทุกวันหลังอาบน้ำ ถ้าต้องทำการพยาบาลSCP-191 ให้ตรวจสอบ เอกสาร 191-อัลฟา (สิ่งจำเป็นในการพยาบาลพิเศษ) และ 191-อัลฟา เอกสารเสริม (การซ่อมแซมส่วนที่ไม่ใช่อวัยวะ) ก่อนจะดำเนินการ

ต้องมียามติดอาวุธสองคนคอยเฝ้าในห้องขณะที่บุคลากรอยู่กับSCP-191 แต่อาจใช้สกรีนใสกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวได้ มาตรการตอบโต้สำหรับต่อต้านคอมพิวเตอร์นั้นใช้ไม่ได้ผลกับSCP-191 เพราะชิ้นส่วนของ191นั้นได้รับการป้องกันคลื่อนแม่เหล็กไฟฟ้า (EMP)อย่างแข็งแกร่ง

ลักษณะ
SCP-191เป็นเด็กมนุษย์เพศหญิง อายุประมาณ?ปี เชื่อว่ามันเป็นวัตถุทดลองการผ่าตัดหลายๆอย่างของดร. ????? ?????????ที่ตายไปแล้ว

1.ใบหน้าซีกซ้าย80%และหัวกะโหลกถูกเอาออกไป ดวงตาและหูนั้นถูกแทนที่ด้วยระบบรับสัญญาณอันซับซ้อนที่ไม่เพียงแต่จะทำให้มันมองเห็นและได้ยินเสียง แต่ยังสามารถรับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในสเปคตรัมที่กว้างกว่ามนุษย์ได้ รวมถึงคลื่นวิทยุความถี่ต่ำและแสงแกมมากำลังสูง กรามล่าง ฟัน และกล่องเสียงถูกเอาออกและแทนที่ด้วย[ข้อมูลปกปิด] ส่วนหลอดอาหารถูกต่อไปยังท่อเหล็กที่ต้นคอด้านหลัง และหลอดลมถูกต่อกับอุปกรณ์ฟอกอากาศ การดัดแปลงเหล่านี้ทำให้SCP-191พูดไม่ได้ แม้จะมีรายงานว่าบางครั้งมันจะส่งเสียงโดยการหายใจถี่ๆก็ตาม

2.ที่แขนขวาเป็นอุปกรณ์รับส่งข้อมูลโดยฝังเข้าไปแทนกระดูกปลายแขนข้างขวา อุปกรณ์นี้มีช่องเชื่อมต่อกับสื่อต่างๆทั้งรุ่นใหม่และที่เลิกใช้แล้ว รวมทั้ง USB อีเธอร์เน็ต ไฟไวร์ และ DIN 8พิน และระบบเชื่อมต่ออีก7แบบที่ไม่ตรงกับสื่อใดๆที่รู้จัก อุปกรณ์นี้สามารถใช้งานได้โดยการดึงผิวหนังที่แขนขวาขึ้นเหมือนถลกแขนเสื้อ

3.คอร์โพรเซสเซอร์24ตัวถูกฝังไว้ในสมอง ซึ่งใช้"แปลง"สัญญาณของอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้SCP-191สามารถอ่านและเขียนข้อมูลคอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ภายนอก ข้อมูลภายในนั้จะส่งผ่านสายใยแก้วนำแสงที่ฝังไว้ในเซลล์ประสาทและระบบประสาททั้งหมด ก้านสมองและเซเรเบลลัมนั้นได้รับความเสียหายจากการผ่าตัดนี้ ทำให้การเคลื่อนไหวร่างกายของSCP-191นั้นแย่มาก

4.มือขวาและขาขวาท่อนล่างเป็นชิ้นส่วนที่สร้างขึ้นมาด้วยเหล็กกล้า เส้นใยคาร์บอน และวัสดุคล้ายโพลีเมอร์ที่ไม่รู้จัก เนื้อเยื่อที่เปิดอยู่นั้นบาดเจ็บหรือติดเชื้อได้ง่ายมาก เนื่องจากความเสียหายของระบบประสาทรับรู้ SCP-191จึงรับรู้อุณหภูมิและความเจ็บปวดของแขนขาได้น้อยลง การผ่าตัดแก้ไขของดร.???นั้นช่วยทุเลาอาการได้บ้าง แต่ก็ต้องกินยาปฏิชีวนะและยาแก้ปวดเสมอ

5.[ข้อมูลปกปิด]

6.ปอด หัวใจ และเส้นเลือดส่วนใหญ่ถูกทดแทนด้วยระบบเครื่องจักร จากการวิเคราะห์นั้นว่าระบบนี้สามารถทำให้SCP-191คืนชีพขึ้นมาหลังจากที่ตายแล้วได้ และก็อาจจะเคย[ข้อมูลปกปิด]

7.ระบบย่อยอาหารนั้นถูกดัดแปลงจนอาหารปกตินั้นไม่จำเป็นและเป็นอันตรายด้วย ของเสียนั้นจะถูกถ่ายออกมาทางระบบถ่ายเทที่สะโพกด้านหลัง มีลักษณะเป็นเมือกสีเทาดำข้นซึ่งประกอบด้วย[ข้อมูลปกปิด]เป็นส่วนใหญ่

8.อวัยวะสืบพันธุ์ (มดลูก รังไข่ ฯลฯ) ถูกเอาออกและแทนที่ด้วย[ข้อมูลปกปิด]ซึ่งตามบันทึกของ?????นั้น เป็นการ?เพิ่มเนื้อที่โดยเอาส่วนประกอบที่ไม่จำเป็นออก? มีการเสนอให้ทำฮอร์โมนบำบัดเพื่อแก้ปัญหาที่ต่อมหายไปในระยะยาว ข้อเสนอนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้จาก[ข้อมูลปกปิด]

9.[ข้อมูลปกปิด]

10.การผ่าตัดดัดแปลงที่ไม่ทราบวัตถุประสงค์อีกอย่างน้อย15ประการ จากข้อนี้ และผลข้างเคียงจากการผ่าตัดฝังอุปกรณ์ที่?ใช้งานได้? ทำให้เชื่อได้ว่ามันเป็นแค่การทดลองเพื่อเตรียมพร้อมเท่านั้น ทั้งนี้ได้ทำการสืบสวนเพิ่มเติมที่ดร.?????อาจจะคิดทำการ[ข้อมูลปกปิด] ในขณะนี้ ทฤษฏีใดๆเกี่ยวกับการผ่าตัดดัดแปลงก็เป็นแค่การคาดคะเนเท่านั้น เพราะดร.?????ได้เสียชีวิตระหว่างการบุกจู่โจมซึ่งเก็บSCP-191มา และบันทึกของเขาที่เหลืออยู่นั้นก็มีเพียงสมุดที่ไหม้ไปครึ่งเล่มซึ่งเต็มไปด้วยข้อความลึกลับของ?เป้าหมายที่สูงกว่านี้?

ประวัติ
เจ้าหน้าที่ของสถาบันได้เก็บSCP-191มาจากปฏิบัติการร่วมกับ Global Occult Coalition ในการบุกโจมตีห้องทดลองของดร.????? ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกของ ???????? ???? SCP-191นั้นเป็นวัตถุทดลองเพียงชิ้นเดียวที่เก็บมาได้ ส่วนตัวอื่นๆนั้นหมดสภาพไประหว่างการโจมตี (ถูกทำลายโดยดร.?????เอง หรือถูกหน่วยปฏิบัติการทำลายเพราะเป็นอันตราย)

จากการตรวจสอบเบื้องต้นนั้นทำให้สรุปได้ว่าการสร้างใหม่ทั้งตัวนั้นไม่สามารถทำได้ เพราะอุปกรณ์ที่ใช้ในการดัดแปลงนั้นมีการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเกินกว่าจะให้เป็นที่รับรู้โดยทั่วไปได้ และถ้าเก็บไว้ในสภาพที่ยังมีชีวิตก็จะเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญของ[ข้อมูลปกปิด]ด้วย มันจึงได้รับการระบุเป็น SCP-191 และย้ายไปที่ศูนย์-?? ในวันที่ ??-??-???? การหายตัวไปของมันและวัตถุทดลองอื่นๆนั้นต่อมาได้โยนความผิดให้ฆาตกรต่อเนื่องในพื้นที่นั้นซึ่งถูกเตรียมการให้ถูกฆ่าในคุกระหว่างรอการสอบสวน

ข้อมูลเพิ่มเติม 191-01: การทดสอบความสามารถของ SCP-191นั้นกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ

การวิเคราะห์ทางจิตโดยดร.กลาส
SCP-191ตอบสนองต่อการกักกันดีมาก มันเชื่อฟังและให้ความร่วมมืออย่างดี ขณะที่ไม่มีใครไปยุ่งด้วยนั้น มันจะนั่งนิ่งๆไม่ก็ขดตัวในท่าคุดคู้เป็นส่วนใหญ่ อาจเป็นสัญญาณของความทุกข์ก็ได้ แต่น่าจะเป็นความสบายมากกว่าเพราะการเคลื่อนไหวร่างกายนั้นทำได้ยาก

สภาพจิตใจที่ชัดเจนนั้นน่าสงสัยมาก แม้จะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและสื่อสารได้อย่างรวดเร็วถ้าเชื่อมต่อกับระบบคอมพิวเตอร์ มันก็ดูจะไม่สามารถสนทนากับมนุษย์ตามปกติได้เลย เว้นแต่คู่สนทนาจะพูดช้าๆและใช้ถ้อยคำง่ายๆ กิจกรรมที่ซับซ้อนนั้นก็ไม่สามารถทำได้เว้นแต่จะได้รับการชี้นำทีละขั้นไป

อารมณ์ของมันนั้นดูจะสงบดี แม้จะเข้าใจยากอยู่บ้าง มันมีท่าทีเบื่อหน่ายตลอดเวลา และจะไม่สบตาใครเว้นแต่จะถูกขอให้ทำ ความพยายามใดๆที่จะทำให้ร่าเริงหรือสนุกนั้นไม่ได้ผลโดยสิ้นเชิง แต่มันก็ไม่ได้แสดงลักษณะของการทุกข์ใจและบอก (ผ่านระบบคอมพิวเตอร์) ว่ามันสบายดี

ถึงตอนนี้ SCP-191ยังไม่เคยขอพบ (หรือขอข้อมูล) คนที่เคยรู้จักก่อนถูกลักพาตัว


บันทึกการทดลอง 191
หมายเหตุ: นี่เป็นบันทึกเพื่อการตรวจสอบความสามารถของ SCP-191 โปรดจำไว้ว่า SCP-191เป็นเครื่องมือทดลอง ไม่ใช่ศูนย์บันเทิง การทดลองด้วยเกมหรือเทคโนโลยีบันเทิงใดๆให้กระทำอย่างมืออาชีพ ไม่ใช่เพื่อความสนุกสนาน - ดร.???


ของที่ใช้ ??? เพนท์? โปรแกรมวาดภาพง่ายๆที่มีทั่วไป

คำสั่ง: ให้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วย USB และวาดภาพที่กำหนดด้วย?? เพนท์

ผลลัพธ์: SCP-191สามารถจำลองการทำงานของเมาส์และคีย์บอร์ดได้ทันที เมื่อเอาภาพถ่ายให้ดู 191ก็สามารถวาดเลียนแบบได้โดยใช้เพียงเครื่องมือดินสอ เป็นภาพจำลองที่แยกไม่ออกจากของจริง

หลังจากบันทึกการทดลองแล้ว จึงได้สังเกตเห็นว่า SCP-191ยังใช้?? เพนท์วาดรูปเพิ่มอีก 191ดูจะประหลาดใจ แล้วเปิดไฟล์ข้อความบนจอภาพ บอกว่ามันไม่รู้ตัวว่ากำลังวาดรูปอยู่

ภาพที่พบนั้นมีดังต่อไปนี้

- คนในเครื่องแบบของGOCสามคนยืนอยู่ในห้องทำงานที่ลุกเป็นไฟ เล็งปืนไปที่ผู้ชายที่อยู่อีกด้านของห้อง ชายคนนั้นฆ่าตัวตายโดยการยิงหัวตนเอง มองไม่เห็นหน้าเพราะเลือดบัง (เจ้าหน้าที่??ซึ่งได้ร่วมในภารกิจโจมตีที่เก็ย191มานั้น ระบุว่านี่เป็นภาพการตายของดร.ดร. ????? ????????? ผู้สร้าง SCP-191)

- ผู้ใหญ่กับเด็กเล่นขอขนมวันฮัลโลวีน เด็กเป็นผู้หญิงแต่งหน้าคล้ายกับบอริส คาลอฟในเรื่อง แฟรงเกนสไตน์ และผู้ใหญ่นั้น[ข้อมูลปกปิด]

- [ข้อมูลปกปิด] (SCP-191ถูกถามอีกครั้งว่ามันรู้สึกสบายดีจริงๆหรือ SCP-191ตอบด้วยไฟล์ข้อความอีกครั้งว่ามันสบายดี และ[ข้อมูลปกปิด]นั้น?ไม่มีความหมายอะไร?)


ของที่ใช้ วิดีโอเกม ???????? ????? ?: ???????????

คำสั่ง: ให้จำลองความสามารถของ?วีโมท?แล้วเล่นเกม

ผลลัพธ์: การทดลองเริ่มอย่างติดขัด การเคลื่อนไหวที่อ่อนด้อยของSCP-191นั้นทำให้แผ่นหักเป็นสองท่อนก่อนจะได้ใส่เข้าไปในเครื่อง SCP-191มีท่าทีกะวนกระวาย จากนั้นมันก็มองไปที่แผ่น แล้วแสงจากตาสีแดงก็กลายเป็นสีเขียวอยู่ขณะหนึ่ง

เมื่อดร.???กลับมาพร้อมแผ่นเกมใหม่ (ผ่านไปไม่ถึงสองนาที) เกมก็เริ่มเล่นบนเครื่องแล้ว เมื่อดร.???ถามว่าเกิดขึ้นได้ยังไง ก็ข้อความขึ้นบนจอว่า?หนูดูเลขศูนย์กับหนึ่งพวกนั้นแล้วโหลดมันขึ้นมา หนูขอโทษ หนูรู้ว่าหนูไม่ควรทำแบบนี้ แต่หนุไม่อยากให้คุณต้องเสียแผ่นไปเปล่าๆ อย่าโกรธเลยนะคะ? SCP-191นั้นมีท่าทีกลัวจะถูกตำหนิอยู่ แม้จะได้รับการยืนยันว่าเธอทำได้ดีมาก

SCP-191เล่นเกมจนจบอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด แม้ว่ามันจะไม่ได้ขยับตัวให้สอดคล้องกับวีโมทเลย


ของที่ใช้
- ?????? ????? ???????? (โปรแกรมแต่งวิดีโอที่รู้จักกันดี)
- ไฟล์วิดีโอความยาว40วินาทีจากโรงอาหารพนักงาน

คำสั่ง: ให้แต่งวิดีโอด้วยเทคนิคแบบเดียวกับที่นักสิบในรายการโทรทัศน์ยอดนิยม ??.?.??ใช้ (เทคนิคที่ไม่สามารถทำได้ในความเป็นจริง)

- ?ซูมและปรับให้ชัด? ให้ SCP-191ซูมไปที่ลานจอดรถนอกหน้าต่างแล้วสร้างภาพของทะเบียนรถซึ่งมองไม่เห็นจากระยะนั้น (ได้ถ่ายรูปทะเบียนรถมาเพื่อใช้เปรียบเทียบแล้ว)
- ?Uncrop? ให้ SCP-191ลดขนาดของวิดีโอลง100พิกเซลทุกด้าน และเพิ่มเติมรายละเอียดในช่องว่างเป็นโรงอาหารตามที่มันคิด (ไม่มีข้อมูลนี้ในวิดีโอ)
- ?สลับกล้อง? SCP-191ได้รับคำบอกเล่าเรื่องตำแหน่งและมุมของกล้องอีกตัวในโรงอาหาร ให้SCP-191สร้างภาพวิดีโอในมุมจากกล้องตัวนั้นและเพิ่มเติมรายละเอียดที่กล้องปัจจุบันมองไม่เห็น (ได้บันทึกวิดีโอของจริงจากกล้องมาใช้เปรียบเทียบแล้ว)

ผลลัพธ์: ตอนแรกนั้นSCP-191ไม่เข้าใจคำสั่ง ดร.???อธิบายอยู่นาน ก่อนจะไปยืนด้านหลังแล้วแนะนำทีละขั้น ใช้เวลาหลายนาทีทีเดียวจึงเริ่มทดลองได้ แต่เมื่อSCP-191เริ่มทำงานแล้ว วิดีโอและภาพทั้งหมดก็สร้างเสร็จสิ้นในเวลาไม่ถึงเจ็ดนาที (โดยสามนาทีเป็นอย่างน้อยนั้นหมดไปกับการเฝ้าดูแถบแสดงการทำงาน)

- ?ซูมและปรับให้ชัด? SCP-191สร้างภาพทะเบียนรถในระยะใกล้ได้ชัดเจนมาก มีรอยขูดและถลอกที่สมจริงด้วย แต่เลขทะเบียนกลับไม่ตรงกับของจริง SCP-191พิมพ์บอกว่า ?ไม่มีข้อมูลนั้นค่ะ หนูเลยเดาเอาเอง? (เลขทะเบียนของจริงคือ ???-???, ???-???, ???-??? และ ???-??? ส่วนที่SCP-191สร้างขึ้นนั้นคือ IAM-191, 191-ISA, 600-DMA และ CHI-930)

- ?Uncrop? SCP-191ขยายกรอบวิดีโอออกแล้วเติมส่วนที่ว่างจนเต็มอย่างราบรื่น มันไม่ตรงกับโรงอาหารจริงๆหรอก แต่ข้อมูลตรงนั้นมันไม่มีในไฟล์อยู่แล้วและSCP-191ต้องเดาเอาเอง

- ?สลับกล้อง? วิดีโอที่SCP-191สร้างนั้นมีมุมกล้องที่ตรงกับของกล้องตัวที่สองอย่างสมบูรณ์แบบ ทุกอย่างที่มองเห็นจากกล้อง1จะเหมือนกันมากในภาพจากกล้อง2 และส่วนที่มองไม่เห็นก็จะต่างไปเหมือนเดิม โต๊ะที่มองไม่เห็นจากกล้อง1ซึ่งจริงๆแล้วมี[ข้อมูลปกปิด]นั่งอยู่นั้น ตอนนี้(ในภาพวิดีโอที่สร้างขึ้น)มีดร.???กับเจ้าหน้าที่ ??? (ดร.ผู้ร่วมทดลองและเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลSCP-191)กินอาหารและพูดคุยกันอยู่แทน (ได้ไปตามผู้มีความสามารถด้านการอ่านริมฝีปากมาถอดความว่าดร.???กับเจ้าหน้าที่ ???พูดอะไรกันในวิดีโอจำลองนี้ [ข้อมูลปกปิด] ดร.???ตัวจริงมีท่าทีไม่สบายใจที่SCP-191นึกภาพตัวเองพูดกับเจ้าหน้าที่ ??? ส่วนเจ้าหน้าที่ ???ตัวจริงไม่ยอมออกความเห็น)

แม้จะมีความแตกต่างที่มองเห็นได้ระหว่างวีดีโอของจริงกับที่SCP-191สร้างเลียนแบบ บุคลากรในศูนย์หลายคนก็แยกไม่ออกว่าอันไหนเป็นของจริง


(ทะเบียนที่191สร้างขึ้นนั้น จริงๆแล้วถอดรหัสได้ว่า I AM 191. 191 IS A GOOD MACHINE)

มีแฟนอาร์ทด้วยเน้อ ซึ่งวาดผิดตรงที่ยังมีปากแบบปกติ แต่คนวาดน่าจะจงใจเพราะแบบนี้น่ารักกว่าแฮะ
[Image: 191.jpg]
Rougetsu   09-03-2012, 02:55 AM
#5
อ่านกำลังดื่มด่ำ รู้สึกทึ่งที่มีสิ่งทดลองพวกนี้อยู่ในโลกเราด้วย มากลัวเด็กหญิง191จากลักษณะภายนอกจากนั้นก็อ่านลงมารู้สึกว่าน่ารักดี จากนั้นเลื่อนขึ้นไปดูก็พบกับ..
Quote:(เป็นเรื่องแต่งล้วนๆเน้อ หนักไปทางสยอง แต่ก็มีเฮฮาหรือเศร้าๆอยู่บ้าง รูปประกอบถ้าเคยเห็นที่อื่นมาแล้วก็ไม่ต้องแปลกใจ มันเป็นแรงบันดาลใจคนเขียนเขา)
แพนด้าจ๊าก กุอ่านข้ามมม หลงเชื่อว่าเรื่องจริงจนกระทั่งมาเจอประโยคนี้ แพนด้าจ๊าก

Avatar is EMON-YU's work and I own no rights on it.
Kuruni   09-04-2012, 12:39 PM
#6
แหะๆ ผมว่าเป็นตัวอย่างที่ดีในการเขียนงานโดยใช้รูปแบบของเอกสารนะครับ

SCP-439
Euclid

มาตรการพิเศษ
ตัวอย่างนั้นถูกไว้ในศูนย์วิจัยติดอาวุธที่45 แผนกสิ่งมีชีวิตอันตราย ในห้องปิดผนึกแบบGที่ต่อระบบอ็อกซิเจนไว้ ให้ให้อาหารเป็นสารอาหารแบบX-Fที่อนุมัติแล้วทางท่ออาหารแบบ16a โดยบุคลากรผู้ดูแลนั้นต้องมีระดับบุคลากรตั้งแต่2ขึ้นไป

ลักษณะ
SCP-439เป็นแมลงไม่ทราบที่มา ลักษณะคล้ายกับForficula auricularia (แมลงหางหนีบ) สีเทาใส ความยาวประมาณ2.5ซม. เดิมนั้นถูกพบและเก็บมาจากมณฑล???? ???? ประเทศจีน ขณะนี้ยังไม่พบตัวอย่างอื่นอีก

โดยทั่วไปแล้ว SCP-439นั้นนับว่าไม่มีอันตราย นอกจากจะใช้หางหนีบได้เจ็บทีเดียว อันตรายจริงๆของSCP-439นั้นอยู่ที่พฤติกรรมในการสร้างรังและขยายพันธุ์ โดยมันจะเข้าไปในปากของมนุษย์ที่หลับอยู่ โดยมันจะเลือกมนุษย์เท่านั้นและไม่ทำรังกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆทั้งหมด เมื่อเจอเป้าหมายที่เหมาะสม มันจะซ่อนตัวในบริเวณใกล้เคียงแล้วรอจนเป้าหมายหลับ ไม่ทราบเหมือนกันว่ามันรู้ได้ยังไงว่าเป้าหมายหลับ แต่ก็มีความแม่นยำมากถึง-ข้อมูลปกปิด-ใน-ข้อมูลปกปิด-ครั้ง เมื่อเข้าไปในปากของเหยื่อ SCP-439ก็จะไต่ไปทางหลอดลมและเข้าไปในปอดข้างหนึ่งของเหยื่อ

ประมาณ4-8ชั่วโมงหลังจากตื่นนอน เหยื่อจะรู้สึกเจ็บหน้าอก หายใจลำบาก และรู้สึกว่าปวดท้องเกร็ง อาการแน่นหน้าอกนั้นจะรุนแรงขึ้นพร้อมมีไข้จนกระทั่งเหยื่อช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ช่วงนี้เองที่อาการ Fibrodysplasia Ossificans Progressiva (FOP)จะเริ่มขึ้น ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วจะเป็นอาการผิดปกติทางพันธุกรรมที่ทำให้กระดูกงอกผิดปกติ เนื่องจากกระดูกจะงอกเร็วมาก ทำให้แทงเข้าไปในกล้ามเนื้อ เป็นกระบวนการที่เจ็บปวดมาก เหยื่อจะรู้สึกอยากซ่อนตัวในที่มืดและแคบอย่างชั้นใส่ของ ตู้เสื้อผ้า หรือท่อลม

ถ้าไม่ได้รับการรักษาในสามวัน อาการหายใจขัดและความเจ็บปวดจากกระดูกงอกจะทำให้เหยื่อหยุดตอบสนองและเคลื่อนไหวไม่ได้ ถึงตอนนี้ เหยื่อก็จะเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนสภาพสุดท้ายไปเป็น"รังกระดูก" โดยจะม้วนตัวในท่าคุดคู้ โครงสร้างกระดูกจะเปลี่ยนไปตามแนวของ-ข้อมูลปกปิด-จนกระทั่งร่างของเหยื่อคล้ายกับทรงกลมและมีขนาด3/4ของขนาดเดิม การงอกของกระดูกนั้นก็จะยังดำเนินต่อไปและถ้าเป็นไปได้ก็จะยึดตัวเองไว้กับตำแหน่งที่อยู่ โครงสร้างกระดูกในตอนนี้จะแทบไม่เหลือเค้าเดิม กลายเป็นเหมือน"กรง"สำหรับป้องกันอวัยวะภายในและรัง

ถึงตอนนี้ การแปลงสภาพก็เสร็จสมบูรณ์ ตัวราชินีซึ่งเข้าไปในร่างเหยื่อนั้นจะออกลูกมาตั้งแต่ 20-30,000 ตัว ซึ่งมีทั้งแมลงงาน ตัวผู้ และทหาร เหมือนระบบรังของแมลงโดยทั่วไป เนื่องจากมีแต่ราชินีเท่านั้นที่ขยายพันธุ์ได้ จึงนับเป็นโชคดีที่แมลงตัวอื่นๆไม่มีอันตรายอะไร นอกจากทหารที่มีคีมหางเท่านั้น โครงสร้างภายในของเหยื่อในตอนนี้นั้นแทบไม่เหลือเค้าของมนุษย์ อวัยวะบางส่วนถูกกินเป็นอาหาร ขณะที่บางส่วนถูกแมลงงานดัดแปลงเป็นห้องวางไข่ ที่น่าทึ่งก็คือการใช้ระบบย่อยอาหารของเหยื่อเปลี่ยนอินทรีย์วัตถุที่ทหารเก็บมาเป็นสารอาหารเหลว ซึ่งใช้เป็นแหล่งอาหารของแมลงในรังและเลี้ยงชีพของเหยื่อที่เป็นรังไว้

เมื่อผ่านไป4-6เดือน ก็จะเกิดราชินีตัวใหม่ซึ่งจะผสมพันธุ์กับตัวผู้ แล้วพวกแมลงก็จะทำลายรังโดยเจาะ-ข้อมูลปกปิด-ออกมา ทำให้พวกแมลงส่วนใหญ่ตายหมด แมลงงานและตัวผู้นั้นไม่สามารถเอาตัวรอดนอกรังได้ ส่วนทหารที่หมดหน้าที่แล้วก็จะเร่ร่อนไปนอกรัง ซึ่งทหารนั้นจะไม่กินอะไรนอกจากสารอาหารเหลวที่ผลิตจากรังของตน ส่วนราชินีตัวใหม่ซึ่งอยู่ในสภาพพร้อมขยายพันธุ์ก็จะออกไปสร้างรังของตนเอง น่าประหลาดใจที่เหยื่อจะไม่ตายเพราะอาการบาดเจ็บตอนรังถูกย้าย แต่เป็นการขาดอาหารต่างหาก

เพิ่มเติม
สิ่งที่เราได้เรียนรู้เพิ่มเติมอย่างน่าสยอง ดร.??????ได้ทำการทดลองเพื่อตรวจสอบระดับความเสียหายต่อร่างของเหยื่อหลังการแปลงสภาพแล้ว โดยจากการชันสูตรก่อนหน้านี้ทำให้เราทราบว่าแม้สมองส่วนหนึ่งจะถูกเจาะเพื่อใช้เป็นอาหาร ส่วนอื่นก็จะยังอยู่ดี ซึ่งเชื่อว่าเป็นการคงการทำงานของร่างกายเอาไว้ ในการทดลองครั้งล่าสุด ??????ได้ถือโอกาสตรวจสอบสภาพในเวลาไม่นานหลังการแปลงสภาพอย่างใกล้ชิด แม้ว่าดวงตานั้นจะถูกใช้เป็นอาหารเช่นกัน แต่ขณะที่??????ทำการตรวจสอบนั้นมันยังอยู่ดี เธอได้เปิดเปลือกตาแล้วใช้ไฟฉายส่อง และก็พบว่าดวงตาของเหยื่อนั้นขยับตามแสงไฟ การทดลองถูกยุติทันที และไม่มีกำหนดการทดลองใดๆอีก
Kuruni   09-06-2012, 03:10 PM
#7
อันนี้ล่ะแหล่มมาก

SCP-140
Keter

มาตรการพิเศษ
ห้ามไม่ให้นำSCP-140เข้าใกล้หมึก เลือด หรือของเหลวใดๆที่ใช้เขียนได้ในระยะ 15 เมตร หากพบการปนเปื้อนเลือดหรือหมึกให้รายงานทันที ให้ตามหาสำเนาอื่นๆทั้งหมดของ SCP-140 จากการพิมพ์ครั้งแรกและทำลายทิ้งโดยเร็วที่สุด มีเพียง SCP-140 เท่านั้นที่จะเก็บรักษาไว้เพื่อศึกษา เตือนภัยแต่เนิ่นๆ และจัดเก็บเพื่อเปรียบเทียบกับSCPที่สืบเนื่องจากมัน

SCP-140นั้นถูกเก็บไว้ที่ศูนย์ 76 ในห้องล็อกนิรภัยซึ่งมีโต๊ะยู่ตัวหนึ่ง ในขณะนี้ไม่ให้ทำการวิจัยใดๆกับต้นฉบับดั้งเดิมของ SCP-140 ให้นักวิจัยอ่านจากสำเนาที่เตรียมไว้ซึ่งไม่มีลายเซ็นของผู้แต่งและคุณสมบัติของมัน ในกรณีที่มีการอนุมัติให้ทำการวิจัยก็ห้ามนำ SCP-140ออกจากห้องนิรภัย และไม่ให้ผู้ที่อ่านมันสัมผัสกับมันเกิน ? ชั่วโมง การเข้าไปในห้องต้องมีคำอนุมัติให้วิจัยเป็นการเฉพาะอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากหัวหน้าทีมวิจัย ยามติดอาวุธซึ่งเฝ้าอยู่นอกห้องนั้นจะใช้กำลังสังหารผู้ที่จะขโมยมัน

หากบุคลากรคนใดมีท่าทีหมกมุ่นกับ SCP-140 หรืออาจได้รับผลกระทบแบบมีม ก็ให้รับการลบความทรงจำระดับA และปลูกถ่ายความทรงจำปลอมในกรณีที่จำเป็น พร้อมกับย้ายไปโครงการอื่น บุคลากรที่ถูกย้ายไปนั้นต้องถูกจับตามองในกรณีที่ความจำกลับคืนมา

ลักษณะ
SCP-140 เป็นหนังสือปกแข็งสีดำและหน้ากระดาษสีขาวไม่ทราบจำนวนหน้า ปกหุ้มชั้นนอกนั้นหายไปแล้ว แต่ชื่อ ?A Chronicle of the Daevas? (พงศาวดารแดวา) นั้นสามารถอ่านได้ชัดเจน ด้านในของปกนั้นมีลายเซ็นผู้แต่งซึ่งอ่านไม่ได้อยู่ ตัวเนื้อหานั้นมีลิขสิทธิ์ของปี 19?? จากการตรวจสอบอย่างระมัดระวังนั้น มันมีจำนวนหน้ามากเกินกว่าที่จะบรรจุระหว่างปกทั้งสองด้านได้


ผู้ที่อ่านมันระบุว่ารู้สึกหวาดระแวง กังวล และบางครั้งก็คลื่นไส้ ในขณะที่อ่าน SCP-140 แต่นั่นอาจเป็นเพราะเนื้อหาของมันก็ได้ ถึงกระนั้น ทุกคนก็บอกว่า SCP-140นั้นน่าทึ่งมากและอยากจะอ่านต่อไปแม้จะมีเนื้อหาที่ทำให้ไม่สบายใจอยู่บ่อยๆ ผู้ที่อ่านSCP-140 หนึ่งในสิบห้าคนบอกว่าได้กลิ่นจางๆของเลือดที่แห้งแล้วจาก SCP-140

SCP-140นั้น เป็นเรื่องของอารยธรรมโบราณซึ่งอยู่ในไซบีเรียตอนใต้ในปัจจุบัน ซึ่งเรียกกันว่า แดวิต แม้ว่าอารยธรรมแดวิตนั้นจะเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปตามเวลาเหมือนอารยธรรมอื่น แต่มันก็มีความต่อเนื่องกันอย่างผิดปกติ วัฒนธรรมของแดวิตทุกสมัยนั้นจะมีลักษณะของลัทธิทหาร การพิชิตดินแดน การบูชาบรรพบุรุษ เมืองศูนย์กลางซึ่งปกครองประชากรทาสมากมาย การบูชายัญมนุษย์อย่างอำมหิต และพิธีกรรมที่ดูเหมือนจะสร้างปาฏิหาริย์ได้ วัตถุโบราณและสิ่งมีชีวิตหลายๆอย่างของอารยธรรมแดวิตนั้น หากเป็นจริงตามที่เขียนแล้ว ก็จะเป็นสิ่งที่สถาบันต้องเก็บมาไว้

ถ้า SCP-140 สัมผัสกับของเหลวที่ใช้เขียนได้หรือเลือดมนุษย์ เนื้อหาของประวัติศาสตร์อารยธรรมแดวิตก็จะถูกขยายเพิ่มออกไป เลือดมนุษย์นั้นดูเหมือนจะ?ดี?ที่สุด แต่ไม่ว่ายังไง ความยาวของเนื้อหาที่เพิ่มขึ้นก็จะไม่สอดคล้องกับปริมาณของเหลวที่มันสัมผัส แม้ว่าเนื้อหาที่เพิ่มเข้ามานี้บางครั้งจะเป็นรายละเอียดของพิธีกรรมหรือภาพประกอบของเนื้อหาเดิม ส่วนใหญ่แล้วมันจะเป็นเนื้อหาใหม่ต่อมาของประวัติศาสตร์แดวิต หรือรายละเอียดของบุคคลและวัตถุใหม่ที่เพิ่มเข้ามามากกว่า ความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญกลายเป็นเพียงการถอยร่น มีบุคคลและเหตุการณ์ใหม่ๆเพิ่มเข้าไป นักโบราณคดีของสถาบันก็พบวัตถุโบราณและร่องรอยของอารยธรรมแดวิตตามสถานที่ตรงกับที่เขียนเพิ่มขึ้นมาด้วยเช่นกัน ซึ่งบางครั้งมันก็ปรากฏขึ้นในจุดขุดค้นเดิมที่เคยขุดจนทั่วแล้ว

แม้ว่าในบางช่วง พวกแดวิตจะแบ่งเป็นชุมชนเมืองย่อยๆ แต่ก็กลับไปเป็นจักรวรรดิอยู่ตลอดเวลาภายใต้การปกครองของขุนนางชั้นสูง (พวก?แดวา?) ผู้มีพฤติกรรมการกินเนื้อคนและสร้างปาฏิหาริย์ แม้ในช่วงแรกนั้น นักวิจัยของสถาบันเชื่อว่าพวกแดวาเป็นชนชั้นตามสายเลือดที่บุคคลสำคัญจะใช้ชื่อเดิมของบรรพบุรุษซ้ำ หลักฐานและเหตุการณ์ ?-??-20?? ทำให้เชื่อได้ว่าพวกแดวามีอายุยืนยาวกว่าที่เป็นตามธรรมชาติมากเพราะ-ข้อมูลปกปิด- นักวิจัยหลายๆคน รวมทั้งศาสตราจารย์??????? สรุปว่าพวกแดวานั้นแตกต่างจากมนุษย์ปัจจุบันมากจนเรียกได้ว่าเป็นสายพันธุ์ย่อยที่แยกออกไป ซึ่งมีหลักฐานคือภาพใน SCP-140 และ-ข้อมูลปกปิด-

SCP-140นั้นมีรายละเอียดมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานของแหล่งข้อมูลปฐมภูมิในปัจจุบันแล้วจะนับว่าใกล้เคียงกับชีวประวัติมากกว่าประวัติศาสตร์ มันมีรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับพิธีบูชายัญ การสู้รบ ชีวิตประจำวัน และประวัติของบุคคลสำคัญซึ่งรวมถึงคำพูดและวันเกิด มีบุคคลที่สามารถระบุชื่อได้อยู่???คน ซึ่งรวมถึงผู้ที่ขณะนี้เรียกว่า SCP-140-A ในจำนวนนี้มีเพียง??เท่านั้นที่ระบุการเสียชีวิตด้วย

นักโบราณคดีของสถาบันได้พบโบราณสถานมากมายตามลักษณะของอารยธรรมแดวิตทั่วพื้นที่ของไซบีเรีย อิหร่านตอนเหนือ และมองโกเลีย วัตถุโบราณและหลักฐานของการติดต่อและต่อสู้ข้ามอารยธรรมนั้นสามารถพบได้ถึงเทือกเขาคาปาเธียนในทางตะวันตก ส่วนทางตะวันออกนั้นพบได้ถึงปากีสถานตอนบนและจีน ซึ่งรวมถึงSCP--ข้อมูลปกปิด-

เพิ่มเติม 140a
SCP-140นั้นถูกพบในห้องทำงานของนักประวัติศาสตร์??????? ?????? ผู้ล่วงลับ ซึ่งเจ้าตัวนั้นถูกพบศพในห้องทำงานที่มหาวิทยาลัย????? โดยเสียชีวิตจากการเชือดข้อมือตนเองทั้งสองข้าง ไม่มีเลือดของ??????ในห้องทำงานเลย เพื่อนร่วมงานของ??????ให้การระหว่างการให้ปากคำว่าพวกเขาพบโน้ตลายมือของ??????ที่เขียนด้วยหมึกจางๆอยู่กับSCP-140 พยานทั้งหมดได้รับการลบความทรงจำระดับA และปลูกถ่ายความทรงจำปลอม

โน้ตของ??????นั้นเขียนว่า
?ผมต้องรู้ ผมขอโทษ?

ข้อความทั้งหมดในระยะ15เมตร เว้นแต่หนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่นนั้นหายไปหมด หนังสือที่เหลือนั้นก็มีเนื้อหาเกี่ยวกับการติดต่อและรายละเอียดของอารยธรรมแดวิตเพิ่มเข้ามา หนังสือพวกนี้ถูกยึด สื่อและเอกสารที่มาจากการพิมพ์นั้นหายไปหมด หมึกในปากกา พรินเตอร์และตลับหมึกทั้งหมดก็หายไปด้วย

เพิ่มเติม 140b
แม้SCP-140จะพิมพ์เผยแพร่ในช่วงศตวรรษที่20 แนวการเขียนของเนื้อหาก็เหมือนการย้อนความจำเรื่องเหตุการณ์ บุคคล และพิธีกรรมของตนเองโดยผู้เขียนนิรนามของ SCP-140มากกว่า นักสืบของสถาบันได้ตามรอยการตีพิมพ์ไปถึงโรงพิมพ์-ข้อมูลปกปิด- จากสำเนา??ฉบับซึ่งจัดพิมพ์ส่วนตัวโดยบุคคลผู้มั่งคั่งซึ่งต่อจากนี้จะเรียกว่า SCP-140A ลายเซ็นของ SCP-140A ในสัญญาตีพิมพ์นั้นตรงกับที่พบใน SCP-140

หนังสือกว่า4?เล่มในจำนวนที่พิมพ์ครั้งแรกนี้นั้นได้ดูดเอาหมึกของอีก??เล่มไปหมด จนถึงตอนนี้ สถาบันได้เก็บและทำลายสำเนาที่เหลือไปแล้วกว่า??เล่ม แต่ก็คาดว่ายังเหลืออยู่ตั้งแต่?ถึง??เล่ม มีการรายงานเรื่องเนื้อหาที่เพิ่มขึ้นสองครั้งในช่วงที่SCP-140ไม่ได้สัมผัสกับของเหลวหรือยังอยู่ในห้องนิรภัย

ขณะนี้การสืบหาและตามล่าผู้แต่ง SCP-140ยังดำเนินต่อไป ในกรณีที่พบตัว ขอให้เจ้าหน้าที่-ข้อมูลปกปิด-

เพิ่มเติม 140c
จากการศึกษาSCP-140และวัตถุที่เกี่ยวข้องกับอารยธรรมแดวิต นักวิจัยของสถาบันได้สรุปว่า หากอารยธรรมแดวิตที่ดุร้ายฟื้นกลับมาในประวัติศาสตร์หลังปี 1??? CE ก็จะส่งผลกระทบในแง่ร้ายต่อสถาบันและอารยธรรมมนุษย์ปัจจุบันอย่างรุนแรง แม้จะเป็นกรณีที่ดีที่สุด อารยธรรมแดวิตในยุคปัจจุบันก็จะทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนโครงสร้างสังคมปัจจุบันในระดับCK ความขัดแย้งในระดับโลกซึ่งประมาณว่าจะมีผู้เสียชีวิต -ข้อมูลปกปิด-เป็นอย่างน้อย และสถาบันก็จะไม่สามารถคงสภาพเป็นองค์กรลับได้อีกต่อไป

เพิ่มเติม 140d
จากบันทึกของ??????? ?????? ซึ่งพบในPCที่บ้านใน-ข้อมูลปกปิด- ระบุว่าตอนแรกที่เขาอ่านSCP-140นั้น มันจบลงด้วยความพินาศย่อยยับของอารยธรรมแดวิต และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เหล่าแดวาในปี2?? BCE โดยกำลังของแม่ทัพจีน ฉินก่าย แต่ผลจากการกักกันรั่วไหลหลายครั้ง ซึ่งได้รวมไว้ในบันทึกนี้ด้วย ก็ได้มีข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามา ระบุถึงผู้รอดชีวิตที่ไปรวมตัวกันในบริเวณอื่นของไซบีเรียกลาง และได้กลายเป็นจักรวรรดิที่มั่นคงก้าวหน้าต่อมาอีก ในขณะนี้ จักรวรรดินั้นถูกระบุว่าถูกทำลายโดยเจงกิสข่านในช่วงเริ่มก่อตั้งอาณาจักร แม้ชะตากรรมของบุคคลและเมืองสำคัญทั้งหลายจะยังไม่ชัดเจนนักก็ตาม นักโบราณคดีของสถาบันจะเดินทางไปที่-ข้อมูลปกปิด-เพื่อหาข้อมูลต่อไป

เพิ่มเติม 140e
หลังเหตุการณ์ ?-??-20??ที่จุดขุดค้น -ข้อมูลปกปิด- ซึ่งมีผู้เสียชีวิต???คน การขุดค้นทางโบราณคดีที่ต้องสงสัยว่าจะมีวัตุโบราณหรือโบราณสถานของอารยธรรมแดวิตจะต้องมีทีมรักษาความปลอดภัยติดอาวุธไปด้วย SCP-140-1ถูกทำลาย SCP-140-2ยังอยู่ สิ่งผิดปกติและวัตถุโบราณอื่นๆนั้นถูกทำลายโดยการใช้จรวดร่อนยิงใส่จุดขุดค้น เจ้าหน้าที่??????ได้รับคำชมเชยและเข้ารับการบำบัดอาการจิตผิดปกติหลังเหตุการณ์ทารุณ ดร.????ได้รับคำสดุดีด้านความกล้าหาญหลังมรณกรรม

ขณะนี้ยังทำการสืบสวนเรื่องความเกี่ยวข้องของSCP-140Aหรือคนของมันกับเหตุการณ์ ?-??-20??ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ
Kuruni   09-12-2012, 12:41 PM
#8
ตัวนี้ตอนแรกติดจะน่าเบื่อ+เว่อ แต่อ่านไปเรื่อยๆเถอะนะครับ เป็นตัวที่เขียนได้ดีมาก

SCP-1000
Keter

มาตรการพิเศษ
ให้ตรวจสอบเรื่องของSCP-1000ที่รายงานตามสื่อทั้งหมดเพื่อพิสูจน์ยืนยัน บุคคลหริอกลุ่มบุคคลใดๆที่สืบหาตัวSCP-1000นั้นให้หน่วยปฏิบัติการเซต้า-1000คอยจับตาดูและทำลายความน่าเชื่อถือหรือลบความจำ หลักฐานใดๆของSCP-1000นั้นจะต้องเก็บมาไว้ในการครอบครองของสถาบัน และถ้าจำเป็นก็สับเปลี่ยนกับของทำเลียนแบบซะ การอ้างว่าได้เห็นSCP-1000นั้นก็ให้ทีมเซต้า1000ตรวจสอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ฟังเล็กน้อยแค่ไหน

ห้ามมิให้มีปฏิสัมพันธ์ใดๆกับSCP-1000ทั้งที่อยู่ในป่าหรือถูกจับแล้ว ก่อนจะได้รับอนุญาตจากผอ.โจนส์ การปฏิสัมพันธ์ระหว่างSCP-1000กับมนุษย์ รวมทั้งบุคลากรของสถาบันนั้น จะต้องรายงานผอ.โจนส์ทันที

ลักษณะ
SCP-1000เป็นลิงหากินตอนกลางคืนที่กินทั้งพืชและสัตว์ จัดอยู่ในสาขาHomininiในจำพวกPanและHomo ตัวที่โตแล้วจะมีความสูง1.5ถึง3เมตร และหนัก 90ถึง270กก. พวกมันมีขนสีเทา ดำ น้ำตาล แดง และบางครั้งก็ขาว พวกมันมีตาโตและสายตาดีมาก สันคิ้วชัดเจน และรอยที่หน้าผากคล้ายกับกอริลลาแต่ปรากฏทั้งสองเพศ ระดับสติปัญญานั้นพอๆกับPan troglodytes (ชิมแปนซี)

SCP-1000นั้นวิวัฒนาการมาพร้อมกับมนุษย์ พวกมันจำนวนมากอยู่ในยุคเดียวกับมนุษย์ยุคแรกและมนุษย์จนกระทั่ง10,000-15,000ปีก่อน จึงได้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่จนประชากรเหลืออยู่เพียง1-5%เท่านั้น เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดจาก"โรคปลอม"แปลกๆที่เราเรียกว่า SCP-1000-f1 โรคนี้สืบต่อทางพันธุกรรมและSCP-1000ในทุกวันนี้ก็มีอาการกันหมด SCP-1000ในขณะนี้ส่วนใหญ่แล้วจะมีภูมิต้านทาน พวกที่ไม่มีจะตายอย่างรวดเร็ว

อาการของSCP-1000-f1ก็คือ โฮมินิดทุกชนิด (รวมทั้งมนุษย์ ชิมแปนซี โบโนโบ และ SCP-1000ที่ไม่มีภูมิต้านทาน) ซึ่งมองเห็นSCP-1000 ทั้งโดยตรงและทางอ้อม จะมีโอกาสอย่างน้อย2%ที่จะเสียชีวิตอย่างผิดปกติจากการที่สมองหยุดทำงาน ผลของมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งมองSCP-1000นานเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสตายมากขึ้นเท่านั้น โดยจะเพิ่มขึ้น1%ทุกๆ20นาที ผลของมันจะรุนแรงต่างกันไปในแต่ละตัว โดยSCP-1000บางตัวนั้นมีผลรุนแรงถึง90% แม้แต่ตัวที่ตายแล้วก็ยังมีลักษณะพิเศษนี้อยู่ แต่ขนของมันที่ถอนออกมานั้นไม่มี

วิธีที่จะป้องกันความสามารถนี้ได้นั้นทำได้แค่ในวงแคบและต้องใช้[-ข้อมูลปกปิด-] (ดูเอกสารแนบเพิ่มเติม ต้องการระดับบุคลากรระดับ3)

เพราะว่าSCP-1000นั้นใกล้เคียงกับมนุษย์มาก จึงเชื่อได้ว่า SCP-1000-f1นั้นสามารถแพร่มายังพาหะมนุษย์ได้ด้วย ถ้ามีSCP-1000เข้ามาในศูนย์กลางชุมชนสำคัญ ก็อาจเกิดกรณีการล่มสลายของโลกในระดับ?? จะมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย[-ข้อมูลปกปิด-]ได้ และอาจทำให้มนุษย์สูญพันธุ์ได้ โชคดีที่SCP-1000นั้นจะหลีกเลี่ยงมนุษย์

การกำจัดSCP-1000ทิ้งทั้งหมดยังไม่สามารถทำได้ในขณะนี้ ให้ดูข้อมูลในเอกสารแนบเพิ่มเติม (ต้องการระดับบุคลากรระดับ3)

บริเวณที่มีประชากรของSCP-1000หนาแน่นที่สุดก็คือภาคพื้นแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ ของทวีปอเมริกาเหนือ และเทือกเขาหิมาลัยในเอเชีย ณ วันที่ ??/??/???? จำนวนประชากรของมันดูจะคงที่ มีรายงานการพบSCP-1000และ[-ข้อมูลปกปิด-]ในทุกทวีปตลอด 5 ปีที่ผ่านมา SCP-1000กลุ่มที่มีขนาดพอสมควรและอยู่ใกล้ชุมชนนั้นถูกกำจัดหมดแล้ว

สถาบันเริ่มสนใจSCP-1000ตั้งแต่ที่ดร.ฟรานซ์ M??????? ในปี 14??ได้รับการติดต่อจากกลุ่มทายาทสุริยา ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยที่ถูกขับออกมาจากพวกหัตถ์อสรพิษ พวกทายาทสุริยานั้นถูกสถาบันกวาดล้างจนหมด หลังจากที่ไม่ยอมมอบข้อมูลของ SCP-1000 SCP-???และ SCP-??? (ซึ่งต่อมาได้รับรหัสใหม่เป็น SCP-1000-??? และ SCP-1000-???) สมาชิกที่เหลือรอดอยู่ถ้าไม่มาเข้ากับสถาบันก็ได้หลบซ่อนไป ซึ่งน่าจะไปเข้ากับพวกหัตถ์อสรพิษแล้ว อาวุธ เครื่องมือ และวิทยาการปลอมอื่นๆขององค์กรถูกเรียกว่า SCP-1000-001 ถึง SCP-1000-???? ซึ่งสถาบันได้นำของเหล่านี้มาใช้งานบ่อยครั้ง สำหรับรายการทั้งหมดให้ดูที่ เอกสาร 1000-3534-Y (ต้องการระดับบุคลากรระดับ3) การเข้าพบอดีตสมาชิกของกลุ่มทายาทสุริยาที่เหลืออยู่นั้นให้จำกัดเฉพาะผู้ได้รับอนุญาตระดับ 4/1000 เว้นแต่จะได้รับการติดต่อโดยตรงจากผอ.โจนส์

ข้อมูลต่อจากนี้ไปมีไว้ให้บุคลากรระดับ 3/1000 หรือสูงกว่านั้น บุคลากรระดับ 3/1000ทุกคนต้องอ่าน เอกสารAlpha-1596-1000 ด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม 1000-466-X: แก้ไขเรื่องมาตรการควบคุมพิเศษ: ณ วันที่??/??/???? จะไม่มีการใช้มาตรการ 516ลูมินาในการควบคุมSCP-1000อีก [-ข้อมูลปกปิด-]บ่งชี้ว่าSCP-1000พัฒนาให้ทนคลื่นเสียงได้นั้น[-ข้อมูลปกปิด-]จะไม่มีการพัฒนาอีก มาตรการ 516ลูมินาจึงสามารถใช้ในกรณีฉุกเฉินได้ ขณะนี้กำลังหาวิธีอื่นที่มีประสิทธิภาพในการกันSCP-1000ออกจากพื้นที่ชุมชนอยู่ การที่SCP-1000สามารถทนมาตรการ 516ลูมินาได้นั้นเป็นสิ่งที่คำนวณไว้แล้ว (และเป็นร่องรอยของ SCP-1000 [-ข้อมูลปกปิด-]) หรือเป็นแค่เรื่องบังเอิญ (ลักษณะพิเศษส่วนบุคคลตามธรรมชาติ) นั้นขณะนี้ยังไม่ทราบ

=ต้องการระดับบุคลการระดับ3=

เอกสารAlpha-1596-1000 จดหมายจากผอ.โจนส์

พวกคุณคงจะได้ยินข่าวลือมาแล้ว พวกบุคลากรระดับต่ำกว่าจะได้รู้เรื่องนี้ชอบพูดแขวะอยู่เรื่อย ?รู้รึเปล่าว่าเรามีซาสควอทเป็นSCPด้วย? ต่อไปเค้าจะให้เราไปจับมนุษย์ค้างคาวรึไงเนี่ย??

ใช่ ไอ้ตีนโตก็คือ SCP-1000นั่นล่ะ

ผมแน่ใจว่าคุณกำลังขำอยู่ ไม่ต้องห่วงนะ ตรงข้ามกับข่าวลือ เราไม่ให้คุณไปหาอะไรตลกๆเป็นการ?ดูแลKeter?แน่

คุณคิดว่าไอ้ตีนโตตลก เพราะเราอยากให้คุณคิดว่ามันตลก เราออกเงินให้ทีมถ่ายทำหนังตลกฮอลลีวูดกับพวกเอกสารงี่เง่า จ้างคนมาสวมชุดกอริลลา กระจายข่าวปลอมๆด้วยขนแพะกับรอยเท้าหมี ติดสินบนและล้างสมองคนทำการ์ตูนให้แสดงมันในการ์ตูนอย่างน่าขำที่สุด ชื่อ?ไอ้ตีนโต?ก็มาจากพวกเราเอง กระจายไปในสื่อตอนปี 1958 ชื่อที่ผู้คนรู้สึกว่าเอาจริงจังด้วยยากกว่า?ซาสควอท?เสียอีก

ทำไมเหรอ? เราจะพูดถึงเดี๋ยวนี้ล่ะ

ข้อมูลที่คุณเพิ่งอ่านไปน่ะ ไม่ใช่ความจริงทั้งหมดหรอกนะ มันมีเรื่องโกหกโต้งๆอยู่สองเรื่อง แล้วก็การโกหกแบบจงใจปิดบังความจริงไว้อีกส่วนหนึ่งด้วย

ไม่มี ?โรคปลอมแบบผิดธรรมชาติ? ที่เรียกว่า SCP-1000-f1หรอก SCP-1000ไม่มีออร่าเวทมนตร์มรณะ จริงๆแล้ว SCP-1000ไม่มีความสามารถผิดธรรมชาติจริงๆเลยสักนิด

เราโกหกเรื่องระดับสติปัญญาของมันด้วย มันฉลาดกว่าชิมแปนซีเยอะเลย พูดให้เจาะจงล่ะก็ มันฉลาดพอๆกับพวกเรานี่ล่ะ

ส่วนการโกหกแบบปิดบังความจริงนั้น นั่นเป็นเนื้อหาของจดหมายฉบับนี้ ในเมื่อผมเป็นคนโกหก ผมก็ควรจะบอกความจริงเองเหมือนกัน

มันเป็นเรื่องที่พวกเราได้ยินมาจากพวกทายาทสุริยาที่มาเข้ากับพวกเรา เรื่องที่พวกเราไม่เชื่อ ไม่อยากจะเชื่อ ในตอนแรกนั่น

ก็อย่างที่คุณอ่านไป เจ้าลิงที่เรียกว่าSCP-1000มันวิวัฒนาการมาคู่กับพวกเรา เราเที่ยวไปในยามกลางวัน พวกมันออกเดินในยามราตรี เป็นพี่น้องในเงามืดของเรา

แต่ตอนที่พวกเรายังล่าสัตว์เก็บผลไม้อยู่นั้น พวกมัน...เปลี่ยนไป ก็เหมือนที่พวกเราเป็น หลายพันปีต่อมาน่ะนะ เครื่องมือ อาวุธ กสิกรรม ปศุสัตว์ บ้านเรือนที่มั่นคง ขณะที่มนุษยชาติยังกะพริบตาปริบๆใต้แสงอาทิตย์ยุคไพลโตซีน SCP-1000นับหมื่นล้านก็ตั้งรกรากไปทั่วโลกยามราตรี

พวกมันสร้างสิ่งที่พวกเรายังไม่เข้าใจ ทั้งที่ได้ศึกษาส่วนที่เหลืออยู่อย่างถี่ถ้วนแล้ว วิทยาการชีวภาพ พวกมันสร้างต้นไม้และนกล่าเหยื่อที่โตขึ้นเป็นยานความเร็วสูง ฝูงสัตว์ที่กลายเป็นรถไฟ พุ่มไม้ที่กลายเป็นพาหนะลอยได้ พวกมันใช้แมลงกับนกพิราบทำโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ระเบิดอะตอม พวกทายาทบรรยายเรื่องเมืองอันเจิดจรัส ที่เหยียดข้ามภูเขาน้ำแข็งและผ่าเข้าไปในถ้ำที่ลึกที่สุด ยานลอยฟ้าที่เป็นงาช้างและใยแมงมุม กับสัตว์ที่คอยดูแลมันด้วยดวงตานับร้อย

พวกเราเป็นสัตว์หายาก ก็เหมือนกอริลล่าในตอนนี้น่ะ อย่างมากก็มีสักแสนนึง พวกเราหลีกเลี่ยงชุมชนของพวกมันเหมือนสัตว์ป่าเดี๋ยวนี้เลี่ยงพวกเรา SCP-1000รู้ว่าพวกเราก็มีสติปัญญาเหมือนพวกมัน แต่พวกมันก็หลีกเลี่ยงพวกเราเหมือนที่เราหลีกเลี่ยงพวกมัน พวกมันมองพวกเราเป็นเหมือนแฟรี่ เหมือนโนม แต่งแต้มเรื่องราวเหนือธรรมชาติให้พวกเรา บอกว่าพวกเรากินเด็กไม่ดีตอนกลางวันที่พวกมันนอนหลับ พวกมันกันเราออกไปในเขตสงวนพันธุ์ ห้ามล่า แต่ก็มีการลักลอบแอบเอากระดูกไปกินเป็นยาชูกำลัง

แล้วอารยธรรมของมันก็ล่มสลาย ฝีมือพวกเรา ผมไม่ได้หมายถึงสถาบัน ผมหมายถึง?พวกเรา? มนุษยชาติ

เรื่องตรงนี้ออกจะคลุมเครือ ดูเหมือนว่าเทพขี้เล่นแห่งป่าจะชอบมนุษย์ เอาเครื่องมือของมันมาและใช้ให้ดู เราไม่ทราบว่าทำไมเราถึงทำแบบนั้น บางทีมันอาจจะล่าพวกเรา บางทีเราอาจจะกลัว บางทีอาจจะเป็นเพราะพวกมันขังเราไว้ จะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม เราไม่รู้ว่าความจริงเป็นยังไง พวกเราได้อุปกรณ์ของSCP-1000มา แล้วก็ใช้มัน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับSK ทำให้เรากลายเป็นผู้ปกครองโลกไป

พวกเราทำลาย SCP-1000ไป70%ในวันเดียว พวกทายาทสุริยาเรียกมันว่า วันแห่งดอกไม้ ดูเฟมือนว่าดอกไม้ทั้งหมดจะบานในวันนั้น ขณะที่ศัตรูของพวกเราตายไปทั้งที่หลับอยู่ แล้วเราก็ตามล่าพวกมันที่เหลือ แต่เราทำมากกว่าฆ่ามัน ด้วยเครื่องมือของSCP-1000เอง ทำทำให้พวกที่รอดอยู่เป็นบ้า แม้แต่พวกที่หนีพ้นเราไปได้ เราขังมันไว้ในจิตใจตัวเอง ปิดการทำงานระดับสูง แล้วปปล่อยให้ร่างกายเอาตัวรอดไม่ต่างจากลิง พวกเราเข่นฆ่าเครื่องจักรมีชีวิตของพวกมัน แล้วเผามหานครอันเจิดจรัสด้วยอาวุธชีวภาพของSCP-1000 ทำให้มันกลายเป็นเพียงขี้เถ้าที่ถูกชะล้าและปลิวไปกับสายฝนและสายลม

เราไม่ทิ้งร่องรอยไว้เลย ไม่แม้แต่ความทรงจำของเราเอง เราหันอาวุธนั้นใส่ตัวเองลบความทรงจำของSCP-1000และอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีบนโลกนี้ไปเสียสิ้น มีมนุษย์ไม่กี่คนที่ปกป้องความจำนั้นไว้ เก็บความรู้ต้องห้ามไว้เผื่อยามจำเป็น ส่วนพวกเราที่เหลือก็กลับไปล่าสัตว์เก็บผลไม้กับเหมือนเดิม ไม่ได้ฉลาดขึ้นสักนิด

และนั่นก็ทำให้เราอยู่ตรงนี้

คุณจะได้อ่านรายละเอียดทั้งหมดในเอกสารระดับ3 แต่ผมจะสรุปไว้ตรงนี้ : SCP-1000ได้สติปัญญาและความรู้ของมันคืนมาแล้ว บางทีพวกมันอาจจะไม่เคยลืมมันไปจริงๆเลยก็ได้ พวกเราไม่ทราบ

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม?รายงานการพบไอ้ตีนโต?ที่บ่อยขึ้นถึงได้น่ากังวลนัก สาเหตุที่มันพยายามสื่อสารกับเรา ถึงจะยังแปลไม่ได้ ยิ่งน่ากังวลกว่า

ใช่ SCP-1000ก็เหมือนพวกเรานั่นล่ะ และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้มันเป็นอันตรายมาก เราลบมันไปจากประวัติศาสตร์และความทรงจำ เราทำลายอารยธรรมของพวกมันและเข่นฆ่าพวกมันจนเกือบสิ้น ลองถามตัวเองดูสิ ถ้ามีโอกาส พวกมันจะทำอะไรกับเรามากกว่านี้บ้าง?


ข้อมูลเพิ่มเติม 100-056-D SCP-1000นั้นได้พยายามสื่อสารกับบุคลากรของสถาบันหลายครั้ง ส่วนใหญ่แล้วจะมี[-ข้อมูลปกปิด-]ที่ไม่ได้แปล แม้ช่วงหลังจะมีกรณีว่าพวกมันสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ก็ตาม

ปูม1000-ad065-x1 ต่อไปเป็นการแปลคร่าวๆจากที่SCP-1000พยายามสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ของสถาบันในวันที่??/??/??? (ดูเอกสารแนบ)


เราให้อภัยพวกเจ้าแล้ว
พวกเจ้ามีทางเลือก ตอนนี้ ไม่ใช่ตลอดไป
ให้พวกเรากลับไป
This post was last modified: 09-12-2012, 12:42 PM by Kuruni.
Kuruni   09-18-2012, 01:25 PM
#9
SCP-823
Euclid

มาตรการพิเศษ
SCP-823ต้องมีบุคลากรตรวจตราในสถานที่อย่างน้อยหกคนตลอดเวลาจนกว่าจะมีมาตรการในการกำจัดมันออกมาได้ บุคลากรทั้งหมดให้เฝ้าระวังอย่างยิ่งยวดในพื้นที่ปลอดภัย20เมตรรอบๆเขตแดง(ห้ามเข้า) บุคคลใดๆที่เข้าไปในเขตแดง ไม่ว่าจะเป็นพลเรือนหรือไม่ ให้กำจัดทิ้งในทันทีด้วยสไนเปอร์

หากได้ยินเสียงเพลงหรือแตรจากในเขตแดง ให้บุคลากรในที่เกิดเหตุสวมที่อุดหูโดยทันทีแล้วถอนกำลังไปสองกิโลเมตร พ้นไปจากเขตเหลือง (ห้ามพลเรือนเข้า) พร้อมกับแจ้งไปยังฝ่ายวิจัยของสถาบัน หลังการปรับตำแหน่ง ฝ่ายวิจัยของสถาบันจะทำการสำรวจพื้นที่และกำหนดบริเวณเขตแดงและเขตเหลืองใหม่ตามข้อปฏิบัติ 823-1-อัลฟา

เนื่องจากต้องคงความตื่นตัวด้านเสียงไว้ จึงไม่อนุญาตให้นำเครื่องเล่นเพลงหรือวิทยุส่วนบุคคล นอกเหนือจากอุปกรณ์ที่จำเป็นเข้าไปในพื้นที่เฝ้าระวัง

ลักษณะ
SCP-823 เป็นสวนสนุกร้างใน ????? ????? มันถูกทิ้งร้างในปี????หลังอุบัติเหตุรุนแรงซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายครั้ง รายการของเหตุการทั้งหมดนั้นอยู่ในเอกสาร 823-01-13 "การเสียชีวิตของพลเรือนซึ่งมีสาเหตุจาก SCP-823"

เหตุการที่ทำให้ SCP-823ถูกทิ้งร้างนั้นเกิดขึ้นในวันที่ ?? ?? ???? ซึ่งเรียกกันว่า "วันอาทิตย์เลือด" ซึ่งผลกระทบของมันรุนแรงที่สุดในรอบ20ปี มีผู้เสียชีวิตในสวนสนุก 231คน และบาดเจ็บหรือพิการอีก 7คน ซึ่งรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมดนั้นอยู่ในเอกสาร 823-01-14 "พลเรือนผู้เสียชีวิตจากเหตุการ SCP-823-99-Euclid" โดยในจำนวนนั้นมี...

* บุคคลสองคน เพศชายและหญิง ร่างของทั้งสองถูกเชื่อมเข้าด้วยกันหลายจุดหลังออกมาจาก"อุโมงแห่งความรัก" (เสียชีวิต)

* บุคคลหนึ่งคน ผู้สวมชุดตัวแมสคอต"แฮปปี้ฮิปโป" เสียชีวิตจากการขาดอากาศ โดยในปาก หลอดลม และปอดนั้นถูกอัดแน่นด้วยเส้นใยซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่บุในชุด (เสียชีวิต)

* บุคคลสิบห้าคนในโรลเลอร์โคสเตอร์ "ธริลเลอร์ชิลเลอร์" ทั้งหมดถูกตัดหัวด้วยการฟาดอย่างแรง พยานรายงานว่าการเสียชีวิตนั้นไม่ได้เกิดพร้อมกันทีเดียว แต่เกิดขึ้นทีละคู่จากแถวหน้าไปทีละแถว จากการวิเคราะห์นั้นเชื่อได้ว่าการเสียชีวิตแต่ละคู่นั้นเกี่ยวพันกับรอบหรือการเลี้ยวของราง (เสียชีวิตทั้งหมด)

* บุคคลหนึ่งคน พบที่ใต้รางของโรลเลอร์โคสเตอร์ "ธริลเลอร์ชิลเลอร์" คอหักและหัวกระแทกอย่างแรงจากการตกลงมาจากความสูงห้าสิบฟุตในท่ากลับหัว บุคคลดังกล่าวปลดตัวเองจากที่ล็อกนิรภัยได้ระหว่างทาง (เสียชีวิต)

* บุคคลหนึ่งคน พบตัวหลังถูกฉีกร่างใน"บ้านกระจก" แขนซ้ายพบห่างจากลำตัวไปสิบหกฟุตทางทิศเหนือ ขาซ้ายถูกพลิกนอกในและมัดไว้กับเพดานด้วยเส้นเอ็น ขาขวานั้นอยู่กับหมายเลข79และถูกกินไปบางส่วน (จากการวิเคราะห์ระบุว่ารอยฟันบนเนื้อและกระดูกนั้นเป็นของมนุษย์) จนถึงขณะนี้ยังไม่พบแขนขวา (รอดชีวิต)

<รายชื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมด สามารถดูได้ในเอกสาร 823-01-14 "พลเรือนผู้เสียชีวิตจากเหตุการ SCP-823-99-Euclid">

หลังเหตุการดังกล่าว หน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่ของสถาบัน Mobile Task Force Rho-71 ("โอริงามิโทดส์") ก็เข้าไปพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานการและดำเนินการปิดกั้นตามมาตรการ MTF Rho-71 ประสพความล้มเหลวในการหาตำแหน่งและสาเหตุของการเสียชีวิต เนื่องจากความสูญเสียของทีมระหว่างปฏิบัติการ (ดูในเอกสาร 823-01-15 "การเสียชีวิตของMTF Rho-71 จากเหตุการ SCP-823-99-Euclid") ซึ่งบางส่วนนั้นก็คือ...

* ผู้บัญชาการMTF Rho-71 ???????? ?????????? สาเหตุของการเสียชีวิต: ฆ่าตัวตายโดยการลุกล้ำทางเพศทางตาซ้าย ทำให้สมองได้รับความเสียหายจนไม่มีทางรอด

* เจ้าหน้าที่ ???? ???????? สาเหตุของการเสียชีวิต: ฆ่าตัวตาย ตอนที่พบศพนั้น กระสุนทั้งหมดถูกถอดออกและทิ้งปลอกกับหัวกระสุนไป ในกระเพาะและลำไส้พบดินปืน??กรัม ซึ่งเท่ากับกระสุนที่ถูกถอดออก

* เจ้าหน้าที่ ??? ??????? สาเหตุของการเสียชีวิต: ฆ่าตัวตาย ศพถูกพบในสภาพปอดฉีกขาดและกรามหัก ฟันที่หายไปนั้นอยู่ในปอดและหลอดลม

<รายชื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมด สามารถดูได้ในเอกสาร 823-01-15 "การเสียชีวิตของMTF Rho-71 จากเหตุการ SCP-823-99-Euclid">

หลังจากที่ฝ่ายปฏิบัติการเสียชีวิตถึง50% ผู้ดูแลในสถานที่ก็ได้สั่งยกเลิกภารกิจ มาตรการกักกันถูกเปลี่ยนจากกักเก็บเป็นเฝ้าระวังในที่เกิดเหตุ มาตรการปกปิดข้อมูลทางสื่อแบบมาตรฐานนั้นดำเนินไปตามปกติ รวมถึง-ข้อมูลปกปิด-

เพิ่มเติม 823-01 Re:การทำลายที่เกิดเหตุ ตามคำสั่งของO5 คำขอให้ทิ้งระเบิดทำลายที่เกิดเหตุถูกปฏิเสธเนื่องจากมีประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง การขาดแคลนเรื่องอธิบายที่จะใช้ปกปิดความจริง และการขาดความเข้าใจของสิ่งที่เป็นปัญหา

เพิ่มเติม 823-02 Re:เขตแดง จนถึงขณะนี้ SCP-823 ได้ปรับตำแหน่งซึ่งทำให้ต้องกำหนดบริเวณใหม่มาแล้วสามครั้ง ตลอดช่วงนี้ เขตแดงนั้นมีพื้นที่ใหญ่ขึ้น5%โดยประมาณ อัตราการขยายพื้นที่ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นในลักษณะแนวตรง (ดู รายงาน 823-02-07 "ผลการสำรวจ SCP-823 ครั้งที่ 7") ขอให้ปรับระดับเป็น Keterด้วย

เพิ่มเติม 823-03 Re:เพิ่มระดับเป็น Keter คำขอถูกสภาO5ปฏิเสธ เหตุผล: ไม่มีข้อมูลเพียงพอในการพิจารณาเพิ่มระดับ

(รูปในตอนนี้เป็นรูปถ่ายจริงๆจากสวนสนุกร้างหลายๆแห่งน่ะครับ)
LuZi   09-18-2012, 03:54 PM
#10
SCP-823 อันนี่โคตรสยองเลย ตายน่ากลัวกันทั้งนั้น Orz
This post was last modified: 09-18-2012, 03:55 PM by LuZi.



Pages (4): 1 2 3 4   
  
Users browsing this thread: 6 Guest(s)
Powered By MyBB, © 2002-2024 MyBB Group.
Made with by Curves UI.